ในช่วงนี้ พระศาสนจักรเริ่มจัดวางปฏิทินพิธีกรรมประจำปี สำหรับวันฉลองศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญๆ ใน ค.ศ.350 มีการจัดช่วงเวลาสำหรับฉลองคริสตมาส ปัสกา และพระจิตเจ้าเสด็จลงมา

หลังจาก ค.ศ.200 พระศาสนจักรปรับปรุงปฏิทินการฉลองให้ครบถ้วนสมบูรณ์มากขึ้น ซึ่งจัดแบ่งระยะเวลาพิเศษเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในชีวิตของพระเยซูเจ้าและอัครสาวก สิ่งนี้ทำให้เกิดการระมัดระวัง และความเอาใจใส่ในการจัดเตรียมพิธีกรรม การถวายบูชานมัสการพระเจ้าอย่างเป็นรูปแบบทางการของพระศาสนจักร เพราะว่าบทภาวนาบางบทมีศูนย์กลางอยู่ที่วันฉลองเป็นพิเศษ

ตั้งแต่ในสมัยแรก มีการฉลองพระทรมาน การสิ้นพระชนม์ และการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้า และวันฉลองพระจิตเจ้าเสด็จลงมาด้วย ขณะที่ปฏิทินพิธีกรรมได้รับการรวบรวมให้เป็นระเบียบมากขึ้น การฉลองเทศกาลปัสกาก็ถูกกำหนดเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น ช่วงเวลา 50 วันหลังจากวันอาทิตย์ปัสกา พระศาสนจักรฉลองความชื่นชมยินดีแห่งการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้า คริสตชนหยุดการจำศีลอดอาหารและภาวนาในท่ายืนมากกว่าภาวนาในท่าคุกเข่า

พิธีกรรม ให้ความสำคัญเป็นพิเศษต่อคริสตชนใหม่ที่เพิ่งรับศีลล้างบาปในช่วงระหว่างสัปดาห์หลังวันปัสกา วันที่ 50 หลังจากวันปัสกา พระศาสนจักรฉลองวันพระจิตเจ้าเสด็จลงมา ทำให้ช่วงเทศกาลปัสกาและการระลึกถึงการที่พระจิตเจ้าเสด็จลงมาเหนืออัครสาวกมาอยู่ต่อเนื่องกัน สิบวันก่อนวันสมโภชพระจิตเจ้า พระศาสนจักรระลึกถึงเหตุการณ์พระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์กลับไปหาพระบิดา การฉลองนี้ถูกจัดไว้เพียงช่วงสั้นๆ ก่อนวันสมโภชพระจิตเจ้า เพื่อเตือนประชากรว่า พระเยซูเจ้าไม่ได้ละทิ้งผู้ที่ติดตามไว้เพียงลำพัง แต่พระองค์ได้ส่งพระจิตเจ้ามาเพื่อนำพระศาสนจักร

จากกลางเดือนธันวาคมจนถึงวันที่ 6 มกราคม คริสตชนฉลองเทศกาลสำคัญอีกเทศกาลหนึ่ง คือ การระลึกถึงการบังเกิดของพระเยซูเจ้า ราว ค.ศ.230 คริสตชนที่กรุงโรมเริ่มฉลองการบังเกิดของพระเยซูเจ้า (วันคริสต์มาส) ในวันที่ 25 ธันวาคม การฉลองนี้ค่อยๆ เป็นที่นิยมมากขึ้น พวกอาร์มีเนียปฏิเสธที่จะยอมรับวันดังกล่าว และยังคงฉลองการบังเกิดของพระเยซูเจ้าในวันที่ 6 มกราคมต่อไป ส่วนในเขตอื่นๆ วันที่ 6 มกราคม กลายเป็นวันฉลองพระคริสตเจ้าแสดงองค์ ซึ่งฉลองการแสดงองค์อย่างเป็นทางการ หรือแสดงองค์ต่อบรรดาโหราจารย์

พระศาสนจักรยังระลึกถึงบรรดาอัครสาวก มรณสักขี และบรรดานักบุญ ผู้ที่ได้ติดตามแบบฉบับของพระเยซูเจ้า ด้วยความรักอันยิ่งใหญ่และด้วยความใจกว้าง กลุ่มคริสตชนในท้องถิ่นต่างๆ ระลึกถึงบรรดามรณสักขีของพวกเขาเอง โดยมีพิธีกรรมฉลองที่หลุมฝังศพของมรณสักขี ในวันครบรองวันตายของมรณสักขี ซึ่งเป็นเครื่องหมายถึงวันเกิดของมรณสักขีในสวรรค์ด้วย คริสตชนรู้สึกว่าพวกเขาควรจะเลียนแบบบรรดานักบุญ พวกเขาเคารพยกย่องนักบุญว่าเป็นเหมือนเพื่อนในสวรรค์ ผู้ซึ่งจะวอนขอพระเป็นเจ้าให้ช่วยคริสตชนบนโลก