หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

 ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพิษณุโลก

ความใจกว้างของคุณพ่อนิโคลาสยังปรากฏให้เห็นอีก      เมื่อท่านได้รับมอบหมายให้ไปช่วยสอน ภาษาไทยแก่คุณพ่อมิราแบลซึ่งเพิ่งจะเดินทางมาถึงประเทศไทย เวลาเดียวกัน    ท่านยังต้องเรียนภาษา จีนแคะและทำหน้าที่อภิบาลสัตบุรุษด้วย

ที่นี่เอง ท่านไม่ได้ทำหน้าที่สอนภาษาไทยแก่คุณพ่อมิราแบลดีเท่าที่ควร เพราะต้องรับภาระมากมาย หลายอย่าง   จนทำให้คุณพ่อมิราแบลรู้สึกไม่พอใจ นอกจากนี้ คุณพ่อนิโคลาสยังได้อธิบายเหตุผลต่อพระ สังฆราชแปร์รอสในจดหมายของท่านว่า ท่านไม่สามารถสอนภาษาไทยให้แก่คุณพ่อมิราแบลได้ดีนัก เพราะ ปัญหาในเรื่องการสื่อสาร และนอกเหนือจากงานอภิบาลที่วัดแล้ว  ท่านยังต้องรับหน้าที่สอนคำสอนให้แก่ คริสตังในวันอาทิตย์และสอนหนังสือให้แก่เด็กๆ อีกด้วย

“ข้าพเจ้าเห็นว่าตราบใดที่คุณพ่อบอนิฟาสอยู่ที่นั่น คุณพ่อนิโคลาสก็จะไม่ว่าง ข้าพเจ้าต้องฝึก หัดเพียงคนเดียวอยู่เสมอ ข้าพเจ้าต้องเสียเวลา  ข้าพเจ้าเคยอยู่ด้วยในเวลาที่คริสตังจีนแคะ สอนบทเรียนต่างๆ ให้แก่คุณพ่อนิโคลาส หนึ่งหรือสองครั้ง การสอนอธิบายเป็นภาษาไทย ซึ่ง ข้าพเจ้าไม่เพียงแต่ไม่เข้าใจเท่านั้น  แต่ไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่างภาษาไทยและ ภาษาจีนออก ทำให้ข้าพเจ้าสับสน ข้าพเจ้าได้ขอคำอธิบายจากคุณพ่อนิโคลาส”

“เวลานี้คุณพ่อมิราแบลเรียนภาษาไทย เนื่องจากไม่มีซินแส ข้าพเจ้าจึงไม่สามารถสอนท่านได้ ดีเพราะข้าพเจ้ายังไม่สามารถออกสำเนียงได้อย่างถูกต้อง    ส่วนข้าพเจ้าได้เรียกเด็กชายคน หนึ่งมาสอนข้าพเจ้าเวลากลางคืน เวลากลางวันนั้น     เขาไม่สามารถมาสอนได้เพราะต้องไป เรียนหนังสือทุกวัน”

 แต่ถึงกระนั้นคุณพ่อมิราแบลก็ยังกล่าวชมคุณพ่อนิโคลาสว่าเป็นคนกระตือรือร้น  ใจดี ศรัทธา ขยัน ขันแข็งในการทำงาน แม้ว่าจะชอบทำตามลำพังโดยไม่ปรึกษาหารือท่านเลยก็ตาม

"คุณพ่อนิโคลาสเป็นคนที่เปี่ยมไปด้วยความกระตือรือร้นและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่...    มันจะ เป็นการดีกว่า ถ้าอย่างน้อยเป็นเวลา 1 ปี และเลยกำหนดเวลาที่พระคุณเจ้าต้องการ   คุณพ่อ นิโคลาสจัดการทุกอย่างโดยมิได้ปรึกษาข้า พเจ้าเลย ไม่สนใจข้าพเจ้า และเขาตกลงเรื่องเหล่า นั้นโดยตรงกับพระคุณเจ้า ข้าพเจ้าต้องการให้เขาเป็นอิสระจากข้าพเจ้า        และข้าพเจ้าไม่มี อะไรมากไปกว่าต้องการอยู่ในที่ที่แท้จริงของข้าพเจ้า...    ข้าพเจ้าไม่ได้ต้องการให้ความชื่นช มของ พระคุณเจ้าที่มีต่อคุณพ่อนิโคลาสลดน้อยลง     เพราะเหตุว่าข้าพเจ้ามิได้มีความชื่นชม คุณพ่อนิโคลาสเพิ่มทวีขึ้น ข้าพเจ้าชื่นชมความศรัทธาของเขา,   ความกระตือรือร้น, ความเ อื้อเฟื้อ เผื่อแผ่, ความร้อนรนในการทำงานของเข า เป็นต้น... อีกครั้งหนึ่ง   คือข้าพเจ้าเองที่ต้ องปรับปรุงตัวเอง"

แต่จากจดหมายของคุณพ่อมิราแบลที่เขียนในเดือนเมษายนต่อมานั้น   คุณพ่อมิราแบลได้เล่าว่าการ เรียนภาษาจีนของคุณพ่อนิโคลาสก้าวหน้ามาก  รวมทั้งยังได้ช่วยแบ่งเบาภาระและให้ความช่วยเหลือแก่ คุณพ่อมิราแบลเป็นอย่างดีอีกด้วย

"คุณพ่อนิโคลาสเป็นผู้คงแก่เรียนคนหนึ่ง มีความก้าวหน้าในการเรียนภาษาจีนเป็นอย่างมาก และนอกจากนี้ เข ามีซินแสจีนคนหนึ่งซึ่งข้าพเจ้าไม่รู้ว่ามาจากไหน ได้มาหาเรา   ข้าพเจ้าไม่รู้ ด้วยซ้ำว่าเขาต้องการอะไร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะให้เขาทำอะไรได้บ้าง แต่ว่าเวลานี้เขาก็สามารถที่ จะเป็นผู้ให้บทเรียนภาษาจีนแก่เรา คุณพ่อนิโคลาสเวลานี้ได้เรียนรู้ภาษาจีนมากทีเดียว และรู้ สึกว่าเขาเองก็พอใจ เขาก็ได้ช่วยข้าพเจ้าด้วยเหมือนกัน ซึ่งก็ทำทุกอย่างที่จะช่วยข้าพเจ้า ถ้า หากข้าพเจ้าไม่มีความก้าวหน้า ก็เป็นสาเหตุมาจากตัวข้าพเจ้าเอง"

 จากรายงานประจำปีของพระสังฆราชแปร์รอสระหว่างปี ค.ศ. 1930-1931  เราพบว่าวัดพิษณุโลก เป็นงานเริ่มต้นของการก่อตั้งมิสซังเชียงใหม่และเป็นประหนึ่งศูนย์กลางการทำงานแพร่ธรรมทางภาคเหนือ ของประเทศเป็นเวลาถึง 13 ปีทีเดียว ก่อนที่จะสามารถซื้อที่ดินและก่อตั้งวัดที่เชียงใหม่ได้สำเร็จ

“พฤติการณ์เด่นในปีนี้คือ เราได้ตั้งกลุ่มคริสตังใหม่ที่เชียงใหม่ ซึ่งอยู่เหนือกรุงเทพฯ ขึ้นไป 750 กิโลเมตร  นานมาแล้วที่ข้าพเจ้าอยากให้ตั้งกลุ่มคริสตชนขึ้น     เราเริ่มไปตั้งสำนักที่ พิษณุโลกได้13 ปีมาแล้ว อยู่เหนือกรุงเทพฯ ขึ้นไป 400 กิโลเมตร สำนักนี้กำลังเจริญขึ้นทีละ น้อย ปีนี้โอกาสอำนวย เราซื้อที่ดินใหม่ที่เชียงใหม่      เพื่อสร้างบ้านพักมิชชันนารีและโบสถ์ น้อย ตลอดจนโรงเรียนสำหรับนักเรียนชาย และโรงเรียนสำหรับนักเรียนหญิง โรงเรียนหญิง นี้กำลังก่อสร้างอยู่”

งานที่พิษณุโลกเป็นงานที่ท้าทายและน่าบุกเบิก  แต่งานที่ต้องอาศัยพลกำลังกายและใจมากขึ้นก็คือ งานบุกเบิกที่เชียงใหม่ และภารกิจนี้จะตกแก่คุณพ่อนิโคลาสในเวลาต่อมา ที่พิษณุโลกนี้ คุณพ่อนิโคลาสและ คุณพ่อมิราแบลได้ร่วมมือกันก่อสร้างวัดไม้หลังใหม่ขึ้นแทนวัดน้อยหลังเดิมซึ่งคุณพ่ออังเดร พลอยโรจนเสน ได้สร้างไว้ก่อน

“ส่วนคุณพ่อนิโคลาสก็รับมอบหมายให้ไปอยู่ประจำวัดพิษณุโลกกับคุณพ่อมิราแบล    ทั้งสอง ท่านจึงช่วยกันร วบรวมคริสตังชาวจีน แล้วคุณพ่อมิราแบลตัดสินใจสร้างวัดใหม่แทนวัดน้อย หลังเดิมซึ่งคุณพ่ออังเดร พลอย โรจนเสน เคยสร้างไว้ก่อน”

เป็นที่น่าสังเกตว่า จากรายงานประจำปีของพระสังฆราชแปร์รอสปี ค.ศ. 1929ท่านรายงานถึงศูนย์ กลางของคณะที่กรุงปารีสว่า คุณพ่อมิราแบลได้เรียนภาษาจีนโดยไม่มีงานอะไรมารบกวน

“คุณพ่อมิราแบล (Mirabel) น้องสุดท้องของเราได้ไปทำงานแพร่ธรรมตลอดปีแรกกับพระสงฆ์ พื้นเมืององ ค์หนึ่ง ที่วัดทางเหนือของเทียบสังฆมณฑล คือที่พิษณุโลก ซึ่งมีแต่คริสตชนจีนคุณ พ่อได้เรียนภาษาจีนโดยไม่มีงานอะไรมารบกวน และในขณะเดียวกัน  ยังได้เรียนรู้ภาษาไทย บ้างนิดหน่อย ซึ่งต่อไปจะได้เรียนรู้ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว”

นี่ก็แสดงว่า     ภารกิจส่วนใหญ่ที่วัดพิษณุโลกนี้ตกอยู่ในความดูแลของคุณพ่อนิโคลาสเพราะคุณพ่อ มิราแบลเพิ่งเดินทางมาจากฝรั่งเศสและยังไม่สามารถใช้ภาษาไทยและภาษาจีนได้ คุณพ่อมิราแบลก็ยอมรับ ว่าคุณพ่อนิโคลาสเป็ นพระสงฆ์ที่มีใจร้อนรนมาก

“พระสังฆราชแปร์รอสส่งข้าพเจ้าไปพิษณุโลก... ข้าพเจ้าขอให้พระสังฆราชแปร์รอสส่งมิชชัน นารีที่มีประสบการณ์แล้วมาช่วยข้าพเจ้า       พระสังฆราชแปร์รอสตอบว่ายังไม่มีข้าพเจ้าจึง เสนอท่าน ขอให้ส่งพระสงฆ์ไทยองค์หนึ่งมาแทนข้าพเจ้าที่พิษณุโลกเพื่อข้าพเจ้าจะได้สามารถ บุกเบิกต่อไป แต่ขอคุณพ่อนิโกเลา (พระสงฆ์ไทย) มาช่วยเพราะท่านมีใจร้อนรนมาก”.