หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

โดย...พระสันตะปาปา ยอห์น ปอล ที่ 2

การประทับของพระเยซูในพระวิหาร

นับแต่เวลา “เทวดามาแจ้งสาสน์แล้ว, ในแง่หนึ่ง อาจพูดได้ว่า โยเซฟกับแม่มารีประสมอยู่ใน “ใจกลางของความลึกลั บ” ซึ่งซ่อนเร้นอยู่ในพระเป็นเจ้าแต่หลายศตวรรษมาแล้ว แต่ตกที่สุดก็ได้หุ้มห่อด้วยเนื้อหนัง” พระวจนาถทรงรับเอาเนื้อหนังและพักพิงอยู่ท่ามกลางเราทั้งหลาย” (ยน.1,14), พระองค์ทรงดำรงชีพอยู่ท่ามกลางหมู่ มนุษย์ และที่พักพิงของพระองค์ก็คือ ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์แห่งนาซาเรธ. แน่นอนละ เป็นครอบครัวน้อยๆ ครอบครัวหนึ่งในหมู่บ้านที่มีครอบครัวใหญ่ๆ หลายแห่ง ในแคว้นกาลิลี ดินแดนประเทศอิสราเอล. ณ ที่นี้แหละ พระเยซู “พระกุมาร…ได้เจริญเติบโตแข็งแรงขึ้น, เปี่ยมด้วยพระปรีชาญาณ และพระหรรษทานก็อยู่ในพระองค์ (ลก.2,40).

พระวรสารต่างๆ ย่อระยะเวลาอันยาวนานแห่งชีวิต ซ่อนเร้นของพระเยซู ด้วยคำไม่กี่คำ, ระยะเวลานั้น พระองค์ได้ทรงใช้เพื่อเตรียมภารกิจเป็นพระเมสสิอา (พระผู้ไถ่), มีเฉพาะช่วงเวลาเดียวที่แยกตัวออกจาก “การบังซ่อนพระองค์”. เรื่องนี้ลูกาได้วรรณนาไว้. วันปาสกาในกรุงเยรูซาเลม คราวเมื่อพระเยซูทรงมีพระชนมายุได้ 12 พรรษา

พระเยซูได้มีส่วนร่วมในงานฉลองครั้งนั้นในฐานะผู้แสวงบุญที่เยาว์วัย พร้อมกับพระแม่มารีและโยเซฟ. และดูเถิด : “เมื่อจบงานฉลองแล้ว, ท่านทั้งสองก็เดินทางขากลับ แต่พระกุมารเยซูทรงค้างอยู่ที่กรุงเยรูซาเลม แล ะบิดามารดาของพระองค์ก็ไม่ทราบเรื่อง” (ลก.2,43). ในวันแรกของการเดินทางกลับ ท่านจึงทราบว่า พระเยซูไม่อยู่. ท่านได้ไต่ถามหาพระองค์ท่ามกลา งหมู่ญาติและคนที่รู้จัก. “สามวันล่วงไปท่านจึงได้ไปพบพระองค์ในพระวิหาร, ทรงนั่งอยู่ท่ามกลางพวกนักปราชญ์, ทรงฟังและไต่ถามเขา, ทุกคนที่ได้ยินพระองค์ต่างแปลกใจในความเฉลียวฉลาดและคำตอบของพระองค์” (ลก.2,46-47). พระแม่มารีจึงถามพระองค์ว่า : “ลูกเอ๋ย ทำไมทำดังนี้กั บเรา? ดูเถิด พ่อของลูกและแม่ เป็นทุกข์เป็นร้อนตามหาลูก” (ลก.2,48). พระเยซูตอบแต่บิดามารดามิได้เข้าใจคำพูดของพระองค์. พระองค์ได้ตรัสตอบว่า : “เหตุใดท่าน (ทั้งสอง) จึงตามหาผม? ท่านไม่ทราบดอกหรือว่า ผมต้องอยู่ในบ้านพระบิดาของผม” (ลก.2,49-50).

คำตอบนี้โยเซฟก็ได้ยิน, เป็นคำสนองตอบคำของพระแม่มารี : “พ่อของลูก”. ที่จริงใครๆ ก็พูดและคิดว่า พระเยซูเป็นอย่างที่เขาเชื่อกัน, เป็นลูกของโยเซฟ” (ลก.3,23). คำตอบของพระเยซูที่พระวิหารนั้น น่าจะสะกิดใจและมโนธรรมของ ผู้เป็น “พ่อที่เขาเหมาเอา” ทำให้ท่านระลึกถึงเหตุการณ์ เวลากลางคืนที่ล่วงมา 12 ปีแล้วว่า : “โยเซฟ…อย่ากลัวที่จะรับเอามารีภรรยาของท่านไว้ที่บ้าน. เพราะว่าสิ่งที่เกิดในนางเป็นมาโดยพระจิตเจ้า”. นับแต่เวลานั้นเป็นต้นมา ท่านก็เข้าใจว่า ตัวท่านเป็นผู้ดูแลและผู้รับฝากธรรมอันล้ำลึกของพระเจ้า และพระเยซู เมื่อมีพระ ชนมายุได้ 12 พรรษา ได้ทรงฟื้นธรรมอันล้ำลึกนั้นว่า : ผมต้องอยู่ในบ้านพระบิดาของผม.”