ในค.ศ.355
จูเลียนถูกเรียกตัวในระหว่างการศึกษาเล่าเรียนและได้รับการแต่งตั้งเป็นซีซาร์ หัวหน้าผู้ช่วยของจักรพรรดิ พระองค์ถูกส่งไปแคว้นโกล จูเลียนเป็นผู้บัญชาการกองทหารที่ดีมากและบรรดาทหารชื่นชมพระองค์อย่างมาก ซึ่งสร้างความประหลาดใจแก่คนจำนวนมาก พระองค์ปกครองด้วยความยุติธรรมและเต็มไปด้วยความเมตตากรุณา ในค.ศ.360 จักรพรรดิคอนสแตนติอุสสั่งให้จูเลียนส่งทหารโรมันไปช่วยทำสงครามต่อต้านพวกเปอร์เซียทางภาคตะวันออก
พวกทหารได้ก่อการกบฏต่อคอนสแตนติอุส และประกาศแต่งตั้งจูเลียนเป็น ออกัสตัส หลังจากนั้นต่อมาคอนสแตนติอุสก็สิ้นพระชนม์ ในระหว่างที่ใกล้จะตาย พระองค์ได้ประกาศแต่งตั้งจูเลียน ให้เป็นผู้สืบตำแหน่งของพระองค์ จักรพรรดิจูเลียนประกาศละทิ้งคริสต์ศาสนาอย่างเปิดเผย และเริ่มให้การสนับสนุนรูปแบบเก่าๆ ของลัทธินอกรีต ฟื้นฟูสิทธิพิเศษเก่าๆ สำหรับลัทธินอกรีตและยกเลิกสิทธิพิเศษสำหรับคริสตชน
พระองค์ปลดบรรดาคริสตชนออกจากตำแหน่งในรัฐบาล ยังได้ห้ามคริสตชนสอนธรรมประเพณีโบราณเก่าแก่ บางทีก็ให้คริสตชนไปเรียนในโรงเรียนคนต่างศาสนาในการเรียนระดับที่สูงกว่า พระองค์สนับสนุนความเชื่อที่ผิดต่อพระศาสนจักร และวางแผนที่จะสร้างวิหารของชาวยิวในกรุงเยรูซาเล็มขึ้นมาใหม่ จูเลียนไม่ได้เบียดเบียนพระศาสนจักรอย่างเปิดเผย แต่ก็เป็นที่ชัดเจนว่าพระองค์ต้องการล้มล้างพระศาสนจักรด้วยการสนับสนุนศาสนานอกรีตและศาสนายิวให้เข้มแข็งขึ้น จูเลียนปกครองอยู่เพียงสองปีเท่านั้น ในค.ศ.303 พระองค์สิ้นพระชนม์ในสนามรบ และงานฟื้นฟูลัทธินอกรีตก็ตายตามไปด้วย ศาสนาดั้งเดิมได้สูญเสียโอกาสสุดท้ายที่จะฟื้นฟูขึ้นใหม่แล้ว ***(an apostate คือคนที่ละทิ้งความเชื่อในศาสนาของเขา/เธอ) |