2794สำนวนพระคัมภีร์นี้ไม่หมายถึงสถานที่ แต่เป็นวิถีของความเป็นอยู่
ไม่ใช่หมายความว่าพระเป็นเจ้าอยู่ห่าง แต่เป็นความยิ่งใหญ่ พระบิดาของเราไม่อยู่ "ที่อื่นไกล" พระองค์ประทับอยู่ "นอกเหนือทุกสิ่ง" เราสามารถรับรู้ได้ถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ เหตุนี้จึงกล่าวศักดิ์สิทธิ์สิทธิ์สามครั้งว่าพระองค์ทรงอยู่ใกล้ที่สุดกับดวงใจที่สุภาพถ่อมตนและสำนึกผิด
ถ้อยคำเหล่านี้มีเหตุผลดี
"พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย พระองค์สถิตในสวรรค์" มีความหมายถึงดวงใจของผู้ชอบธรรมที่ซึ่งพระเจ้าประทับอยู่เสมือนพระวิหารของพระองค์ เพราะฉะนั้น ผู้ซึ่งภาวนาจะปรารถนาให้ผู้ที่เรียกหานั้นมาอยู่ในตัวเขา (น.ออกัสติน) "สวรรค์" ยังอาจเป็นของบรรดาผู้ที่นำพระฉายาลักษณ์ของโลกแห่งสวรรค์ซึ่งพระเจ้าประทับอยู่ และไปๆ มาๆ ระหว่างนั้น (น.ซีริล แห่งกรุงเยรูซาเล็ม)
2795สัญลักษณ์ของฟ้าสวรรค์นั้นนำเราไปยังธรรมล้ำลึกแห่งพันธสัญญาซึ่งเรากำลังดำเนินชีวิต เมื่อเราภาวนาบทข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย พระองค์สถิตในสวรรค์
นี่คือที่ประทับของพระองค์ คฤหาสน์ของพระบิดาเจ้าจึงเป็น "บ้านเกิดเมืองนอนของเรา" บาปทำให้เราถูกเนรเทศจากแผ่นดินแห่งพันธสัญญา (เทียบ ปฐก.3)
แต่การกลับใจนำเรากลับไปหาพระบิดาไปสู่สวรรค์ (ยรม.3:19-4:1; ลก. 15:18,21) บัดนี้ ในพระคริสตเจ้า สวรรค์และแผ่นดินโลกคืนดีกัน (เทียบ อสย.45:8; สดด.85:12) เพราะว่า พระบุตร "ทรงเสด็จลมาจากสวรรค์" เพียงลำพัง และทำให้เรากลับไปสู่สวรรค์พร้อมกับพระองค์ โดยอาศัยไม้กางเขน การกลับเป็นขึ้นมา และการเสด็จสู่สวรรค์ของพระองค์ (ยน.3:13; 12:32; 14:2-3; 16:28; 20:17; อฟ.4:9-10; ฮบ.1:3; 2:13)
2796เมื่อพระศาสนจักรสวดบท "ข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย พระองค์สถิตในสวรรค์" นั้น ก็ประกาศว่าเราเป็นประชากรของพระเจ้า
"โปรดให้เรามีที่นั่งในสวรรค์พร้อมกับพระองค์ท่าน"
(อฟ.2:6) ฟ้าสวรรค์นั้นซ่อนเร้นอยู่ "กับพระคริสตเจ้าในพระเจ้า" (คส.3:3) แต่ในขณะเดียวกัน "เราก็คร่ำครวญปรารถนาอย่างยิ่งที่จะสวมใส่ร่างกายที่มาจากสวรรค์" (2คร.5:2)
บรรดาคริสตชนอยู่ในเนื้อหนัง แต่ไม่ดำเนินชีวิตตามเนื้อหนัง เขาใช้ชีวิตของเขาบนแผ่นดินโลก แต่ก็เป็นพลเมืองบนสวรรค์ (PG 2,1173)
|