เวลานี้ คนต่างศาสนาที่มีความรู้เริ่มโจมตีคริสต์ศาสนา ที่ปรึกษาของจักรพรรดิมาร์คุส เอาเรลีอุส ชื่อ ฟรอนโตได้โจมตีคริสต์ศาสนาในคำปราศรัยต่อหน้าสภาสูงโรมัน ลูเซียน นักเขียนเรื่องล้อเลียน เยาะเย้ยคริสต์ศาสนาในงานเขียนของเขา  เซลลุส นักคิดสำคัญ ศึกษาคริสต์ศาสนาอย่างละเอียดและพบว่าเป็นคำสอนที่รับไม่ได้

ขณะที่เราสังเกตเห็นมาก่อนหน้านี้ การต่อต้านคริสต์ศาสนาเป็นสิ่งแรกที่เห็นได้ชัด ในท่ามกลางชาวยิวที่เคร่งครัดและคนต่างศาสนา ด้วยเหตุผลหลากหลายประการ สำหรับชาวยิว ดูเหมือนว่าความเชื่อใหม่จะเป็นความคิดนอกรีตของศาสนายิว เป็นความเสื่อมถอยจากความจริงของศาสนายิว และเป็นการกระทำของความไม่ซื่อสัตย์ต่อศาสนา คนต่างศาสนาบางคนคิดว่า คริสต์ศาสนาส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ทางด้านการค้าขายหรือประเพณีของพวกเขาในการกระทำสิ่งต่างๆ และผู้มีอำนาจโรมันบางคนคิดว่าคริสต์ศาสนาเป็นเหมือนพวกก่อการจลาจล

มันไม่เป็นอย่างนั้น จนกระทั่งถึงกลางศตวรรษที่ 2 ที่พวกนักคิดและนักเขียนโรมันเริ่มโจมตีคริสต์ศาสนา  และเขียนล้อเลียนในงานเขียนของเขา การโจมตีเช่นนี้ชี้ให้เห็นว่า ความเชื่อใหม่กำลังเติบโตก้าวหน้าสำคัญมากขึ้นในสังคม การโจมตียังทำให้พระศาสนจักรอยู่ในอันตรายในรูปแบบใหม่ด้วย ด้วยความเกลียดชังและด้วยอคติ พวกที่ต่อต้านคริสตชนได้แสดงความคิดเห็นของพวกเขาในงานเขียนอย่างเฉลียวฉลาด และเปิดเผยสู่สาธารณชน งานเขียนเหล่านี้มีอิทธิพลอย่างมากต่อคนที่ไม่เป็นคริสตชน ที่ไม่เห็นพ้องด้วยกับการเบียดเบียนคริสตชนจนกระทั่งบัดนี้

คนต่างศาสนาคนแรก ที่พูดต่อต้านวิถีชีวิตและคำสอนของคริสต์ศาสนา คือ ฟรอนโต เป็นที่ปรึกษาของจักรพรรดิในอนาคต มาร์คุส เอาเรลีอุส จึงเป็นคนที่มีอิทธิพลมากด้วย สภาสูงโรมันได้ถามความคิดเห็นของเขาเกี่ยวกับคริสต์ศาสนา ฟรอนโตให้คำปราศรัยยืดยาว สนับสนุนอคติต่างๆ ที่มีต่อคริสต์ศาสนา เขาพูดว่า วิธีการดำเนินชีวิตของคริสตชนสมควรถูกประณามในทุกด้าน ในการชุมนุมกัน พวกคริสตชนกินและดื่มอย่างมากจนมึนเมา และทำสิ่งชั่วร้ายและลามกทุกประเภท คำสอนของพวกเขาโง่เง่าและไร้สาระ ไม่มีคุณค่าที่จะเคารพนับถือและนำมาศึกษา

ลูเซียนแห่งซาโมซาตา โจมตีคริสต์ศาสนาในหลายๆ รูปแบบ เขาเป็นนักเขียนล้อเลียนเย้ยหยัน ทำให้ประชาชนสนุกสนาน และหัวเราะขบขัน และมุ่งเน้นเฉพาะเรื่องที่บันเทิงใจเท่านั้น นี่เป็นสิ่งที่เขาได้ทำเมื่อเขาเขียนถึงคริสตชน เขาเขียนล้อเลียนวิธีการดำเนินชีวิตและการสวดภาวนาของคริสตชน ว่าเป็นสิ่งที่น่าหัวเราะเยาะ เขาทำให้คริสตชนดูเป็นพวกไร้เดียงสา และที่สามารถถูกหลอกได้ง่ายๆ

บุคคลที่สามที่ต่อต้านคริสต์ศาสนาคือ เซลลุส เขาเป็นนักคิดคนสำคัญ และสนใจคริสต์ศาสนาอย่างจริงจัง เขาเป็นผู้หลงใหลในความคิดและการเรียนรู้แบบกรีก และต้องการรู้มากขึ้นเกี่ยวกับความเชื่อและการดำเนินชีวิตของคริสตชน เขาถกเถียงเรื่องต่างๆ กับพวกคริสตชน และอ่านงานเขียนของคริสตชน โดยเฉพาะพระวรสาร หลังจากการอุทิศเวลาศึกษาเรื่องนี้ เขาได้เขียนงานศึกษาชิ้นหนึ่งซึ่งมีชื่อเสียงและได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับนักอ่านโรมัน ในงานนั้น เขาสรุปว่าเขาไม่สามารถยอมรับคำสอนของคริสตชนได้ เพราะมันไม่สอดคล้องกับวัฒนธรรมและความคิดของนักคิดทั้งหลายและโดยเฉพาะแนวความคิดแบบกรีก มีสิ่งหนึ่งคือ เซลลุสไม่เชื่อว่าพระเจ้าจะเสด็จมาในโลกเพื่อช่วยมนุษย์ให้รอด เพราะความรักของพระองค์ต่อมนุษย์