2697การภาวนาเป็นชีวิตของหัวใจใหม่ ทำให้เรามีชีวิตจิตใจทุกขณะ แต่เรามีความโน้มเอียงที่จะลืมพระองค์ผู้เป็นชีวิตและทุกสิ่งของเรา
นี่จึงเป็นเหตุผลที่บรรดาปิตาจารย์แห่งชีวิตจิตในธรรมประเพณีของพระคัมภีร์ปัญจบรรพและประกาศก ยืนยันว่าการภาวนาเป็นการระลึกถึงพระเป็นเจ้า
ซึ่งความจำถึงหัวใจทำให้เราตื่นตัวขึ้นบ่อยๆ นักบุญเกรโกรี่แห่งนาเซียน กล่าวว่า "เราต้องระลึกถึงพระเป็นเจ้าบ่อยกว่าที่เราหายใจ" แต่เราไม่สามารถภาวนาได้ตลอดเวลา หากเราไม่ภาวนาในเวลาเฉพาะด้วยความปรารถนาและสำนึกตัวขณะภาวนา ต่อไปนี้เป็นเวลาภาวนาของคริสตชนทั้งความเข้มข้นและช่วงเวลา
2698ธรรมประเพณีของพระศาสนจักรเสนอช่วงเวลาภาวนาแก่สัตบุรุษ โดยมีเจตนาเพื่อให้ภาวนาอย่างต่อเนื่อง ช่วงภาวนาประจำวัน เช่น ภาวนาเช้าและเย็น ก่อนและหลังรับประทานอาหาร
พิธีกรรมทำวัตร วันอาทิตย์มีศูนย์กลางที่พิธีบูชามิสซา ซึ่งเราต้องถือว่าเป็นการภานาที่สำคัญอันดับแรก วงจรของปีพิธีกรรมและวันฉลองใหญ่ๆ ก็เป็นจังหวะพื้นฐานของชีวิตแห่งการภาวนาของคริสตชนด้วย
2699องค์พระผู้เป็นเจ้านำเราทุกคนด้วยวิถีทางที่ทำให้พระองค์พอพระทัย และคริสตชนแต่ละคนตอบรับตามการตัดสินใจของตน และแสดงออกส่วนบุคคลด้วยการภาวนา อย่างไรก็ดี
ธรรมประเพณีคริสตชนได้รักษารูปแบบการภาวนา 3 ประการใหญ่ๆ คือ ภาวนาออกเสียง (vocal) การรำพึง (meditative) และการเพ่งญาณ (Contemplative) ทั้งหมดมีคุณลักษณะร่วมกันคือ ใจสงบ การระวังระไว ในการปฏิบัติตามพระวาจา
และสำนึกตนอยู่ต่อหน้าพระเป็นเจ้า ช่วยให้กิจการทั้งสามร้อนรนในช่วงชีวิตแห่งการภาวนา
|