ในสมัยนี้ ทางกรุงโรมเริ่มออกคำสั่งให้ประชาชนนมัสการบูชาจักรพรรดิในฐานะเป็นพระเจ้า หรือผู้สืบทอดของพระเจ้า รูปแบบอื่นๆ ของศาสนากลายเป็นที่นิยมของประชาชนด้วย

ขณะที่กลุ่มคริสตชนแรกเริ่มถูกก่อตั้งในเขตปาเลสไตน์ และในเขตอื่นๆ ในภาคตะวันออกของจักรวรรดิโรมัน  แนวคิดทางศาสนาอื่นๆ มีผู้ติดตามมากมาย และมีอิทธิพลต่อกันตลอดทั่วทั้งโลกของกรีกและโรมัน  ในสมัยของซีซาร์ ออกัสตัส การนมัสการบูชาจักรพรรดิเป็นที่นิยมในภาคตะวันออกของจักรวรรดิ ชื่อ ออกัสตัส (หมายถึง ความเคารพยำเกรง) ถูกตั้งให้แก่เขาตั้งแต่ปีที่ 27 ก่อน คริสตศักราช และหลังจากนั้นมีเดือนหนึ่งถูกตั้งตามชื่อของเขา (คือเดือนสิงหาคม August) แต่การนมัสการบูชาจักรพรรดิที่ยังมีชีวิตอยู่ ผู้ที่ถูกเชื่อว่าจะกลายเป็นพระเจ้าหลังจากสิ้นพระชนม์ เริ่มขึ้นในภาคตะวันตกของจักรวรรดิระหว่างสมัยของจักรพรรดิเนโร (ค.ศ.54-68) ในสมัยจักรพรรดิโดมิเทียน มันกลายเป็นส่วนสำคัญที่สุดของพิธีทางศาสนาของโรมัน จักรพรรดิได้รับการถวายบูชา และหลายองค์กรถูกจัดตั้งเพื่อเผยแพร่การบูชานมัสการนี้ ซึ่งมีจุดประสงค์หลักทางด้านการเมือง คือ ให้เคารพเชื่อฟังต่อกรุงโรม การบูชานมัสการแบบนี้เกี่ยวข้องน้อยมากกับเรื่องการแสวงหาพระเป็นเจ้าภายในใจของประชาชน และศาสนาที่มีอยู่แล้วในเวลานั้นยังไม่ถูกห้าม

กลุ่มศาสนาอื่นๆ จากอียิปต์ ซีเรียและเปอร์เซีย พยายามอธิบายความหมายของชีวิตมนุษย์และความตาย และให้ความหวังในเรื่องการกลับคืนชีพ การรวมกันของกลุ่มศาสนาเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ประชาชนต้องพบกับความยากลำบากในการเข้าเป็นสมาชิก และตามมาด้วยพิธีกรรมที่เต็มไปด้วยพิธีรีตองและยุ่งยากซับซ้อน ดังนั้น มีเพียงพวกเขาบางคนเท่านั้นที่สามารถเป็นสมาชิกถาวร หรือเป็นพระสงฆ์ของศาสนาเหล่านี้ ที่อุทิศตนแด่บรรดาเทพเจ้าและเทพธิดาต่างๆ

ด้วยเหตุนี้และเหตุอื่นๆ พิธีมากมายฉลองความตายและการกลับคืนชีพของบรรดาเทพเจ้าและเทพธิดา สิ่งนี้เป็นภาพสะท้อนถึงธรรมชาติที่กำลังสิ้นสุดในช่วงเวลาสิ้นปี และความชื่นชมยินดีกับการมีชีวิตใหม่ในฤดูใบไม้ผลิต่อมา พิธีนี้ให้ความหวังแก่บรรดาสมาชิกว่า จะสามารถกลับฟื้นขึ้นมามีชีวิตใหม่หลังความตาย ดังนั้น ขณะที่พิธีบูชาจักรพรรดิโรมันมีจุดประสงค์ทางการเมืองเป็นสำคัญ แต่พิธีศาสนาอื่นๆ มีจุดประสงค์ด้านศาสนาจริงๆ อย่างที่พวกเขาแสดงความปรารถนาในความเป็นอมตะ ในชีวิตนิรันดร อย่างที่คนส่วนใหญ่ต้องการ