แม้ว่าพระศาสนจักรเคยมีปัญหา แต่บัดนี้เติบโตขึ้นอย่างอิสระ ปราศจากความหวาดกลัวการเบียดเบียน มหาวิหารใหม่ๆ ถูกสร้างขึ้น บรรดาพระสังฆราชเป็นบุคคลที่มีความสำคัญต่อชุมชน และประชาชนกลับใจเป็นคริสตชนมากขึ้น

สำหรับคนที่มีชีวิตในสมัยของจักรพรรดิคอนสแตนติน กฎหมายของคอนสแตนตินทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงในชีวิตพระศาสนจักร  ยูเซบีอุสบรรยายถึงเหตุการณ์นี้ว่า “ประชาชนเป็นอิสระจากความหวาดกลัวทั้งหมดที่เคยได้รับมาก่อน พวกเขาเริ่มต้นด้วยการฉลองอันยิ่งใหญ่ และร่วมสนุกสนานชื่นชมยินดีด้วยกัน ความสว่างส่องเข้ามาในชีวิตของพวกเขา... มีการเต้นรำ การร้องเพลงทั้งในเมืองและชนบท ก่อนอื่นใดหมดเพื่อเป็นการถวายเกียรติแด่พระเจ้า กษัตริย์แห่งกษัตริย์ทั้งหลาย ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาได้รับการสั่งสอนมา และจากนั้นเพื่อความดีของจักรพรรดิ และเพื่อบรรดาเด็กๆ ซึ่งเป็นที่รักของพระเจ้า”

เวลานี้พระศาสนจักรกลับมามีชีวิตใหม่ในอาณาจักร วัดมากมายถูกสร้างขึ้นในทุกที่ บางแห่งได้รับการสนับสนุนโดยจักรพรรดิเอง  ในเขตปาเลสไตน์ เขตเอเชียไมเนอร์ ที่กรุงโรม และประเทศทางภาคตะวันตก มหาวิหารมากมายถูกสร้างขึ้นในรัชสมัยของจักรพรรดิคอนสแตนติน บ่อยๆ สิ่งปลูกสร้างใหม่เหล่านี้จะใหญ่โตและประดับประดาอย่างสวยงามด้วยศิลปะแบบไบเซนทีน

พระสังฆราชคริสตชนได้รับการต้อนรับจากข้าราชสำนักแห่งอาณาจักร และได้รับความเคารพนับถืออย่างมาก เวลานี้พระสังฆราชได้รับเกียรติเท่ากับสมาชิกสภาสูงแห่งกรุงโรมและเป็นผู้สูงศักดิ์ ในไม่ช้าบรรดาพระสังฆราชก็ได้รับอนุญาติให้ทำหน้าที่ในฐานะผู้พิพากษา แม้ในคดีที่ไม่เกี่ยวกับพระศาสนจักรด้วย

การเผยแผ่ความเชื่อคริสตชนเป็นงานที่สำคัญที่สุด ภายในหนึ่งศตวรรษ จากค.ศ.300-400 คริสต์ศาสนาเป็นศาสนาของคนส่วนใหญ่ในอาณาจักร กลุ่มคริสตชนทุกกลุ่มมีส่วนร่วมในงานนี้ นำโดยบรรดาพระสังฆราชท้องถิ่นและบรรดาพระสงฆ์ ซึ่งบัดนี้กำลังเริ่มปรากฏให้เห็นในภาคตะวันออก กลุ่มคริสตชนใหม่ๆ ถูกจัดตั้งขึ้นเป็นพระศาสจักรท้องถิ่นภายใต้การนำของพระสังฆราช ดังนั้นทั้งในเมืองและชนบทรอบๆ ก็เป็นคริสตชนเพิ่มมากขึ้น นักเทศน์และมิชชันนารีออกไปเผยแผ่พระวรสารในชนบทห่างไกลมากขึ้น ตามธรรมเนียมโบราณ นักบวชและพระสังฆราช บ่อยๆ จะได้รับการเสนอชื่อโดยกลุ่มคริสตชนทั้งหมด บรรดาคริสตชนฆราวาสจะแสดงการเห็นด้วยยอมรับด้วยการโห่ร้องเสมอๆ

การขยายตัวนี้ได้สร้างปัญหาใหม่เกิดขึ้น ในช่วงระหว่างการเบียดเบียน คนที่กลับใจอย่างแท้จริงเท่านั้นจะเข้ามาในพระศาสนจักร แต่เวลานี้ประชาชนมากมายเข้ามาเป็นคริสตชน เพียงเพราะว่าจักรพรรดิชื่นชอบคริสต์ศาสนา หรือเพราะดูเหมือนว่าทุกๆ คนเป็นกันอย่างนั้น เพื่อแก้ปัญหานี้ พระศาสนจักรเริ่มเอาใจใส่และให้ความสนใจมากขึ้นต่อการอบรมคริสตชนใหม่ และพระศาสนจักรยังเอาใจใส่เพิ่มขึ้นในการฟื้นฟูปรับปรุงเรื่องพิธีกรรมและเรื่องศีลศักดิ์สิทธิ์ด้วย