พระเจ้าทรงแสดงให้เปโตรเห็นว่า ไม่มีความแตกต่างกันระหว่างชาวยิวกับคนต่างศาสนาอีกต่อไป ซึ่งหมายความว่าไม่ต้องถือกฎเกณฑ์เรื่องอาหาร ตามกฎของของชาวยิวอีกต่อไป  เปโตรรับคำเชิญของนายร้อยชาวโรมันไปเยี่ยมที่บ้าน และครอบครัวของนายร้อยได้รับศีลล้างบาป

ทีละเล็กละน้อย ข่าวดีของพระคริสตเจ้าค่อยๆ แผ่ขยายออกไปสู่คนอื่นๆ ที่อยู่นอกกรุงเยรูซาเล็ม อย่างไรก็ตาม ข่าวดีของพระคริสตเจ้ายังไม่ได้ประกาศแก่คนอื่นๆ นอกจากชาวยิว และผู้ที่กลับใจมานับถือศาสนายิว แต่ขณะนี้ถึงเวลาแล้วที่จะประกาศข่าวดีของพระคริสตเจ้าแก่คนต่างศาสนาด้วย นั่นคือ ประชาชนที่ไม่ถือศาสนายิว พระเจ้าทรงต้องการให้เปโตรเป็นตัวอย่างในเรื่องที่เรากำลังพิจารณานี้ (กจ 10:1-11;18)

ขณะที่เปโตรกำลังไปเยี่ยมกลุ่มคริสตชนกลุ่มต่างๆ เปโตรหยุดพักที่เมืองยัฟฟา เมืองชายฝั่งทะเล ไม่ไกลจากเมืองซีซารียานัก เป็นสถานที่พวกทหารโรมันพำนักอยู่  นายร้อยโรมันคนหนึ่งชื่อ โครเนลีอัส เป็นคนชอบธรรม และยำเกรงพระเจ้า แม้ว่าจะเป็นคนต่างศาสนาและไม่ถือบัญญัติของชาวยิว แต่เขาอธิษฐานภาวนาต่อพระเจ้าเสมอๆ และพระเจ้าทรงฟังคำภาวนาของเขา วันหนึ่ง เวลาประมาณบ่ายสามโมง ขณะที่โครเนลีอัสกำลังภาวนา เขาเห็นนิมิตอย่างชัดเจน คือเห็นทูตสวรรค์องค์หนึ่งและได้ยินเสียงพูดว่า "โครเนลีอัสเอ๋ย... คำอธิษฐานภาวนาและการกระทำทานของท่าน เป็นเหมือนเครื่องบูชาที่พอพระทัยเฉพาะพระพักตร์ของพระเจ้าแล้ว บัดนี้ ท่านจงส่งคนไปยังเมืองยัฟฟา แล้วเชิญซีโมนที่เรียกกันว่าเปโตรมาที่นี่"

วันต่อมา ขณะที่คนเหล่านั้นกำลังเดินทางมาเมืองยัฟฟา เปโตรขึ้นไปบนดาดฟ้าของบ้านเพื่อจะอธิษฐานสวดภาวนา ท่านรู้สึกหิว ขณะที่ยังเตรียมอาหารไม่เสร็จ ท่านเข้าสู่ภวังค์ และเห็นท้องฟ้าแหวกออก สิ่งหนึ่งคล้ายผ้าผืนใหญ่ถูกมัดไว้ทั้งสี่มุมกำลังถูกหย่อนลงมายังพื้นดิน ในนั้นมีสัตว์นานาชนิด ทั้งสัตว์สี่เท้า สัตว์เลื้อยคลาน ตามบัญญัติของโมเสส สัตว์เหล่านี้เป็นสัตว์ต้องห้ามรับประทานสำหรับชาวยิว เปโตรได้ยินเสียงหนึ่งบอกกับท่านให้ฆ่าสัตว์เหล่านี้ และกินเป็นอาหาร เปโตรตอบว่า "ทำไม่ได้ พระเจ้าข้า ข้าพเจ้าไม่เคยกินอะไรที่มีมลทินหรือไม่สะอาด" เสียงนั้นตอบมาสามครั้งว่า "สิ่งที่พระเจ้าทรงชำระให้สะอาดแล้ว ท่านอย่าเรียกว่ามีมลทินเลย" แล้วสิ่งนั้นถูกยกขึ้นไปบนท้องฟ้าทันที

จุดสำคัญของภาพนิมิตอยู่ที่ว่า เปโตรต้องมีความใจกว้างยอมรับคนต่างศาสนาที่ไม่ได้เข้าสุหนัต และจะไม่มีความแตกต่างกันระหว่างชาวยิวกับคนต่างศาสนาอีกต่อไปในการรับข่าวดีของพระคริสตเจ้า คนต่างศาสนาจะถูกรับเข้ามาในพระศาสนจักรด้วย ถ้ายอมรับข่าวดีขององค์พระคริสตเจ้า แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ปฏิบัติตามกฎของโมเสสก็ตาม

พวกคนใช้ของโครเนลีอัสมาถึง และเชิญเปโตรไปเยี่ยมที่บ้านของนายร้อยโรมัน  ในคืนนั้นพวกคนใช้พักอยู่กับเปโตร และวันต่อมา เปโตรพร้อมกับคนใช้เดินทางไปยังเมืองซีซารียาและไปที่บ้านของนายร้อย โครเนลีอัสเล่าเรื่องที่ท่านเห็นภาพนิมิตให้เปโตรฟัง และเปโตรประกาศเรื่องพระคริสตเจ้าแก่ครอบครัวของโครเนลีอัส เดี๋ยวนี้เปโตรเห็นจริงแล้วว่า พระเจ้าไม่ทรงลำเอียง ทุกคนที่ยำเกรงพระองค์และปฏิบัติความชอบธรรม จะมีเชื้อชาติใด ย่อมเป็นที่พอพระทัยพระองค์

ก่อนที่เปโตรจะพูดจบ พระจิตเจ้าเสด็จลงมาเหนือคนต่างศาสนาที่กำลังฟังเปโตรพูด และพวกเขาเริ่มพูดภาษาต่างๆ และสรรเสริญพระเจ้า ดังนั้น เปโตรจึงสั่งให้คนเหล่านั้นรับศีลล้างบาปเดชะพระนามของพระเยซูคริสตเจ้า และรับเข้าอยู่ในกลุ่มคริสตชน พวกเขาเป็นคนต่างศาสนากลุ่มแรกที่กลับใจ