2578การภาวนาของประชากรพระเจ้านั้นพัฒนาไปตามร่มเงาแห่งที่ประทับของพระเจ้า กล่าวคือ ตามหีบพระสัญญาและพระวิหารในเวลาต่อมา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาผู้นำและผู้เผยพระวจนะ ซึ่งจะสอนประชากรให้ภาวนา เด็กน้อย ซามูแอลรู้จักภาวนาจากฮันนามารดาของตนว่า "จะยืนอยู่เบื้องพระพักตร์พระเจ้าอย่างไร" และจากปุโรหิต เอลี ว่า จะฟังพระวาจาของพระเจ้าอย่างไร "โปรดตรัสเถิดพระเจ้าข้า เพราะว่าข้าพระองค์กำลังฟังอยู่" (1ซมอ.3:9-10 เทียบ 1:9-18) ในเวลาต่อมาท่านก็จะรู้จักคุณค่า และผลของการภาวนาขอความช่วยเหลือ "ส่วนข้าพเจ้า พระเจ้าทรงห้ามข้าพเจ้าเลิก ขออย่าให้มีวี่แววที่ข้าพเจ้าจะกระทำบาปต่อพระเจ้า ด้วยการหยุดอธิษฐานเพื่อท่านทั้งหลาย แต่ข้าพเจ้าจะแนะนำทางที่ดีและที่ถูกให้ท่าน" (1ซมอ.12:23)
2579ดาวิดเป็นกษัตริย์ที่ดีที่สุด "ตามที่พระเจ้าทรงต้องการ" เป็นนายชุมพาบาลที่ภาวนาให้ประชากรในนามของพวกเขา ผู้ซึ่งยอมอยู่ใต้น้ำพระทัยของพระเจ้า การสรรเสริญ
การสำนึกผิดจะเป็นแบบฉบับของการภาวนาสำหรับประชากร ท่านได้รับการเจิมจากพระเจ้า การภาวนาของท่านเป็นการเกาะติดกับพระสัญญาของพระเจ้าอย่างสัตย์ซื่อ
มีความมั่นใจเต็มเปี่ยมด้วยความรักและความปีติในพระเจ้า ผู้ซึ่งเป็นกษัตริย์และเจ้านายเท่านั้น (เทียบ 2ซมอ.7:18-29) ในบทเพลงสดุดีนั้น กษัตริย์ดาวิดได้รับการดลใจโดยพระจิตเจ้า เป็นผู้เผยพระวจนะรายแรกที่ภาวนาแบบชาวยิวและคริสตชน การสวดบทอธิษฐานของพระคริสตเจ้า พระเมสสิยาห์แท้จริงและโอรสดาวิดจะเผยแสดง และทำให้ความหมายของการภาวนานี้สมบูรณ์
2580พระวิหารกรุงเยรูซาเล็ม บ้านแห่งการภาวนา ซึ่งกษัตริย์ดาวิดมีพระประสงค์จะสร้างขึ้นมา
จะเป็นผลงานของกษัตริย์ซาโลมอน โอรสของพระองค์ การภาวนาถวายอุทิศพระวิหาร ทำให้เกิดความไว้วางใจต่อพระสัญญาของพระเจ้า และต่อพันธสัญญาของพระองค์ ต่อการประทับอยู่แห่งพระนามของพระองค์ท่ามกลางประชากรของพระองค์ และการรำลึกถึงกิจการน่าพิศวงแห่งการเดินทางอพยพ (1พกษ.8:10-61) กษัตริย์ทรงยกพระหัตถ์ขึ้นสู่ท้องฟ้า และวิงวอนองค์พระเจ้าเพื่อตนเอง เพื่อประชากรทั้งมวลและเพื่อชนรุ่นต่อมาในอนาคต เพื่อขออภัยบาป และเพื่อสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน เพื่อให้ทุกชนชาติรู้ไว้ว่า พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าองค์เดียวและดวงใจของประชากรทั้งหมดนั้นเป็นของพระองค์อย่างสิ้นเชิง
|