ก่อนที่ถูกส่งตัวให้กับสัตว์ป่าที่ดุร้าย คริสตชนคนหนึ่งชื่อ อัตตาลูส ถูกนำตัวเข้าไปในสนามกีฬา พร้อมกับป้ายที่เขียนข้อความว่า "เขาเป็นคริสตชน" ถึงแม้ว่าเครื่องหมายนั้นหมายถึงคำสบประมาทเยาะเย้ยที่น่าอับอาย แต่อัตตาลูสกลับมองว่า เป็นเครื่องหมายถึงเกียรติยศและความชื่นชมยินดี

ไม่มีใครแปลกใจว่า การพิจารณาคดีคริสตชนในแคว้นโกลจะจบที่การประหารชีวิต  แต่มันไม่เป็นการตายง่ายๆ  พวกเขาถูกทรมานและได้รับการปฏิบัติอย่างโหดร้าย บางคนถูกเผาจนตาย คนอื่นๆ ถูกนำไปเป็นอาหารสำหรับสัตว์ป่าที่ดุร้าย

กรณีที่นำความประทับใจมาสู่ประชาชนอย่างมาก นั่นคือ กรณีของอัตตาลูส (Attalus)  คริสตชนที่โดดเด่นและมีชื่อเสียงคนหนึ่งในเมืองลีออง คนต่างศาสนาด่าว่าเขา และบอกกับผู้ว่าราชการให้นำเขาไปเป็นอาหารของสัตว์ป่าที่ดุร้าย ในวันฉลองใหญ่ของพวกเขา ในเวลานั้นฝูงชนจะมารวมกันที่สนามกีฬา

เมื่อวันนั้นมาถึง อัตตาลูสถูกนำตัวแห่เข้าไปในอัฒจันทร์ ข้างหลังเขียนป้ายไว้ว่า "อัตตาลูสเป็นคริสตชน" คนต่างศาสนาคิดว่าจะเป็นวิธีการเดียวที่ทำให้อัตตาลูสรู้สึกอับอาย แต่เขากลับภาคภูมิใจในคำเขียนนั้นและเดินไปรอบๆ ด้วยความรู้สึกว่าเขาได้รับเกียรติอันยิ่งใหญ่ ขณะที่ฝูงชนกำลังรอคอยการปล่อยสัตว์ป่าออกจากกรง คริสตชนคนอื่นเข้ามาพบผู้ว่าราชการและแจ้งว่า อัตตาลูสเป็นพลเมืองโรมัน  ผู้ว่าราชการส่งตัวอัตตาลูสกลับไปขังคุกอย่างไม่ค่อยเต็มใจ ดังนั้นเขาต้องถูกพิจารณาคดีอีกครั้งในฐานะเป็นพลเมืองโรมัน

การพิจารณาคดีครั้งใหม่เริ่มขึ้นกับหมอคริสตชนคนหนึ่งชื่อ อเล็กซานเดอร์  ในการพิจารณาคดี ขณะที่อัตตาลูสและคริสตชนคนอื่นกำลังถูกตั้งคำถามโดยผู้พิพากษา  อเล็กซานเดอร์ได้กระตุ้นให้พวกเขามั่นคงในความเชื่อ เขายังช่วยคริสตชนในการตอบคำถามต่างๆ ของผู้พิพากษา ในที่สุดผู้พิพากษารู้สึกโกรธและเรียกเขามา ถามว่า "ท่านเป็นคริสตชนหรือไม่" อเล็กซานเดอร์ตอบว่า "ใช่" ผู้พิพากษาจึงสั่งให้จับกุมเขาในทันทีการพิจารณาคดีครั้งที่สอง จบลงที่การถูกตัดสินประหารชีวิตเช่นเดียวกัน  ทั้งอเล็กซานเดอร์และอัตตาลูสต่างก็ถูกทรมาน และนำไปเป็นอาหารของสัตว์ป่าที่ดุร้าย ท่ามกลางฝูงชนที่เฝ้าดูอยู่

อะไรเป็นความแตกต่างระหว่างพฤติกรรมของผู้มีอำนาจโรมัน กับพฤติกรรมของคริสตชน ผู้มีอำนาจทั้งหลายต้องการฆ่าคริสตชนทั้งหมด เพื่อกำจัดคริสตชนให้หมดไปจากอาณาเขตของพวกเขา แต่พวกเขายังคงไม่มีเหตุผลสมควรใดๆ เลยที่จะทำเช่นนั้น เพียงเพราะว่าคริสตชนไม่ได้ดำเนินชีวิตตามแบบของพวกเขา และไม่ถวายบูชาแด่จักรพรรดิ ในขณะที่คริสตชนอดทนต่อการทรมานและความตายด้วยความกล้าหาญและความสงบ เพราะพวกเขารู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับพระเยซูเจ้า และรู้สึกเข้มแข็งมากขึ้นเพราะการช่วยเหลือของพระองค์