การเรียกทุกคนให้มาภาวนา
2566 มนุษย์นั้นแสวงหาพระเป็นเจ้า
พระเป็นเจ้าทรงเรียกทุกสิ่งจากความว่างเปล่าให้มีอยู่โดยการสร้างโลก มนุษย์นั้นรองจากเทวดา "มีศักดิ์ศรีและเกียรติ" มีความสามารถรับรู้ว่าพระนามขององค์พระเป็นเจ้านั้น "ยิ่งใหญ่... เหนือแผ่นดินโลก" (สดด.8:5) ภายหลังได้สูญเสียความละม้ายคล้ายคลึงพระเจ้า อันเนื่องมาจากบาป มนุษย์ยังคงมีพระฉายาลักษณ์ของพระผู้สร้าง พระองค์ทรงรักษาไว้ให้มีความต้องการผู้ซึ่งเรียกเขาให้มีชีวิตอยู่ ทุกศาสนาเป็นประจักษ์พยานการแสวงหาพระเจ้าอันสำคัญนี้ของมนุษย์ (เทียบ กจ.17:27)
2567พระเป็นเจ้าทรงเรียกมนุษย์ก่อน
ไม่ว่ามนุษย์จะลืมพระผู้สร้างของตนหรือหลบซ่อนห่างไกลจากพระพักตร์พระองค์ ไม่ว่าจะวิ่งตามรูปปฏิมาของตน หรือกล่าวหาพระเป็นเจ้าว่าได้ละทิ้งเขาเสีย พระเป็นเจ้าผู้ทรงชีวิตและแท้จริงนั้นเรียกทุกบุคคลอย่างไม่หยุดยั้งให้มาพบปะกันอย่างล้ำลึกที่การภาวนา การที่พระเป็นเจ้าผู้สัตย์ซื่อเริ่มกระทำการด้วยความรักเช่นนี้เกิดขึ้นก่อนในการภาวนาเสมอเป็นนิตย์ มนุษย์มีแต่จะทำการตอบรับเท่านั้นเสมอ ทีละเล็กทีละน้อย พระเจ้าก็ทรงเผยแสดงพระองค์และทรงเปิดเผยมนุษย์ให้กับตนเอง การภาวนาดูเหมือนเป็นการเรียกขานกันและกัน เป็นเหตุการณ์แห่งพันธสัญญา โดยทางถ้อยคำและการกระทำต่างๆ เหตุการณ์นั้นทำให้ดวงใจรับภาระผิดชอบมีการเปิดเผยตลอดระยะเวลาประวัติศาสตร์แห่งความรอด
|