ศิลปะแบบคริสต์พัฒนาขึ้นและถูกใช้ในการตกแต่งสถานนมัสการ
รวมไปถึงสถานที่ฝังศพ ศิลปะคริสต์ส่วนใหญ่ไม่สามารถแสดงในที่สาธารณะได้ เป็นเพราะคริสต์ศาสนาเป็นศาสนาต้องห้าม และถูกเบียดเบียนโดยจักรพรรดิ ในสมัยแรกๆ คริสตชนมีความสงสัยเกี่ยวกับการใช้รูปภาพศาสนา ภูมิหลังของศาสนายิวมีอิทธิพลต่อคริสตชน ในการต่อต้านการนำเสนอภาพของพระเจ้า และพวกเขากลัวว่าประชาชนจะหันไปนมัสการรูปเคารพแทนพระเจ้า
ศิลปะสามารถโน้มเอียงไปสู่การนับถือรูปเคารพ เช่นเดียวกับการนมัสการของคนต่างศาสนา ในทางกลับกันคริสตชนหลายคนมีความรู้สึกว่าการสร้างงานศิลปะที่สวยงาม เป็นวิถีทางหนึ่งในการนมัสการพระเจ้า ศิลปะยังช่วยแสดงออกและเป็นเครื่องหมายถึงความเชื่อแท้จริงและพระคัมภีร์ด้วย ทีละเล็กทีละน้อยศิลปะค่อยๆ ได้รับอนุญาตให้วางในสถานนมัสการของคริสตชน ในขณะที่พระศาสนจักรพยามยามนำความคิดพื้นฐานของความเชื่อในองค์พระเยซูเจ้า เข้าไปในชีวิตคริสตชนโดยผ่านทางพิธีกรรม ในสุสานใต้ดินตั้งแต่ดั้งเดิม เราพบภาพตัวอย่างแรกๆ ของศิลปะแบบคริสต์ รูปภาพคริสต์ศาสนาไม่ถูกพบในสถานที่สาธารณะ เพราะว่าคริสต์ศาสนายังเป็นศาสนาต้องห้าม
ศิลปะแบบคริสต์บนกำแพงในสุสานใต้ดิน แสดงภาพที่มีชื่อเสียงมากมายจากพันธสัญญาเดิมและพันธสัญญาใหม่ อาทิเช่น ดาเนียลในถ้ำสิงโต เรือโนอาห์ โยนาห์ และปลาวาฬ พระเยซูเจ้าทรงปลุกลาซาลัสให้กลับคืนชีพ คริสตชนใช้ภาพของการปลดปล่อยจากความตายเพื่ออธิบายถึงความเชื่อของพวกเขาเกี่ยวกับชีวิตนิรันดร เป็นอิสระจากปีศาจและความทุกข์ยาก บ่อยครั้งที่ศิลปะแบบคริสต์วาดภาพพระเยซูเจ้า ตั้งแต่พระองค์ทรงนำบรรดาวิญญาณเข้าสู่สวรรค์ บ่อยๆ ก็วาดภาพพระเยซูเจ้า นายชุมพาบาลผู้ใจดี |