อาจารย์สำคัญอีกคนหนึ่งคือ โอริเจน แห่งเมืองอเล็กซานเดรีย ท่านได้วางแนวทางและเขียนแนวความคิดของท่านเกี่ยวกับคริสต์ศาสนา โอริเจนกลายเป็นนักคิดคริสตชนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และเป็นอาจารย์ในช่วงสมัยนั้น

อาจารย์ที่ยิ่งใหญ่อีกท่านหนึ่งแห่งเมืองอเล็กซานเดรีย คือ โอริเจน (Origen) ผู้ได้อุทิศช่วงเวลาที่โตเป็นผู้ใหญ่ทั้งหมด ในการสั่งสอนและอธิบายเกี่ยวกับความเชื่อของคริสต์ศาสนา ท่านเกิดที่เมืองอเล็กซานเดรียมในราว ค.ศ.185 ได้รับบทเรียนแรกในเรื่องความเชื่อของคริสต์ศาสนาจากบิดามารดาของท่าน บิดาของท่านชื่อ เลโอนิดัส (Leonidas) และยังได้สอนให้ท่านแสดงความเชื่ออย่างกล้าหาญด้วย เลโอนิดัสเป็นคนที่ยอมพลีชีวิตเป็นมรณสักชีคนหนึ่ง และโอริเจนเองไม่เคยลืมแบบอย่างบิดาของท่านเลย โอริเจนตัดสินใจอุทิศชีวิตของตนเองในการรับใช้พระศาสนาจักร

หลังจากที่บิดาของท่านตาย ทรัพย์สมบัติของครอบครัวก็ถูกรัฐบาลริบเอาไป โอริเจนเริ่มเป็นอาจารย์สอนไวยากรณ์เพื่อจะได้มีเงินจุนเจือครอบครัว ในไม่ช้าพวกศิษย์ของท่านเริ่มนิยมชมชอบในวิธีการเรียนการสอนของท่าน ท่านสอนไวยากรณ์อยู่ได้ไม่นาน คนต่างศาสนาบางคนและเพื่อนคริสชนได้แสดงความสนใจที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับคริสต์ศาสนามากขึ้น และที่สุดโอริเจนก็ได้ตัดสินใจเปิดหลักสูตรของท่านเองในเรื่องคริสต์ศาสนา ท่านเองยังคงศึกษาเกี่ยวกับความคิดของคนต่างศาสนา และความคิดของคริสตชนอย่างต่อเนื่อง และไปเยี่ยมกลุ่มคริสตชนในเมืองอื่นๆ ด้วย และต่อจากนั้นไม่นาน โอริเจนได้รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์ที่กรุงเยซูราเล็ม

เมื่อโอริเจนอายุประมาณ 18 ปี   พระสังฆราชเดเมตรีอุส  (Dematrus)    ได้ขอร้องท่านให้ไปสอนในโรงเรียนคริสตชนที่เมืองอเล็กซานเดรีย โรงเรีนยนนี้เจริญก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องภายใต้การนำของท่านเป็นเวลากว่า 28 ปี แต่แล้วท่านก็ถูกกล่าวหาว่าสอนผิดความเชื่อและถูกขับไล่ออกจากเมืองอเล็กซานเดรียม ท่านจึงได้ย้ายไปอยู่ที่เมืองซีซารียา ในประเทศปาเลสไตน์ และเริ่มสอนในโรงเรียนใหม่ที่นั้นในระหว่างการเบียดเบีนโดยจักรพรรดิเดซิอุส โอริเจนยอมรับการทรมานอย่างกล้าหาญและตายในราว ค.ศ. 254

เป็นไปได้อย่างมาก ที่โอริเจนเป็นนักคริสตชนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในช่วงสมัยของท่าน ท่านมีอิทธิพลอย่างมากต่อพวกศิษย์ของท่าน เพราะท่านเป็นคนที่มีจิตใจงดงาม และมีความสามารถในการจัดการเรียนการสอนได้อย่างกว้างขวาง งานของโอริเจน โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับพระคัมภีร์มีอยู่มากมาย แต่มีเหลือเพียงไม่กี่เล่มเท่านั้นที่ตกทอดมาถึงพวกเราในทุกวันนี้