หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

คำอธิษฐานของพระเยซูเจ้า

17 1พระเยซูเจ้าตรัสดังนี้แล้ว ทรงแหงนพระพักตร์ขึ้นเบื้องบน ตรัสว่าข้าแต่พระบิดา   ถึงเวลาแล้วโปรดประทานพระสิริรุ่งโรจน์แก่พระบุตรของพระองค์เถิดเพื่อพระองค์จะทรงรับพระสิริรุ่งโรจน์จากพระบุตร

2ดังที่พระองค์ได้ประทานอำนาจแก่พระบุตรเหนือมนุษย์ทั้งมวล         เพื่อพระบุตรจะได้ประทานชีวิตนิรันดรแก่ทุกคนที่พระองค์ทรงมอบไว้ให้

3ชีวิตนิรันดรคือการรู้จักพระองค์พระเจ้าแท้แต่พระองค์เดียวและรู้จักผู้ที่พระองค์ทรงส่งมาคือพระเยซูคริสตเจ้า

4ข้าพเจ้าได้ทำให้พระองค์รับพระสิริรุ่งโรจน์ในโลกนี้แล้วโดยปฏิบัติภารกิจจนสำเร็จตามที่ทรงมอบหมายแก่ข้าพเจ้า

5บัดนี้ พระบิดาเจ้าข้า โปรดประทานพระสิริรุ่งโรจน์แก่ข้าพเจ้าพระสิริรุ่งโรจน์ที่ข้าพเจ้าเคยมีร่วมกับพระองค์ ตั้งแต่ก่อนสร้างโลก

6ข้าพเจ้าได้สำแดงพระนามของพระองค์แก่มนุษย์ที่พระองค์ทรงนำจากโลกมามอบแก่ข้าพเจ้าเขาทั้งหลาย     เป็นของพระองค์ และพระองค์ทรงมอบเขาให้ข้าพเจ้าเขาได้ปฏิบัติตามพระวาจาของพระองค์ถ

7บัดนี้ เขารู้แล้วว่าทุกสิ่งที่พระองค์ทรงมอบให้ข้าพเจ้านั้นมาจากพระองค์

8เพราะว่าพระวาจาที่พระองค์ทรงมอบให้ข้าพเจ้านั้นข้าพเจ้าได้มอบให้เขาแล้วเขาได้รับไว้และรู้แน่นอนว่า   ข้าพเจ้ามาจากพระองค์และเขาก็เชื่อว่า พระองค์ทรงส่งข้าพเจ้ามา

9ข้าพเจ้าอธิษฐานภาวนาสำหรับเขาเหล่านี้ ข้าพเจ้ามิได้อธิษฐานภาวนาสำหรับโลกแต่สำหรับผู้ที่พระองค์ทรงมอบให้แก่ข้าพเจ้าเพราะเขาเป็นของพระองค์

10ทุกสิ่งที่เป็นของข้าพเจ้า เป็นของพระองค์ทุกสิ่งที่เป็นของพระองค์ ก็เป็นของข้าพเจ้าและข้าพเจ้าได้รับสิริรุ่งโรจน์โดยทางเขา

11ข้าพเจ้าไม่อยู่ในโลกอีกต่อไปแต่เขายังอยู่ในโลกและข้าพเจ้ากำลังกลับไปเฝ้าพระองค์ข้าแต่พระบิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์โปรด เฝ้ารักษาบรรดาผู้ที่ทรงมอบแก่ข้าพเจ้า ไว้ในพระ-นามของพระองค์เพื่อเขาจะได้เป็นหนึ่งเดียวกันเหมือนกับพระองค์และข้าพ  เจ้า

12เมื่อข้าพเจ้าอยู่กับบรรดาผู้ทรงมอบแก่ข้าพเจ้าข้าพเจ้าได้เฝ้ารักษาเขาเหล่านั้นไว้ในพระนามของพระองค์ข้าพเจ้าได้ เฝ้ารักษาไว้ และไม่มีผู้ใดพินาศเว้นแต่ผู้ที่ต้องพินาศเพื่อให้เป็นความจริงตามพระคัมภีร์

13แต่บัดนี้ ข้าพเจ้ากำลังกลับไปเฝ้าพระองค์ข้าพเจ้ากล่าววาจานี้ขณะที่ยังอยู่ในโลกเพื่อบรรดาผู้ที่มอบแก่ข้าพเจ้าจะได้มีความชื่นชมยินดีอย่างบริบูรณ์พร้อมกับข้าพเจ้า

14ข้าพเจ้าได้มอบพระวาจาของพระองค์แก่เขาเหล่านั้นแล้ว   และโลกได้เกลียดชังเขาเพราะเขามิได้เป็นของโลกเช่น  เดียวกับที่ข้าพเจ้าไม่ได้เป็นของโลก

15ข้าพเจ้ามิได้วอนขอพระองค์ให้ทรงยกเขาออกจากโลกแต่ขอให้ทรงรักษาเขาให้พ้นจากมารร้าย

16เขาไม่เป็นของโลก เช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้ามิได้เป็นของโลก

17โปรดบันดาลให้เขาศักดิ์สิทธิ์โดยอาศัยความจริงพระวาจาของพระองค์คือ ความจริง

18พระองค์ทรงส่งข้าพเจ้ามาในโลกฉันใดข้าพเจ้าก็ส่งเขาเข้าไปในโลกฉันนั้น

19ข้าพเจ้าถวายตนเป็นบูชาสำหรับเขาเพื่อเขาจะได้รับความศักดิ์สิทธิ์อย่างแท้จริงด้วย

20ข้าพเจ้าอธิษฐานภาวนามิใช่สำหรับคนเหล่านี้เท่านั้นแต่สำหรับผู้ที่จะเชื่อในข้าพเจ้าเพราะวาจาของเขาด้วย

21ข้าแต่พระบิดา ข้าพเจ้าอธิษฐานภาวนา เพื่อให้ทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกันเช่นเดียวกับที่พระองค์ทรงอยู่ในข้าพเจ้า   และข้าพเจ้าอยู่ในพระองค์เพื่อให้เขาทั้งหลายอยู่ในพระองค์และในข้าพเจ้าโลกจะได้เชื่อว่าพระองค์ได้ทรงส่งข้าพเจ้ามา

22พระสิริรุ่งโรจน์ที่พระองค์ได้ประทานแก่ข้าพเจ้านั้น ข้าพเจ้าได้ให้แก่เขาเพื่อให้เขาเป็นหนึ่งเดียวกัน    เช่นเดียวกับที่พระองค์และข้าพเจ้าเป็นหนึ่งเดียวกัน

23ข้าพเจ้าอยู่ในเขา และพระองค์ทรงอยู่ในข้าพเจ้าเพื่อเขาจะได้เป็นหนึ่งเดียวกันโดยสมบูรณ์โลกจะได้รู้ว่าพระองค์ทรงส่งข้าพเจ้ามาและพระองค์ทรงรักเขาเช่นเดียวกับที่ทรงรักข้าพเจ้า

24ข้าแต่พระบิดา ผู้ที่พระองค์ประทานให้ข้าพเจ้านั้นข้าพเจ้าปรารถนาให้เขาอยู่กับข้าพเจ้าทุกแห่งที่ข้าพเจ้าอยู่เพื่อเขาจะได้เห็นพระสิริรุ่งโรจน์ซึ่งพระองค์ประทานให้แก่ข้าพเจ้าเพราะพระองค์ทรงรักข้าพเจ้าตั้งแต่ก่อนสร้างโลก

25ข้าแต่พระบิดา ผู้ทรงเที่ยงธรรมโลกไม่ได้รู้จักพระองค์แต่ข้าพเจ้าได้รู้จักและคนเหล่านี้ทราบว่าพระองค์ทรงส่งข้าพเจ้ามา

26ข้าพเจ้าได้บอกให้เขารู้จักพระนามของพระองค์และจะบอกให้รู้ต่อไปเพื่อความรักที่พระองค์ทรงรักข้าพเจ้าจะได้อยู่   ในเขาและข้าพเจ้าจะได้อยู่ในเขาด้วยเช่นกัน