ตอน ๒  กระบวนการปลด  และโยกย้ายเจ้าอาวาส

บท ๑ วิธีการดำเนินการปลดเจ้าอาวาส

Can.1740 When the ministry of any pastor has become detrimental or at least ineffective for any reason, even through no grave fault of his own, he can be removed from the parish by the diocesan bishop.

Can.1741 The reasons for which a pastor can be legitimately removed from his parish are especially the following:

1. a way of acting which is gravely detrimental or disturbing to the ecclesial community;

2. incompetence or a permanent infirmity of mind or body which renders a pastor incapable of performing his duties in a useful way;3. loss of good reputation among upright and good parishoners or aversion to the pastor which are foreseen as not ceasing in a short time;

4. grave neglect or violation of parochial duties which persist after a warning;

5. poor administration of temporal affairs with grave damage to the Church whenever this problem cannot be remedied in any other way.

Can.1742 $1. If after an inquiry has been conducted, it is proven that a cause mentioned in can.1740 is present, the bishop is to discuss the matter with two pastors from the group permanently selected for this by the presbyteral council after their being proposed by the bishop; but if subsequently he decides that the removal must take place, he is paternally to persuade the pastor to resign the pastorate within a period of fifteen days, after he has explained, for validity, the reason and the arguments for removal.

$2. The prescription of can.682, $2 is to be observed concerning pastors who are members of a religious institute or a society of
apostolic life.

Can.1743 A resignation by a pastor can be submitted not only purely and simply but also conditionally provided that this can be legitimately accepted by the bishop and is actually accepted.

Can.1744 $1. If the pastor has not answered within the aforementioned time period the bishop is to repeat the invitation extending the available time for response.

$2. If the bishop has the proof that the pastor has received the second invitation but has not responded although not hindered by any impediment or if the pastor refused to resign giving no reasons, the bishop is to issue the decree of removal.

Can.1745 But if the pastor opposes the cause alleged for removal and its reasons, alleging reasons which appear insufficient to the bishop, in order for the latter to act validly, he is to:

1. invite the pastor to organize his challenges to removal in a written report, having inspected the acts, and also to offer proofs to the contrary, if he has any;

2. consider the matter with the same pastors mentioned in can.1742, $1 unless others must be designated due to their inability, after he has completed the instruction if necessary;

3. finally determine whether or not the pastor must be removed and promptly issue a decree on the matter.

Can.1746 When the pastor has been removed, the bishop is to provide for him through an assignment to another office, if he is suitable for this, or through a pension, as the case requires and circumstances permit.

Can.1747 $1. The removed pastor must abstain from exercising the office of pastor, vacate the rectory immediately, and hand over all that pertains to the parish to the one to whom the bishop shall entrust the parish.

$2. If there is question of a sick pastor who cannot be transferred elsewhere from the rectory without inconvenience, the bishop is to leave the rectory even to his exclusive use while this need lasts.

$3. While recourse is pending against the decree of removal, the bishop cannot name a new pastor but meanwhile is to provide a parish administrator.

มาตรา ๑๗๔๐ เมื่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าอาวาสองค์ใดก่อให้เกิดผลเสียหายหรืออย่างน้อยไม่มีประสิทธิภาพด้วยเหตุผลบางประการ แม้ว่าไม่ได้เป็นความผิดหนักของท่านเอง ท่านสามารถถูกปลดจากวัดโดยพระสังฆราชสังฆมณฑล

มาตรา ๑๗๔๑ เหตุผลที่สามารถปลดเจ้าอาวาสโดยชอบด้วยกฎหมายจากวัดของท่าน มีดังต่อไปนี้

๑. วิธีปฏิบัติที่ก่อให้เกิดผลเสียร้ายแรง หรือก่อให้เกิดความไม่สงบต่อชุมชนพระศาสนจักร

๒. ขาดความสามารถ หรือเจ็บป่วยทางจิตหรือทางกายแบบถาวร ซึ่งทำให้เจ้าอาวาสไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิผล

๓. การเสียชื่อเสียงที่ดีท่ามกลางสัตบุรุษที่ดีและศรัทธา หรือมีความไม่พอใจต่อเจ้าอาวาส ซึ่งคาดการว่าจะไม่จบลงในเวลาอันสั้น

๔. มีการละเลยหรือละเมิดอย่างร้ายแรงต่อหน้าที่เจ้าอาวาส และยังเป็นเช่นนั้นหลังจากได้รับการเตือนแล้ว

๕. บริหารทรัพย์สินไม่ดี ก่อให้เกิดความเสียร้ายแรงต่อพระศาสนจักรที่ไม่อาจแก้ไขได้ด้วยวิธีอื่นใด

มาตรา ๑๗๔๒ วรรค ๑ หากการสอบสวนแสดงว่ามีเหตุผลตามที่ระบุมาตรา ๑๗๔๐ พระสังฆราชต้องถกเรื่องนี้กับพระสงฆ์เจ้าอาวาส ๒ องค์ที่เลือกจากกลุ่มที่ตั้งขึ้นอย่างถาวร โดยสภาสงฆ์ตามข้อเสนอของพระสังฆราชเพื่อการนี้  ถ้าพระสังฆราชเห็นว่าท่านต้องดำเนินการปลดเพื่อความถูกต้อง พระสังฆราชต้องชี้แจงเหตุผลและข้อพิสูจน์แก่เจ้าอาวาส และขอร้องเจ้าอาวาสเยี่ยงบิดาให้ลาออกจากวัดภายใน ๑๕ วัน

วรรค ๒ ข้อกำหนดของมาตรา ๖๘๒ วรรค ๒ ต้องนำมาใช้กับเจ้าอาวาสที่เป็นสมาชิกของสถาบันนักพรต หรือของคณะชีวิตแพร่ธรรม

มาตรา ๑๗๔๓ พระสงฆ์เจ้าอาวาสยื่นการลาออกไม่เพียงแต่แบบบริสุทธิ์  และแบบธรรมดาเท่านั้น แต่เป็นแบบมีเงื่อนไขได้ด้วย ขอเพียงแต่พระสังฆราชสามารถรับเงื่อนไขได้โดยชอบด้วยกฎหมาย และท่านก็รับจริงๆ

มาตรา ๑๗๔๔ วรรค ๑ หากพระสงฆ์เจ้าอาวาสไม่ได้ตอบภายในเวลาที่กำหนด พระสังฆราชต้องย้ำการขอร้องของท่าน โดยขยายเวลาสำหรับการตอบ

วรรค ๒ หากเป็นที่ชัดแจ้งแก่พระสังฆราชว่า พระสงฆ์เจ้าอาวาสได้รับคำขอร้องครั้งที่สองแต่ไม่ได้ตอบ แม้ไม่มีข้อขัดขวางใดเป็นอุปสรรคให้ทำดังกล่าว หรือหากพระสงฆ์เจ้าอาวาสปฏิเสธที่จะลาออกและไม่ให้เหตุผล พระสังฆราชต้องออกคำสั่งปลด

มาตรา ๑๗๔๕ อย่างไรก็ตาม หากพระสงฆ์เจ้าอาวาสคัดค้านสาเหตุการปลดและเหตุผลในการปลด โดยเหตุผลซึ่งปรากฏว่าไม่มีน้ำหนักต่อพระสังฆราช เพื่อพระสังฆราชจะปฏิบัติอย่างถูกต้อง ท่านต้อง :

๑. เชิญพระสงฆ์ให้มาตรวจสอบคดี เพื่อเขียนคำคัดค้านการปลดเป็นลายลักษณ์อักษร และยิ่งกว่านั้นให้หลักฐานพิสูจน์แย้ง หากมี

๒. หลังจากนั้นให้สรุปคดีหากจำเป็นและพิจารณาเรื่องพร้อมกับพระสงฆ์เจ้าอาวาส ๒ คนเดิม ดังระบุในมาตรา ๑๗๔๒ วรรค ๑ เว้นไว้แต่ว่าพระสงฆ์อื่นต้องได้รับการแต่งตั้งเหตุเพราะความไม่สามารถของเจ้าอาวาส ๒ คนเดิม

๓. ในที่สุดต้องตัดสินใจว่า ต้องปลดพระสงฆ์เจ้าอาวาสหรือไม่ และออกคำสั่งเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยไม่ชักช้า

มาตรา ๑๗๔๖ เมื่อพระสงฆ์เจ้าอาวาสถูกปลดแล้ว พระสังฆราชต้องมอบหน้าที่อื่นให้ หากเขาเหมาะสมกับหน้าที่นั้น หรือให้พักจากหน้าที่ตามที่กรณีอนุญาตให้ทำ

มาตรา ๑๗๔๗ วรรค ๑ พระสงฆ์เจ้าอาวาสที่ถูกปลดต้องหยุดจากการปฏิบัติหน้าที่เจ้าอาวาส ให้ออกจากบ้านพักพระสงฆ์โดยเร็วเท่าที่จะทำได้ และมอบทุกสิ่งที่เป็นของวัดแก่พระสงฆ์ที่พระสังฆราชได้มอบวัดให้

วรรค ๒ กระนั้นก็ดี หากมีปัญหาว่าเจ้าอาวาสผู้นั้นป่วยจนไม่สามารถย้ายจากบ้านพักพระสงฆ์ไปอยู่ที่อื่นโดยสะดวกได้ พระสังฆราชต้องปล่อยให้เขาใช้บ้านพักพระสงฆ์นานเท่าที่ยังมีความจำเป็นอยู่ แม้เป็นการใช้เพื่อเขาเองโดยเฉพาะ

วรรค ๓ ขณะที่การร้องเรียนสู้คำสั่งปลดยังไม่สิ้นสุด พระสังฆราชไม่สามารถแต่งตั้งเจ้าอาวาสใหม่ แต่ในระหว่างนั้นท่านต้องจัดให้มีผู้บริหารวัด