หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

การใส่ร้ายพวกคาทอลิกอย่างเป็นทางการ

โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร

ขอพูดถึงจดหมายฉบับหนึ่งของผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนครถึงนายคำสิงห์โดยเฉพาะเป็นพิเศ ษและถึงพวกคริสตังของท่าแร่ จดหมายลงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1941 นี่คือ

เอกสารหมายเลข 15

 เอกสารเกี่ยวกับพฤติการณ์อันชั่วร้าย มีใจความดังนี้

ที่ 1299/2484                                                                    ศาลากลางจังหวัดสกลนคร

17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2484

แจ้งความมายังนายคำสิงห์, บ้านท่าแร่

 เนื่องด้วยทางราชการได้สอบสวนนายศรีนวล ศรีวรกุล และนายคำผง กายราษฎร์(พระสงฆ์คาทอ ลิก) ในกรณีที่ต้องหาว่าเป็นจารกรรมให้แก่ฝรั่งเศสอินโดจีน  ในการสอบสวนมีการพาดพิงถึงท่านและค นในบ้านท่าแร่บางคน นอกจากนี้ยังปรากฏเนืองๆ ว่า ท่านกับพวกได้พยายามที่จะทำการปลุกปั่นขัดขว างชาวไทยที่จะกลับใจมาถือพุทธศาสนา ซึ่งเป็นศาสนาของคนชาติไทยทั้งเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2484 มีพระสงฆ์ ในพุทธศาสนาไปเที่ยวรับบิณฑบาตรและพักอยู่ที่บ้านท่าแร่   ก็ปรากฏว่ามีผู้เขียนประ กาศขึ้น ปิดในที่ใกล้ๆ กับที่พัก ของพระสงฆ์แห่งพุทธศาสนา มีข้อความแสดงอาฆาตจะทำร้าย จะเอาปืน ยิง จะเอาเพลิงเผาบ้านผู้นับถือพุทธศาสนา และทำการอุปการะพระสงฆ์ในพุทธศาสนาด้วย จึงส่อให้เห็น เจตนาอันไม่ดีของชาวโรมันคาทอลิกบางคนในบ้านท่าแร่   ซึ่งจะทำการก่อกวนความสงบเรียบร้อยขึ้นใน ระหว่างที่รัฐบาลประกาศใช้กฎอัยการศึก

จึงจำเป็นต้องทำการยึดอาวุธปืน      และใบอนุญาตของคนในบ้านท่าแร่ไปเก็บรักษาไว้และดำเนิน คดีต่อไป

 โดยเฉพาะตัวท่านและบางคน ทางการรู้สึกมีความเสียใจที่จะต้องดำเนินการสอบสวนและสังเกตก ารณ์ต่อไป ฉะนั้น ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป        ถ้าท่านจะออกไปนอกเขตจังหวัดสกลนครจะต้องรายงานตัว ขอรับอนุญาตต่อนายอำเภอเมืองสกลนครเป็นลายลักษณ์อักษรเสียก่อนทุกคราว ถ้าท่านขัดขืนไม่ปฏิบัติ ตามที่แจ้งมาให้ทราบนี้ จะถือว่าท่านจงใจละเมิดอำนาจในการรักษาความสงบเรียบร้อยของฝ่ายปกครอง บ้านเมือง.                                                                                                    ลงชื่อ นายสุข ฉายาชวลิต

ง. พวกคริสตังหนองแสง

เขียนจดหมายถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม

 ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1941 พวกคริสตังหนองแสงเขียนจดหมายถึงผู้ว่าราชการจังหวัด เล่าถึงค วามประหลาดใจเป็นอย่างมากที่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น   พวกเขาทำเป็นไม่เข้าใจว่าคำสั่งเหล่านี้มาจาก ที่ไหน? พวกเขาเล่าให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฟัง (เป็นคำพูดของคริสตังเก่าที่ละทิ้งศาสนา) ถึงเรื่องที่พบแล ะได้ยิน เป็นการเล่าเรื่องการเริ่มต้นเบียดเบียนศาสนาโดยพวกคริสตังเอง นี่คือ

เอกสารหมายเลข 16

 “เรื่องที่มีความทึ่งใจของคริสตศาสนิกชนนครพนมมีดังนี้

1. มีผู้ที่พูดดูถูกผู้ถือศาสนาคาทอลิกโดยแบ่งแยกบุคคล คือหมายความว่า  ผู้ถือศาสนานี้โดยหา ว่า ไม่ใช่เป็นคนไทย ซึ่งข้าพเจ้าเห็นว่าผิดรัฐนิยมและรัฐธรรมนูญ

2. ด่า ประจาน หรือทุรจารบาทหลวงซึ่งเป็นผู้มีอาวุโส เช่น บาทหลวง อ. ลาซารด์   เจ้าอาวาส บ้าน เชียงยืน ซึ่งเห็นว่าผิดหลักมารยาทไทย เพราะผู้กระทำล้วนแต่เป็นบุคคลซึ่งได้รับการศึกษาทั้งนั้น

3. ทำลายศาสนสมบัติของคาทอลิก ดังเช่น     ทำทุรจารสิ่งซึ่งถือว่าศักดิ์สิทธิ์   ดังเช่น จอกกาลิ กซ์        ไม้กางเขนซึ่งเสกแล้ว และเครื่องที่เกี่ยวกับเครื่องมิสซาซึ่งใช้ทำในพิธีกรรมทางศาสนา     เช่นใ ช้นั่งเล่นเพื่อ เยาะเย้ย ใช้ปูหลังม้าขี่ เช็ดเท้า เช็ดก้น ฯลฯ ดูเป็นการหยาบคายมาก มิหนำซ้ำยังทุบ ตี เต ะ ฯลฯ วัตถุต่างๆ เช่น พระรูปของพระเยซู แล ะนักบุญต่างๆ แม้ในวัดบางวัดซึ่งลูกปืนของข้าศึกมิได้ทำล ายก็มีการถูกทำลายด้วย เช่น วัดบ้านคำเกิ้ม ซึ่งห่างจากฝั่งน้ำโขงถึงประมาณ 2 กิโลเมตร ยังไม่เคยถูก กระสุนแม้แต่นัดเดียว ยังพลอยถูกทำลายด้วย

4. ทำการขู่เข็ญผู้ที่ถือศาสนาด้วยอาการต่างๆ เพื่อให้ละทิ้งศาสนาที่เคยถือของตน เช่น จับขังยิง ปืนขู่ หรือยิงจริง กล่าวร้ายต่างๆ การกระทำเช่นนี้เริ่มกระทำอย่างหนักในเดือนมกราคมจนถึงเดือนมีนา คมศกนี้ ข้าพเจ้าคาดว่าคงไม่ใช่มีคำสั่งจากวงการรัฐเลย แต่คงเป็นทางจังหวัดนี้ประดิษฐ์ทำกันเอง

5. ห้ามมิให้ทำกิจของศาสนาของตน   มีการปิดวัด  อารามนางชี และคอยจับกุมผู้ขัดขืน แม้แต่ สวด    ภาวนาในเรือนของตนก็ไม่ได้

 ส่วนวัดโรมันคาทอลิกบ้านท่าแร่ก็ได้รับการทุรจารเช่นเดียวกันกับวัดหนองแสง นครพนม เว้นแ ต่เงินของวัดบ้านท่าแร่ถูกเจ้าพนักงานริบเอาไป วัดบ้านท่าแร่ถูกทำลายไม้กางเขนเสียพระสงฆ์ในพุทธศ าสนามาอยู่ในโรงเรียนของวัด วัดต่างๆ ในเขตอีสานเกือบทุกวัดถูกเจ้าพนักงานริบไว้แล้วให้พระสงฆ์ใน พุทธศาสนา เข้าอยู่ในวัด ผู้ถือศาสนาโรมันคา ทอลิกทนไม่ไหวละทิ้งศาสนาไปส่วนมาก    ผู้ใดไม่ละทิ้งถูก จับกุมไปทำการสอบสวนต่างๆ

 คนถือศาสนาโรมันคาทอลิกวัดบ้านสองคอน เขตอำเภอมุกดาหาร  ถูกฆ่าตายจำนวน6 คน  เพรา ะไม่ ยอมละทิ้งศาสนา

คุณพ่อเอดัวรด์ถูกจับถูกขัง ถูกหาว่าเป็นกบฏภายใน ถูกใส่ตรวนหนัก   คุณพ่อศรีนวลคุณพ่อค ำผง ถูกจับ ถูกขัง เวลานี้ให้ประกัน แต่อยู่ในวงเขตของทางการ”

นี่คือรายละเอียดในจดหมายของพวกคริสตังหนองแสงที่มีไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พว กเขา ไม่ได้รับคำตอบ

 ผู้ว่าราชการจังหวัดไม่รู้ถึงสิ่งที่พวกคริสตังที่น่าสงสารรอคอยอยู่   สำหรับตัวพวกเขาเองและวัด ของ พวกเขา

จดหมายของพระสังฆราชดราปิเอร์, ผู้แทนพระสันตะปาปา         ถึงพระสังฆราชแปร์รอสลงวัน ที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 1941 นี่คือ

เอกสารหมายเลข 17

 นี่คือสาระสำคัญ

ข่าวที่ข้าพเจ้าได้รับจากพระสังฆราชกูแองไม่น่าชื่นชมเลย ทีละเล็กทีละน้อย  มันเป็นการแน่ชัดว่ านี่ เป็นการมุ่งทำลายพระศาสนจักรโดยเฉพาะ และปัญหากับฝรั่งเศสเป็นเพียงหน้ากากบังหน้าเพื่อกา รเคลื่อน ไหวต่างๆ และวัตถุประสงค์แท้จริงคือ เขาต้องการทำลายคริสตศาสนาในประเทศสยามให้สิ้นซา ก