เทศกาลปัสกาเป็นการฉลองที่สำคัญที่สุดของคริสตชนในศตวรรษที่ 3 เหมือนกับทุกวันนี้ เรื่องราวของอริสตอสจบลงที่การบรรยายถึงการฉลองปัสกาของเขา

ปัสกาเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในรอบปีสำหรับอริสตอส มอนิกา อเดโอดาตุส และเพื่อนๆ คริสตชน พวกเขาเดินอย่างรวดเร็วไปตามถนนของเมืองอเล็กซานเดรียไปยังบ้านที่พวกเขาอยู่ร่วมกัน เพื่อตื่นเฝ้าเตรียมฉลองปัสกา ซึ่งเป็นการฉลองที่สำคัญที่สุดของคริสตชน

ในเย็นนั้น เต็มไปด้วยเสียงบทเพลงและบทสรรเสริญ อริสตอสพบว่ามันยากที่จะเชื่อว่าครั้งหนึ่งเขาเคยรู้สึกเลื่อนลอย วันนี้ ขณะที่เขากำลังฟังบทอ่านต่างๆ จากพันธสัญญาเก่าและพันธสัญญาใหม่ เขารู้สึกว่ามีแนวทางและจุดหมายในชีวิตของเขา บทเพลงสดุดีบทต่างๆ ที่คริสตชนอ่านนั้น เป็นคำภาวนาของชาวอิสราเอลโบราณ "แต่บัดนี้ พวกเขาเป็นคำภาวนาของพระศาสนจักรคริสตชนเอง" อริสตอสคิด

ขณะที่ผู้คนรอคอยวันปัสกา อริสตอสตระหนักว่าพระเจ้าประทับอยู่กับแต่ละคนที่นี่ "สิ่งที่โอริเจนบอกกับเรา เป็นความจริง" อริสตอสคิด "และบัดนี้ ในวันปัสกา เราฉลองการกลับคืนพระชนมชีพอย่างรุ่งโรจน์ของพระเยซูเจ้า"

แสงแห่งรุ่งอรุณแต่งแต้มสีท้องฟ้าทางทิศตะวันออก มันเป็นเวลาสำหรับคริสตังสำรองที่จะรับศีลล้างบาป ด้วยความหวังอันยิ่งใหญ่ บัดนี้เขาได้ร่วมกับพวกคริสตสำรอง รื้อฟื้นคำมั่นสัญญาอีกครั้ง ที่จะปฏิเสธสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง และตอบรับต่อพระเยซูเจ้า อริสตอสรู้ว่าในส่วนต่างๆ ของโลก คริสตชนกำลังรวมกันในเช้านี้เพื่อฉลองศีลมหาสนิทอย่างที่เขาและเพื่อนๆ ของเขาทำกันที่นี่ ที่เมืองอเล็กซานเดรีย เขาชอบความรู้สึกของการมีส่วนร่วมในคริสตชนกลุ่มใหญ่ที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วโลก

เมื่อพิธีกรรมจบลง อริสตอสและคนอื่นๆ ออกไปฉลองด้วยกัน เทศกาลปัสกาเป็นช่วงเวลาแห่งความชื่นชมยินดีกับเพื่อนๆ คริสตชน แบ่งปันอาหาร และพูดคุยกันและสรรเสริญพระเจ้าด้วยบทเพลงและการเต้นรำ

ทุกวันนี้ เหมือนในเมืองอเล็กซานเดรียในศตวรรษที่ 2 คริสตชนใช้บทเพลงสดุดีของพันธสัญญาเก่าเป็นดังเช่นคำภาวนา คริสตชนมากมายหลายคนใช้บทเพลงสดุดีที่ 118 เพื่อแสดงความชื่นชมยินดีในเทศกาลปัสกา และเพื่อสรรเสริญพระกรุณาของพระเจ้า

ข้าพเจ้าจะไม่ตาย ข้าพเจ้าจะมีชีวิตอยู่

และจะประกาศพระราชกิจยิ่งใหญ่ของพระยาห์เวห์

นี่คือวันที่พระยาเวห์ทรงสร้าง เราจงยินดีและมีความสุขเถิด…

จงขอบพระคุณพระยาเวห์ เพราะพระองค์พระทัยดี

ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์ (สดด. 118:17, 24, 29)