พระศาสนจักรเริ่มเป็นรูปเป็นร่างชัดเจนยิ่งขึ้น บุคคลต่างๆ เข้ารับงานหน้าที่แตกต่างกันไป ที่สุดกลายเป็นสามตำแหน่งหน้าที่ คือพระสังฆราช พระสงฆ์ และสังฆานุกร

กลุ่มที่มีความสำคัญมากที่สุดในกลุ่มคริสตชนที่เกิดใหม่ แน่นอนเป็นกลุ่มอัครสาวกทั้งสิบสอง หน้าที่ของผู้นำคือ ต้องเป็นพยานถึงชีวิต การสิ้นพระชนม์ และการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้า และประกาศข่าวดีของพระองค์ พวกเขาต้องกลับใจประชาชนและโปรดศีลล้างบาป

จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวโครินธ์ฉบับที่ 1 บรรยายการก่อตั้งพระศาสนจักรแรกเริ่ม (1คร 12:28) พระเจ้าทรงแต่งตั้งบางคนให้ทำหน้าที่ต่างๆ ในพระศาสนจักร คือ หนึ่งให้เป็นอัครสาวก สองให้เป็นประกาศก และสามให้เป็นครูอาจารย์ ต่อจากนั้น คือ ผู้มีอำนาจทำอัศจรรย์ ผู้รักษาโรค ผู้ช่วยเหลือ ผู้ปกครอง และผู้พูดภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจ

บางหน้าที่ที่กล่าวถึงยังคงมีอยู่ และบางหน้าที่ถูกรวมเข้ากับหน้าที่อื่นๆ ตามการจัดการองค์กรของพระศาสนจักร ที่เป็นรูปเป็นร่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น ที่สุด มีสามหน้าที่คือ พระสังฆราช พระสงฆ์ และ สังฆานุกร

เห็นได้ชัดว่า เมื่อแรกเริ่มคำว่า"ผู้ดูแล" (หรือพระสังฆราช) ถูกใช้สลับกับคำว่า "ผู้อาวุโส" (พระสงฆ์)  กลุ่มนี้เป็นผู้นำพระศาสนจักรท้องถิ่น คอยเฝ้าดูแลชุมนุมพระศาสนจักรท้องถิ่นทั้งหมด ภายใต้การนำของพระจิตเจ้า (กจ 20:28)

ท่านทั้งหลาย จงดูแลตนเองและฝูงแกะที่พระจิตเจ้าทรงแต่งตั้งท่านให้เป็นผู้ดูแล เพื่อเลี้ยงดูพระศาสนจักรของพระเจ้า ที่พระองค์ทรงได้มาด้วยพระโลหิตของพระบุตรทีละเล็กทีละน้อย หัวหน้าของพระศาสนจักรท้องถิ่นแต่ละกลุ่ม ได้รับอำนาจมากขึ้น จนเขาผู้เดียวที่ถูกเรียกว่า พระสังฆราช ตำแหน่งพระสงฆ์เจ้าอาวาสพัฒนาขึ้นภายในกลุ่ม พระสังฆราชอยู่ในฐานะหัวหน้า พระสงฆ์อยู่ภายใต้การดูแลของพระสังฆราช

สังฆานุกร  ปฏิบัติศาสนบริการตามความต้องการของประชาชนในพระ ศาสนจักรทุกๆ วัน ให้ทานแก่ผู้มีความต้องการ และช่วยพระสังฆราชในด้านอื่นๆ ต่อไปเราจะอ่านเรื่องของสเทเฟน คนหนึ่งในสังฆานุกรกลุ่มแรก

บรรดาสตรี มีบทบาทสำคัญมากในพระศาสนจักรแรกเริ่มด้วย ตัวอย่าง เช่น สังฆานุกรสตรีได้ช่วยงานภายในกลุ่ม สตรีหลายคนมีส่วนร่วมในชีวิตพระเยซู เป็นภาพลักษณ์ที่สำคัญในพระศาสนจักร มารีย์ ผู้ให้กำเนิดพระเยซู เป็นบุคคลแรกที่เชื่อในพระองค์ และ มารีย์ ชาวมักดาลา เป็นบุคคลแรกที่เห็นพระเยซูเจ้า ผู้กลับคืนพระชนมชีพ และประกาศการกลับคืนพระชนมชีพของพระองค์แก่บรรดาอัครสาวก (ยน 20:11-18)