หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

ลักษณะทางศีลธรรม

11. เมื่อได้ศึกษาเอกสารต่างๆ และคำให้การของพยาน เราพบคุณธรรมหลายข้อของผู้รับใช้ของพระเป็นเจ้า คุณธรรมเหล่านี้เป็นบ่อเกิดแห่งจิตตารมณ์ คุณธรรมแห่งความเชื่อและความรัก สิ่งเหล่านี้คือพลังในความเชื่อมั่นสำหรับท่านในการยอมรับความเป็นมรณสักขีตามน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า

 เป็นที่น่าสังเกตว่า ในระหว่าง 6 ปี ที่ผู้รับใช้ของพระเป็นเจ้าอยู่ที่บ้านเณรใหญ่ที่ปีนังนั้น เป็นหน้าที่ของคุณพ่ออธิการบ้านเณรจะต้องเขียนรายงานผลการเรียน ความประพฤติของสามเณร ให้แก่พระสังฆราชของสามเณรเหล่านั้นได้ทราบเป็นประจำทุกปี จากรายงานต่างๆ เหล่านี้ เราพบเฉพาะรายงานระหว่างปี ค.ศ. 1920-1924 ทั้งจากจดหมายเหตุของบ้านเณรใหญ่ที่ปีนัง และจากจดหมายต่างๆ ที่เก็บรักษาไว้ในหอจดหมายเหตุอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ จากรายงานเหล่านี้เราทราบว่า ผู้รับใช้ของพระเป็นเจ้าเป็นผู้มีความประพฤติดี, กา รเรียนอยู่ในขั้นดีพอใช้, มีสุขภาพดี มีความขยันหมั่นเพียรเป็นที่น่าพอใจมาก อุปนิสัยโดยทั่วไปดี แต่มีนิสัยค่อนข้างอวดดี, หงุดหงิดง่าย อารมณ์อ่อนไหว และดื้อรั้น

คุณพ่ออธิการบ้านเณรใหญ่ที่ปีนังเวลานั้นคือ คุณพ่อยืสแตง ปาแยส เป็นอธิการบ้านเณรใหญ่ที่ปีนังระหว่างปี ค.ศ. 1917-1931 ได้เขียนจดหมายถึงพระสังฆราชเรอเน แปร์รอส รายงานว่า:

 "ชุนกิมทำให้ข้าพเจ้าไม่พอใจมาก ความประพฤติภายนอกของเขาดีมาก แต่เขาเป็นคนอวดดี และข้าพเจ้าเชื่อว่าเขาไม่มีการตัดสินที่ถูกต้อง วันหนึ่งด้วยความใจร้อน ข้าพเจ้าเกรี้ยวกราดเขาด้วยความฉุนเฉียว และบอกให้เขารู้ถึงข้อบกพร่อง 4 อย่างของเขา ข้าพเจ้ายังเสริมอีกว่า ถ้าเขาไม่เปลี่ยนแปลงนิสัย เขาจะไปไม่ถึงศักดิ์สงฆ์เลย เขาสัญญากับข้าพเจ้าว่าจะปรับปรุงตัวเอง และขอร้องให้ข้าพเจ้าคอยตักเตือน ข้าพเจ้าหวังว่าเขาจะเปลี่ยนแปลง"

 และในปีต่อมา คุณพ่อปาแยสได้เขียนรายงานความก้าวหน้าของผู้รับใช้ของพระเป็นเจ้าดังต่อไปนี้:

 "ชุนกิมทำได้ดี ยังคงค่อนข้างหัวดื้ออยู่บ้าง เขามีเจตนาดีไม่ถือตามความพอใจของตน และยังทำตามคำแนะนำที่เราให้เขา"

 ที่สุด ในปี ค.ศ. 1925 คุณพ่อปาแยสได้ชมสามเณรชุนกิมว่า ได้ปรับปรุงตัวดีขึ้น เป็นคนมีน้ำใจ, มีควา มศรัทธา, เอาจริงเอาจังในการทำงานโดยไม่ย่อท้อ และรู้จักทำตนให้เป็นที่พอใจคุณพ่อปาแยสได้เขียนในจดหมายลงวันที่ 9 เมษายน ค.ศ. 1925 กล่าวว่า:

 "ชุนกิมปรับปรุงตัวดีขึ้น เขาเป็นคนศรัทธา เอาจริงเอาจัง และไม่กลัวการทำงาน เป็นคนค่อนข้างมักน้อย"

 จากเอกสารที่น่าสนใจเหล่านี้ ทำให้เราได้เรียนรู้ว่า ผู้รับใช้ของพระเป็นเจ้ามีนิสัยเป็นตัวของตัวเอง และ ยังมีข้อบกพร่องตามประสามนุษย์ แต่เมื่อท่านตระหนักถึงหน้าที่สงฆ์ในอนาคต ก็สามารถละทิ้งน้ำใจตนเอง ปรับปรุงตัวจนเป็นที่พอใจของการอบรมให้เป็นพระสงฆ์ได้ และจากบุคลิกของท่านดังกล่าวนี้ ก็ยังนำประโยชน์ในการแพร่ธรรมของท่านในเวลาต่อมาอย่างมากด้วย

 12. คุณพ่อมิราแบลยังได้กล่าวชมผู้รับใช้ของพระเป็นเจ้าว่าเป็นคนกระตือรือร้น ใจดี ศรัทธา ขยันขันแข็งในการทำงาน แม้ว่าจะชอบทำโดยลำพังโดยโดยไม่ปรึกษาคุณพ่อมิราแบล เลยก็ตาม

 "คุณพ่อนิโคลาสเป็นคนที่เปี่ยมไปด้วยความกระตือรือร้นและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่... มันจะเป็นการดีกว่าถ้าอย่างน้อยเป็นเวลา 1 ปี และเลยกำหนดเวลาที่พระคุณเจ้าต้องการ คุณพ่อนิโคลาสจัดการทุกอย่างโดยมิได้ปรึกษาข้าพเจ้าเลย ไม่สนใจข้าพเจ้า และเขาตกลงเรื่องเหล่านั้นโดยตรงกับพระคุณเจ้า ข้าพเจ้าต้องการให้เขาเป็นอิสระจากข้าพเจ้า และข้าพเจ้าไม่มีอะไรมากไปกว่าต้องการอยู่ในที่ที่แท้จริงของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่ได้ต้องการให้ความ ชื่นชมของพระคุณเจ้าที่มีต่อคุณพ่อนิโคลาสลดน้อยลง เพราะเหตุว่าข้าพเจ้ามิได้มีความชื่นชมคุณพ่อนิโคลาสเพิ่มทวีขึ้น ข้าพเจ้าชื่นชมความศรัทธาของเขา, ความกระตือรือร้น, ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่, ความร้อนรนในการทำงานของเขาเป็นต้น อีกอย่างหนึ่ง คือข้าพเจ้าเองที่ต้องปรับปรุงตัว"

 นายเจริญ ราชบัวขาว ได้เห็นคุณธรรมต่างๆ ของผู้รับใช้ของพระเป็นเจ้าและให้การว่า:

 "ข้าพเจ้ารู้จักคุณพ่อนิโคลาสเป็นอย่างดีตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน ในระหว่างที่พวกเราถูกขังคุก ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าท่านเป็นผู้ที่เคร่งครัดในศาสนา และเป็นผู้เสียสละเพื่อประโยชน์ของผู้อื่นเสมอโดยยึดถือพระวรสาร ท่านสอนผู้คนให้รักเพื่อนมนุษย์ของพระเยซูเจ้าอย่างเคร่งครัด คุณพ่อเป็นคนพูดจริงทำจริง เด็ดขาด มีใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เท่าที่ข้าพเจ้าได้มีประสบการณ์กับพระสงฆ์หลายๆ องค์ ข้าพเจ้าเห็นว่าคุณพ่อนิโคลาสดีที่สุด เพราะท่า นเป็นผู้เสียสละเพื่อพี่น้องอย่างแท้จริง ยิ่งกว่านี้ ท่านไม่มีความโลภ แต่ทำทุกอย่างเพื่อส่วนรวมที่สุด ท่านได้สอนพวกเราอยู่เสมอให้มีความอดทน และปล่อยให้เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระ ท่านบอกพวกเราว่า พวกเราถูกจับเป็นความพอใจของพระ ดังนั้น พวกเราจะต้องอดทน

 เขายังได้กล่าวเพิ่มเติมถึงคุณความดีเรื่องการแบ่งปันของผู้รับใช้ของพระเป็นเจ้าด้วย

 "เมื่อใดก็ตาม ที่ท่านได้รับอาหารจากญาติพี่น้อง ท่านก็แบ่งปันให้บรรดานักโทษ โดยเฉพาะพวกที่น่าสงสาร ท่านเป็นคนไม่เห็นแก่ตัว"

 นางเง็กซี กิจสงวน ได้ยืนยันถึงคุณธรรมข้อนี้ดังต่อไปนี้:

 "ข้าพเจ้าเชื่ออย่างนั้น เพราะท่านเป็นพระสงฆ์ที่อดทน ที่ (ดิน) มรดกของบิดาคุณพ่อนิโคลาสฝากไว้ แต่ไม่ได้ให้ท่าน ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร"

 จิตใจที่เสียสละ ได้รับการบอกเล่าอย่างชัดเจนโดย นายวันนา ไพรจันทึก:

 "คุณพ่อนิโคลาสบอกกับชาวบ้านที่ถูกจับว่า ให้โยนความผิดให้ท่านผู้เดียว ชาวบ้านจะได้กลับบ้านได้ การนำเสนอคุณพ่อนิโคลาสเป็นบุญราศีนั้น ข้าพเจ้าเห็นว่าดี เหมาะสม เพราะท่านเป็นคนดี มีใจนักบุญ"

 นายสุเทพ ศรีสุระ ได้ให้การเรื่องความศักดิ์สิทธิ์และงานอภิบาลของผู้รับใช้ของพระเป็นเจ้าว่า:

 "ท่านเป็นพระสงฆ์ที่ศักดิ์สิทธิ์ สนใจงานอภิบาล เป็นที่รักของบรรดาสัตบุรุษ"

 เขายังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า:

 "ไม่มีใครว่าคุณพ่อ มีแต่คนว่าคุณพ่อนักบุญ"

 สำหรับคุณธรรมเรื่องความรักและความเมตตา พยานได้กล่าวว่า:

 "หลายคนเห็นและเล่าเหมือนกันว่า คุณพ่อไม่ห่วงข้าวของเลย ไม่ห่วงตัวของคุณพ่อเอง เอาอาหารไปแจกสัตบุรุษ คนคุกที่เจ็บป่วย คุณพ่อก็จะไปฟังแก้บาป ไปเตือนเขา ล้างบาปให้เขา"

 สำหรับคุณธรรมเรื่องชีวิตสมถะ นายแก้ว พันธุ์สมบัติ ได้ให้การว่า:

 "ลักษณะนิสัยของคุณพ่อเป็นคนโอบอ้อมอารี เข้ากันได้กับทุกคน กินอยู่ง่ายๆ เหมือนคนทั่วไป"

 เขายังได้อธิบายถึงชีวิตการภาวนาของผู้รับใช้ของพระเป็นเจ้าว่า:

 "คุณพ่อมีชีวิตการภาวนา สวดภาวนาในวัดทุกวันราวๆ ตอนเย็น คุณพ่อใช้เวลาสวดนับเป็นชั่วโมง ข้าพเจ้าเชื่อว่าคุณพ่อนิโคลาสยอมทำตามน้ำพระทัยของพระและตายในคุกอย่างมรณสักขี"

 นายประเสริฐ ศรีสุระ ได้ยืนยันถึงคุณธรรมข้อนี้ดังต่อไปนี้:

 "ตอนค่ำ คุณพ่อได้เชิญสัตบุรุษ เด็กๆ นักเรียน พ่อบ้าน แม่บ้าน ไปสวดตอนค่ำ สวดเสร็จ คุณพ่อได้สอนคำสอนต่อ ท่านรักเด็กมาก ท่านสอนคำสอนและแปลคำสอน สัตบุรุษก็รักคุณพ่อและชอบคุณพ่อ ท่านขยันและศรัทธามาก"

 พยานผู้รู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดมีความคิดเห็นเหมือนกันเกี่ยวกับผู้รับใช้ของพระเป็นเจ้าว่า ท่านเปี่ยมไปด้วยคุณธรรมต่างๆ ซึ่งแสดงว่าผู้รับใช้ของพระเป็นเจ้าเปี่ยมไปด้วยความรัก ความเชื่อ และความไว้วางใจในพระเป็นเจ้า

 13. คุณพ่อยัง-ปอล ลังฟังต์ ผู้เป็นหัวหน้าคณะกรรมาธิการด้านประวัติศาสตร์ และได้ศึกษาชีวิตของผู้รับใช้ของพระเป็นเจ้า ได้ชี้ให้เห็นถึงคุณธรรมบางข้อดังต่อไปนี้:

 "ท่านเป็นผู้ที่สวดภาวนาอย่างสม่ำเสมอคนหนึ่ง และกระตือรือร้นต่อการแพร่ธรรม รำพึงภาวนา สวดทำวัตร ทำมิสซา เทศน์สอน และเยี่ยมเยือนไม่แต่เฉพาะพวกคริสตังเท่านั้น แต่ยังไปเยี่ยมเยือนพวกที่ไม่ใช่คริสตังด้ วย ข้าพเจ้าคิดว่าท่านเป็นแบบอย่างที่น่าทึ่ง"

 คุณพ่อปิยะ โรจนะมารีวงศ์ ได้ให้ความคิดเห็นในเรื่องนี้ด้วย:

 "ท่านเป็นผู้อุทิศทั้งความรักและการเป็นพระสงฆ์ที่กระตือรือร้น ท่านมีความซื่อสัตย์ต่อข้อคำสอนของพระศาสนจักร"

 สำหรับคุณธรรมเรื่องความรัก ท่านกล่าวว่า:

 "คนส่วนใหญ่ได้บอกว่าคุณพ่อนิโคลาสเป็นพระสงฆ์ที่ดีและศักดิ์สิทธิ์ โดยตัดสินจากชีวิตที่เรียบง่ายของท่าน ท่านเป็นนักบุญองค์หนึ่งในใจของสัตบุรุษ ท่านเอาใจใส่พวกเขาทั้งทางด้านวัตถุและจิตใจ ท่านพยายามหาทางช่วยเหลือสัตบุรุษของท่านให้มีชีวิตที่ดีขึ้นอยู่เสมอๆ"

 ที่สุด คุณพ่อปิยะได้สรุปเกี่ยวกับคุณธรรมต่างๆ ของผู้รับใช้ของพระเป็นเจ้าดังต่อไปนี้:

  "เราอยากจะสรุปจุดเด่นของคุณสมบัติบางข้อของท่าน:

  - คุณพ่อเป็นผู้มีความกระตือรือร้นในการที่จะทำการแพร่ธรรมเพื่อพระเป็นเจ้า ในจดหมายนั้นได้กล่าวถึงเรื่องการสอนคำสอน หรือบางครั้งบางคราวเมื่อคุณพ่อเดินทางไปพม่า ไปดูพระศาสนจักรในประเทศพม่านั้น ก็มักจะเปรียบเทียบงานของพระศาสนจักรพม่ากับงานของพระศาสนจักรในเมืองไทยเป็นอย่างไร

  - คุณพ่อเป็นคนใจกว้าง ให้ความช่วยเหลือต่อผู้อื่น เป็นต้น ผู้ตกทุกข์ได้ยาก

  - คุณพ่อเป็นคนเมตตากรุณา มีความรู้สึกรักและสงสารผู้อื่น เป็นต้น คนที่มีความยากลำบาก เวลาเดินทาง ลูกจ้า งได้รับจ้างแบกของ คุณพ่อเห็นว่าเขาต้องแบกของหนัก เหนื่อยทั้งวัน เพื่อหวังจะได้ค่าจ้างเพื่อประทังชีวิตเพราะเขาเกิดมาเป็นคนจน

  - คุณพ่อเป็นคนมีใจสุภาพ ทุกครั้งที่มีเรื่องราวในการปฏิบัติงาน เมื่อเกิดความไม่แน่ใจในข้อปฏิบัติบางข้อ
ก็มักจะเขียนจดหมายมาปรึกษาพระสังฆราช และก็ปฏิบัติตามนั้น

  - คุณพ่อเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล มองเห็นความสำคัญของการศึกษา ดูแลเอาใจใส่ให้มีโรงเรียน เป็นต้น เต รียมบุคลากรที่จะมาเป็นครูสอนสำหรับเด็กนักเรียน คัดเลือกเด็กวัยรุ่นบางคนเพื่อส่งไปศึกษาเล่าเรียนในชั้นสูงขึ้น จบแล้วจะได้กลับมาเป็นครู

  - คุณพ่อยังมีคุณสมบัติอีกอย่างหนึ่งคือ เป็นคนที่แม้ว่าถูกกดดัน ถูกกล่าวหาใส่ร้ายต่างๆ แม้คุณพ่อจะรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจก็ตาม ในที่สุด คุณพ่อก็ให้อภัย จะคิดและพูดเสมอว่าอุปสรรคที่ไหนก็มีทั้งสิ้น ขอให้เป็นน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า และพระเป็นเจ้านั้นได้รับเกียรติมงคล"