คนต่างศาสนาที่มีความรู้บางคนกลับใจมาเป็นคริสตชน และกลายเป็นผู้ป้องกันความเชื่อที่เข้มแข็ง ตัวอย่างเช่น จัสติน เป็นนักศึกษาปรัชญาในช่วงวัยหนุ่ม หลังจากกลับใจเป็นคริสตชน ก็เดินทางมากรุงโรม และตั้งโรงเรียนที่นั่น  ท่านสอนความจริงแห่งคริสต์ศาสนา ป้องกันความจริงนั้นจากการโจมตีของคนต่างศาสนา และพยายามแสดงให้เห็นว่าคริสต์ศาสนาเข้ากันได้กับความคิดของนักปรัชญาต่างศาสนา

ไม่ใช่ว่าการท้าทายทั้งหมดเป็นสิ่งเลวร้าย ในการเผชิญหน้ากับการกล่าวหาและการโจมตีของนักเขียนต่างศาสนา คริสตชนถูกกดดันให้ป้องกันความเชื่อของพวกเขา และคิดเกี่ยวกับความเชื่อนั้นให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น สิ่งนี้เองช่วยให้คริสตชนเข้าใจความเชื่อได้ดีมากขึ้น และช่วยคนต่างศาสนาให้ได้รับภาพที่ชัดเจนมากขึ้น เกี่ยวกับความคิดและวิธีการดำเนินชีวิตของคริสตชน

การพูดป้องกันโดยความคิดเห็นของคนหนึ่ง ในภาษากรีกเรียกว่า apologia หรือภาษาอังกฤษใช้คำว่า apology (แปลว่า คำแก้ตัว คำขออภัย) แต่ความหมายของคำนี้เปลี่ยนไปมากตั้งแต่ศตวรรรษที่ 2  ดังนั้นการปกป้อง (apology) หมายถึงแนวความคิดหรือการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งที่ปกป้องความเชื่อ และเรายังหมายถึงกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งซึ่งเรียกว่า ผู้ปกป้องคริสตชน (Christian apologists) ตัวอย่าง เช่น จัสติน มรณสักขี ท่านได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ปกป้องคริสตชนที่สำคัญที่สุด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าท่านเป็นนักเขียนที่ยิ่งใหญ่ หรือได้แสดงความเชื่อคริสตชนแบบสมบูรณ์ชัดเจนที่สุด ท่านเป็นเหมือนผู้บุกเบิกทาง มากกว่าเป็นผู้ริเริ่มความคิดที่สำคัญในคริสต์ศาสนา

จัสตินเกิดในครอบครัวชาวกรีซที่อาศัยในปาเลสไตน์ ครอบครัวส่งท่านไปรับการศึกษากับอาจารย์ที่ดีที่สุดในสมัยนั้น จัสตินเป็นคนที่มีจิตใจเปิดกว้างและจริงจังกับการแสวงหาความจริง ท่านรู้สึกไม่พอใจกับสิ่งที่เรียนรู้มากนัก และท่านก็ไม่เชื่อว่าข้อกล่าวหาทั้งหมดที่ต่อต้านคริสตชนจะเป็นจริง

วันหนึ่งดูเหมือนว่า จัสตินพบกับผู้สูงอายุคนหนึ่งที่ริมฝั่งแม่น้ำ ทั้งสองคุยกัน และผู้สูงอายุบอกจัสตินว่า เป็นประกาศกในพันธสัญญาเก่าและพระเยซูคริสตเจ้าที่เป็นผู้เปิดเผยความจริง ไม่ใช่นักคิดต่างศาสนา จัสตินคิดวนเวียนถึงเรื่องนี้อยู่หลายครั้งหลายครา และที่สุดท่านได้กลับใจเป็นคริสตชน หลังจากการเดินทางไปประกาศและเทศน์สอนความเชื่อคริสตชน จัสตินมาอาศัยตั้งรกรากที่กรุงโรม และเปิดโรงเรียนสอนปรัชญาแบบคริสต์โรงเรียนหนึ่ง

ในค.ศ.150 ท่านเขียนงานเขียนชิ้นหนึ่งมีชื่อเสียงมาก เป็นงานเขียนปกป้องความเชื่อคริสตชนและได้ส่งไปให้จักรพรรดิอันโตนินุส ปีอุส ในงานเขียนนั้นท่านป้องกันคริสต์ศาสนา ต่อสู้กับการโจมตีของพวกอเทวนิยม และการจลาจลทางการเมืองที่จัดขึ้นเพื่อต่อต้านคริสตชน งานเขียนอื่นๆ ของท่านก็เหมือนกับงานเขียนของนักเขียนคริสตชนอีกหลายคน และคนอื่นๆ ในสมัยนั้น คือ ไม่หลงเหลืออยู่เลย แต่เรายังมีงานเขียนที่ชื่อ Dialogue ซึ่งแสดงการป้องกันแนวคิดคริสตชนที่สอด คล้องกับงานเขียนของพันธสัญญาเดิม

จัสตินและผู้ติดตามตายเป็นมรณสักขีในค.ศ.165 ในรัชสมัยของจักรพรรดิมาร์คุส เอาเรลีอุส