จักรพรรดิกัลลีเอนุสได้หยุดการเบียดเบียนคริสตชนใน ค.ศ. 260  กว่า 40 ปีต่อมาพระศาสนจักรมีความสงบ สันติ และเริ่มเติบโตมั่นคงมากขึ้น และแผ่ขยายออกไปอย่างกว้างขวาง

หลังจากช่วงเวลาหลายปีแห่งการเบียดเบียน ซึ่งเป็นเวลาแห่งการพิสูจน์ความเชื่อที่ยิ่งใหญ่ของกลุ่มคริสตชน เวลาแห่งความสงบสันติก็มาถึง ใน ค.ศ. 260 เป็นปีที่กัลเลนีอุส(Gallienus) ขึ้นเป็นจักรพรรดิ ในขณะที่เป็นเจ้าหน้าที่ของจักรพรรดิพระองค์ได้ช่วยเหลือบิดาของพระองค์นั่นคือจักรพรรดิวาเลเรียน ที่ได้เบียดเบียนคริสตชน บางทีพระองค์คงเห็นว่าความผิดพลาดเกิดขึ้นอย่างไร และเห็นความโหดร้ายที่ได้เกิดขึ้น ดังนั้นจึงมีความตั้งใจที่จะหยุดการเบียดเบียนคริสตชนเมื่อพระองค์ขึ้นเป็นจักรพรรดิ

พระองค์ได้ออกกฤษฎีกาอนุญาตให้คริสตชนมีชีวิตอยู่อย่างสงบ  สันติ และได้คืนทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่ยึดเอามาจากคริสตชน พระองค์ยังได้คืนสถานที่สำหรับการถวายบูชานมัสการของพระศาสนจักรด้วย  คริสตชนจำนวนมากมีโอกาสกลับเข้าไปรับราชการได้อีกครั้ง ซึ่งบ่อยๆ พวกเขาได้รับการต้อนรับกลับมาด้วยความเห็นอกเห็นใจอย่างมากมาย

กิจการของจักรพรรดิองค์นี้มีความสำคัญอย่างมาก มิใช่เพียงแค่ทำให้คริสต์ศาสนาเป็นศาสนาที่ได้รับการยอมรับอย่างถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น แต่มันได้แสดงสถานภาพทางการของพระศาสนจักรว่ามีสิทธิอันชอบธรรมที่จะดำรงอยู่ และยิ่งกว่านั้น  กว่า  40 ปีหลังจากประกาศกฤษฎีกานี้ พระศาสนจักรก็ยังสามารถดำเนินกิจการต่างๆ ของพระศาสนจักรด้วยความสงบ สันติ  คริสตชนสามารถพูดถึงเรื่องศาสนาของพวกเขาในที่สาธารณะได้    สามารถประกาศการบริการทางศาสนาได้  มีการปฏิบัติการถวายบูชานมัสการอย่างเปิดเผย สร้างวัดมากมาย และสามารถเทศน์สอนประชาชนโดยปราศจากความหวาดกลัวว่าจะถูกนำไปฆ่า

คนต่างศาสนาบางคนยังคงพูดต่อต้าน  แต่ในช่วงเวลานี้  ความเชื่อใหม่สามารถแผ่ขยายออกไปอย่างกว้างขวาง