![]() |
|
|
![]() | บุคคลที่สำคัญที่ยิ่งใหญ่อีกบุคคลหนึ่งของพระศาสนจักร ระหว่างศตวรรษที่ 2 อาศัยอยู่ที่เมืองสเมอร์นา คือโปลีการ์ป เขาเป็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่เคยเป็นศิษย์ของยอห์น โปลีการ์ปเป็นพระสังฆราชแห่งเมืองสเมอร์นา และเป็นอาจารย์ของอีเรเนอุส แคว้นอาเซียน้อย ยังคงเป็นสถานที่ที่มีคริสตชนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นสถานที่ที่ความทรงจำของอัครสาวกถูกเก็บรักษาไว้อย่างมีชีวิตชีวาจนเห็นได้ชัดเจน โปลีการ์ป พระสังฆราชแห่งสเมอร์นาเป็นคนหนึ่งในประจักษ์พยานสำคัญถึงธรรมประเพณีของบรรดาอัครสาวก เราพบท่านมาก่อนแล้ว เมื่ออิกญาซีโอแห่งอันติโอกเดินทางไปถูกประหารชีวิตที่กรุงโรม ราวกลางศตวรรษที่ 2 มีคริสตชนเพียงไม่กี่คน ที่เคยได้ยินข่าวดีของพระเยซูเจ้าจากปากของอัครสาวก คริสตชนคนหนึ่งคือ โปลีการ์ป ซึ่งเป็นศิษย์ของยอห์นอัครสาวก และเป็นผู้ที่ยึดมั่นระลึกถึงอัครสาวกยอห์นและข่าวสารของท่านด้วยความจงรักภักดี เราสามารถจินตนาการเห็นคริสตชนจำนวนมากอยู่ล้อมรอบโปลีการ์ป เพื่อที่จะฟังท่านเล่าถึงชีวิตและคำสั่งสอนของยอห์น โปลีการ์ปรักศิษย์คนหนึ่งที่ชื่อว่าอีเรเนอุสเป็นพิเศษ ซึ่งติดตามท่านตลอดเวลา ท่านรู้สึกว่าอีเรเนอุสน่าจะจดจำและยึดมั่นในคำสั่งสอนของโปลีการ์ป และถ่ายทอดไปยังคริสตชนคนอื่นๆ ได้ โปลีการ์ปจึงจะเรียกอีเรเนอุสมาพบบ่อยๆ และเล่าให้เขาฟังเกี่ยวกับความทรงจำที่ท่านเก็บไว้ด้วยความทะนุถนอม กระตุ้นเขาให้ซื่อสัตย์ต่อคำสอนของพระศาสนจักร และเน้นให้รักพระเยซูเจ้าและเพื่อนคริสตชน แต่ก็เป็นเช่นเดียวกับกรณีของอิกญาซีโอแห่งอันติโอก อำนาจและอิทธิพลของโปลีการ์ปในพระศาสนจักรท้องถิ่นเป็นที่ดึงดูดใจของคนต่างศาสนา บางคนตัดสินใจต่อต้านพระศาสนจักรโดยการโจมตีพระสังฆราชคนเก่า พวกเขาค้นหาและจับโปลีการ์ป ลากตัวท่านไปต่อหน้าผู้พิพากษา "นี่เป็นอาจารย์แห่งอาเซีย เป็นบิดาของคริสตชน ผู้ทำลายพระเจ้าของพวกเรา เป็นคนหนึ่งที่สอนประชาชนไม่ให้นมัสการและถวายบูชาแด่พระเจ้าของเรา" พวกเขาบอกต่อผู้พิพากษาว่า "ฆ่าเขา และพระศาสนจักรจะได้สูญสิ้นไปซะที" ผู้พิพากษาถามโปลีการ์ป และพยายามชักจูงท่านให้ถวายบูชาแด่พระเจ้าของคนต่างศาสนา เมื่อโปลีการ์ปได้ปฏิเสธอย่างหนักแน่น ผู้พิพากษาจึงตัดสินประหารชีวิตท่าน เพื่อเพิ่มความทรมานให้มากขึ้น ผู้พิพากษาสั่งให้มัดท่านที่เสาและเผาทั้งเป็น โปลีการ์ปยังคงไม่หวั่นไหว ท่านถอดเสื้อผ้าของตัวเองและเดินไปที่เสา ด้วยความชื่นชมยินดีที่จะได้มอบชีวิตเพื่อพระเยซูเจ้า จากนั้นท่านได้สวดบทภาวนาที่สำคัญบทหนึ่ง ซึ่งให้ความกล้าหาญและความบรรเทาใจต่อคริสตชนจำนวนมาก ข้าแต่พระบิดาเจ้า พระองค์ทรงเป็นที่รัก และได้รับการถวายพระพรโดยพระบุตร พระเยซูคริสตเจ้า โดยอาศัยพระบุตร พวกเราได้รู้จักพระองค์ ผู้เป็นพระเจ้าของทูตสวรรค์ทั้งหลาย ข้าพเจ้าสรรเสริญพระองค์สำหรับเกียรติที่ข้าพเจ้าได้รับในขณะนี้ ที่ได้มีส่วนร่วมในการเป็นมรณสักขี และมีส่วนในการถวายบูชาของพระเยซูคริสตเจ้า ขอพระองค์โปรดพอพระทัย รับการพลีชีพเป็นบูชาของข้าพเจ้า ซึ่งข้าพเจ้าถวายเพื่อพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ และของพระเยซูคริสตเจ้า พระบุตรของพระองค์ และพระจิตเจ้า อาแมน โปลีการ์ปตายวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ.156 พร้อมด้วยการยืนยันความเชื่ออย่างสง่างาม |
![]() |
|
|