"นี่เป็นวันที่พระเจ้าทรงสร้าง ให้เราเปรมปรีดิ์และยินดีในวันนั้น" (สดด.118:14)
วันกลับเป็นขึ้นมา การสร้างใหม่
2174พระเยซูเจ้าได้ทรงกลับเป็นขึ้นมาจากความตาย "ในวันแรกของสัปดาห์" (มธ.28:1; มก.16:2; ลก.24:1; ยน.20:1) เป็น "วันแรก"
เพราะว่าเป็นวันกลับเป็นขึ้นมาของพระคริสตเจ้า ระลึกถึงการสร้างครั้งแรกและเป็น "วันที่แปด" เพราะว่าเป็นวันซึ่งต่อจากวันสับบาโต (เทียบ มก.16:1; มธ.28:1) วันนั้นจึงเป็นสัญลักษณ์
ถึงการสร้างครั้งใหม่ที่เริ่มโดยการกลับเป็นขึ้นมาของพระคริสตเจ้า สำหรับคริสตชนวันนี้จึงเป็นวันแรกของทุกวัน เป็นการฉลองแรกของการฉลองทั้งหลาย เป็นวันของพระเจ้านั่นคือ "วันอาทิตย์"
เราทุกคนชุมนุมพร้อมกันในวันอาทิตย์เนื่องจากว่านี่เป็นวันแรกซึ่งพระเจ้าได้ทรงสร้างโลก
หลังจากความมืดและสสารได้เปลี่ยนแปลงใหม่แล้ว ในวันนี้พระเยซูคริสตเจ้า พระผู้ช่วยให้รอดของเราได้ทรงกลับเป็นขึ้นมาจากความตาย (นักบุญยูสติน, Apol.1,67)
วันอาทิตย์ วันที่ทำให้วันสับบาโตสมบูรณ์
2175 วันอาทิตย์แยกออกจากวันสับบาโตอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นวันถัดไปทุกสัปดาห์ตามกำหนดเวลาสำหรับคริสตชน การปฏิบัติพิธีกรรมแทนพิธีของวันสับบาโต
วันอาทิตย์ทำให้ความจริงทางจิตใจของวันสับบาโตแบบยิวสมบูรณ์ในปัสกาของพระคริสตเจ้า และประกาศการพักผ่อนถาวรของมนุษย์ในพระเจ้า อันที่จริง
การบูชาถือตามธรรมบัญญัตินั้นตระเตรียมรหัสธรรมของพระคริสตเจ้าและสิ่งที่ชาวยิวได้ปฎิบัติเป็นรูปแบบที่เกิดขึ้นก่อนบางแง่มุมของพระคริสตเจ้า (เทียบ 1คร.10:11)
บรรดาผู้ดำเนินชีวิตตามกฎระเบียบเก่าก็มุ่งไปสู่ความหวังใหม่ ก็ไม่ถือตามวันสับบาโตอีกต่อไป แต่ถือวันของพระเจ้าซึ่งพระองค์และความตายของพระองค์ประทานพระพรแก่ชีวิตของเรา
(นักบุญอิกญาซีโอ)
2176การฉลองวันอาทิตย์นั้นทำให้บัญญัติทางศีลธรรมซึ่งจารึกไว้ในใจมนุษย์ตามธรรมชาติ ที่จะถวายเครื่องบูชาภายนอก แลเห็นได้
แบบชุมชนกำหนดเป็นกฎเกณฑ์แด่พระเจ้าเพื่อรำลึกถึงน้ำพระทัยดีสากลต่อมนุษย์ทุกคน (นักบุญโทมัส อไควนัส)
การถวายบูชาวันอาทิตย์นั้น ทำให้คำสอนทางศีลธรรมแห่งพันธเดิมสำเร็จสมบูรณ์ เป็นการยกจิตใจถวายพระพรผู้สร้างและพระผู้ไถ่ของประชากรของพระองค์ทุกสัปดาห์
การถวายบูชาศีลมหาสนิทวันอาทิตย์
2177การฉลองวันของพระเจ้าและการถวายบูชาศีลมหาสนิทวันอาทิตย์ถือเป็นหัวใจของชีวิตพระศาสนจักร
"วันอาทิตย์ซึ่งมีการฉลองรหัสธรรมปัสกาตามธรรมเนียมประเพณีที่สืบต่อจากอัครสาวก ต้องได้รับการปฏิบัติอยู่ในพระศาสนจักรทั้งมวลเสมือนเป็นวันฉลองสำคัญที่บังคับ" (กฎหมายพระศาสนจักร ม.1246,1)
"สมโภชพระคริสตสมภพ สมโภชพระคริสตเจ้าแสดงองค์ สมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์ และสมโภชพระวรกายและพระโลหิตพระคริสตเจ้า สมโภชพระนางมารีอามารดาของพระเจ้า
สมโภชพระนางมารีย์ผู้ปฏิสนธินิรมล สมโภชพระนางมารีย์รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ สมโภชนักบุญยอแซฟ สมโภชนักบุญเปโตรและเปาโล และท้ายสุดสมโภชนักบุญทั้งหลาย วันเหล่านี้ต้องได้รับการถือปฏิบัติ"
(กฎหมายพระศาสนจักร ม.1246,2)
2178การถือปฏิบัติของกลุ่มคริสตชนนี้ กระทำกันตั้งแต่ตอนเริ่มแรกยุคอัครสาวก (เทียบ กจ.2:42-46; 1คร.11:17) บทจดหมายถึงชาวฮีบรูบันทึกไว้ว่า
"จงมาประชุมกันเสมอๆ อย่าเลิกล้มไปเหมือนอย่างบางคนทำ จงให้กำลังใจกันให้มาก" (ฮบ.10:25)
ธรรมประเพณียังคงจดจำการให้กำลังใจที่เป็นจริงเสมอว่า
"จงไปวัดแต่เนิ่นๆ เข้าไปหาพระเจ้าและสารภาพบาปของตน สำนึกผิดระหว่างการสวดอธิษฐาน จงร่วมพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าจนจบ การสวดอธิษฐานสุดท้ายและอย่าออกไปก่อนปิดพิธี เราได้กล่าวบ่อยๆ ว่าวันนี้เป็นวันภาวนาและพักผ่อน เป็นวันที่พระเจ้าทรงสร้าง ให้เราเปรมปรีดิ์และยินดีเถิด"
2179"โบสถ์คือชุมชนสัตบุรุษที่กำหนดไว้ ซึ่งได้จัดตั้งขึ้นในบริเวณโบสถ์แห่งใดแห่งหนึ่ง ซึ่งการดูแลอภิบาลนั้นได้มอบไว้ให้เจ้าอาวาสองค์หนึ่งเป็นผู้อภิบาล
ภายใต้อำนาจบังคับบัญชาของสังฆราชแห่งสังฆมณฑล" (กฎหมายพระศาสนจักร ม.1246,1) โบสถ์เป็นสถานที่ซึ่งบรรดาสัตบุรุษสามารถมาชุมนุมกันร่วมบูชามิสซาในวันอาทิตย์
โบสถ์นั้นริเริ่มให้ประชาคมคริสตชนแสดงออกตามปกติถึงชีวิตทางพิธีกรรม รวบรวมประชากรในการฉลองนี้ สอนข้อความเชื่อแห่งความรอดของพระคริสตเจ้า แสดงความรักต่อพระเป็นเจ้าในกิจการที่ดีและรักกันฉันพี่น้อง
ท่านไม่อาจสวดอธิษฐานในบ้านเหมือนในโบสถ์ ที่ซึ่งมีประชากรของพระเจ้าร่วมชุมนุมกัน ที่ซึ่งเสียงร้องนั้นยกขึ้นสูงไปหาพระเจ้าด้วยดวงใจเดียวเท่านั้น ที่นั่นมีบางสิ่งมากขึ้น
การร้องประสานเสียงของจิตวิญญาณ การปรองดองต้องกันของวิญญาณ ความสัมพันธ์เชื่อมโยงแห่งความรักการอธิษฐานของพระสงฆ์ (นักบุญยอห์น คริสโซสโตม)
วันอาทิตย์ฉลองบังคับ
2180คำสั่งสอนของพระศาสนจักรเจาะจงธรรมบัญญัติของพระเจ้าชัดเจนว่า "วันอาทิตย์และวันฉลองบังคับอื่นๆ สัตบุรุษต้องเข้าร่วมมิสซา" (กฎหมายพระศาสนจักร ม.1247)
"ใครที่เข้าร่วมมิสซาที่ใดก็ตามในพิธีของคาทอลิก ในวันฉลอง หรือในค่ำวันก่อนวันฉลองก็กระทำตามพระบัญญัติ" (กฎหมายพระศาสนจักร ม.1248)
2181บูชาศีลมหาสนิทวันอาทิตย์เป็นพื้นฐานและยืนยันการปฏิบัติทั้งมวลแบบคริสตชน เพราะเหตุนี้ สัตบุรุษต้องเข้าร่วมพิธีศีลมหาสนิทในวันบังคับ ยกเว้นมีเหตุสมควร (เช่น
ความเจ็บป่วย การดูแลเด็กทารก) หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าอาวาสของตน (เทียบ กฎหมายพระศาสนจักร ม.1245) ใครไม่ถือตามข้อบังคับนี้โดยเจตนา ก็กระทำบาปหนัก
2182การเข้าร่วมฉลองบูชาศีลมหาสนิทของชุมชนวันอาทิตย์นั้นเป็นประจักษ์พยานของการเป็นของพระคริสตเจ้าและสัตย์ซื่อต่อพระองค์และต่อพระศาสนจักรของพระองค์ในวิธีนี้
สัตบุรุษเป็นพยานการมีส่วนร่วมกันในความเชื่อและความรัก สัตบุรุษเป็นพยานถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าและความหวังในความรอดของเขา ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ภายใต้การนำของพระจิตเจ้า
2183ถ้าเพราะขาดศาสนบริกรศักดิ์สิทธิ์ หรือเพราะสาเหตุร้ายแรงอื่นๆ กลายเป็นว่าไม่สามารถเข้าร่วมการฉลองบูชาศีลมหาสนิท
ได้มีการแนะนำอย่างมีชีวิตว่าให้สัตบุรุษเข้าร่วมในวจนพิธีกรรม ถ้ามีอยู่ในโบสถ์หรือในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ที่จัดฉลองตามที่พระสังฆราชแห่งสังฆมณฑลจัดไว้ให้ หรือเข้าร่วมกับการอธิษฐานเป็นการส่วนตัวเป็นระยะเวลาพอควร
หรือในครอบครัว หรือตามโอกาสในกลุ่มต่างๆ ของครอบครัว (กฎหมายพระศาสนจักร ม.1248 วรรค 2)
วันแห่งพระหรรษทานและหยุดพักจากการงาน
2184เหมือนอย่างที่พระเจ้า "วันที่เจ็ดสิ่งที่พระเจ้าทรงกระทำก็สำเร็จลง ในวันนั้นพระองค์ทรงเลิกสร้าง" (ปฐก.2:2)
ชีวิตของมนุษย์มีจังหวะการทำงานและการหยุดพักผ่อนอย่างนั้นด้วย การตั้งวันของพระเจ้ามีส่วนช่วยให้โอกาสแก่ทุกคนที่จะ "มีเวลาพักผ่อน และเวลาว่างอย่างเพียงพอสำหรับบำรุงชีวิตทางครอบครัว ทางวัฒนธรรม ทางสังคม
และทางศาสนา"
2185ในวันอาทิตย์และวันฉลองอื่นๆ ที่ต้องบังคับให้สัตบุรุษละเว้นจากการทุ่มเทให้กับการงานหรือกิจกรรมต่างๆ ซึ่งขัดขวางการถวายบูชาที่ต้องกระทำต่อพระเจ้า
ความปิติยินดีของตนในวันพระเจ้า การปฏิบัติงานเมตตากรุณาและการผ่อนคลายที่จำเป็นของสติปัญญาและร่างกาย ความจำเป็นทางครอบครัว
หรือการให้คุณประโยชน์ทางสังคมอย่างมากนั้นถือเป็นการทำให้เกิดความชอบธรรมที่ถูกต้องต่อข้อบังคับให้พักผ่อนวันอาทิตย์
สัตบุรุษจะเฝ้าดูแลให้การทำให้เกิดความชอบธรรมที่ถูกต้องนั้นไม่สร้างนิสัยความเคยชินที่เป็นอคติสำหรับศาสนา ชีวิตของครอบครัวและสุขภาพ
"ความรักต่อความจริงแสวงหาเวลาอิสระ ความจำเป็นของความรักนั้นยอมรับการงานที่ถูกต้อง" (นักบุญออกัสติน)
2186คริสตชนที่มีเวลาว่างควรระลึกถึงพี่น้องของเขาซึ่งมีความต้องการเดียวกันและสิทธิเหมือนกัน แต่ไม่สามารถหยุดพักจากงานได้ อันเนื่องมาจากความยากจนและความน่าสมเพช
ตามประเพณี
ความศรัทธาประสาคริสตชน อุทิศวันอาทิตย์เพื่อกิจการที่ดีและให้บริการรับใช้ที่สุภาพแก่คนเจ็บไข้ คนพิการและคนชรา บรรดาคริสตชนจะทำให้วันอาทิตย์ศักดิ์สิทธิ์โดยการให้เวลาและความสนใจแก่ครอบครัว และญาติพี่น้อง ซึ่งในวันอื่นๆ กระทำได้ยาก วันอาทิตย์เป็นเวลาเหมาะสมสำหรับคิดรำพึงเงียบ การศึกษาและการตั้งสมาธิซึ่งเอื้อประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของชีวิตภายในแบบคริสตชน
2187การทำวันอาทิตย์และวันฉลองให้ศักดิ์สิทธิ์นั้นเรียกร้องความพยายามร่วมกัน คริสตชนทุกคนควรหลีกเลี่ยงที่จะกำหนดสิ่งไม่จำเป็นที่อาจขัดขวางการถือวันของพระเจ้าแก่คนอื่น
กิจกรรมที่เคยปฏิบัติเป็นธรรมเนียม (การกีฬา ภัตตาคาร ฯลฯ) และความจำเป็นทางสังคม (การให้บริการชุมชน ฯลฯ)
เรียกร้องให้บางคนทำงานในวันอาทิตย์ แต่ทุกคนควรสนใจหาเวลาอิสระให้เพียงพอ สัตบุรุษจะเอาใจใส่ ด้วยการรู้ประมาณ และความรัก ดูแบบที่จะหลีกเลี่ยงการเกินเลยและความรุนแรง ซึ่งบางครั้งผนวกเข้ามากับกิจกรรมยามว่างที่นิยมกัน ถึงแม้จะมีปัญหาทางเศรษฐกิจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมืองควรให้หลักประกันแก่ประชาชนมีเวลาที่กำนดไว้ให้พักผ่อน และการถวายบูชาพระเจ้า นายจ้างมีข้อบังคับอย่างเดียวกันกับผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา
2188ในการเคารพเสรีภาพทางศาสนาและประโยชน์ส่วนรวมของทุกคนนั้น บรรดาคริสตชนต้องถือวันอาทิตย์และวันฉลองของพระศาสนจักรว่าเป็นวันหยุดตามกฎหมาย
เป็นหน้าที่ของเขาที่จะเป็นแบบอย่างการสวดอธิษฐาน การให้ความเคารพและความปีติยินดีแก่ทุกคน และป้องกันธรรมประเพณีของเขา เสมือนเป็นการแบ่งปันชีวิตฝ่ายจิตของสังคมมนุษย์ ถ้าการตรากฎหมายของประเทศหรือเหตุผลอื่นๆ
เรียกร้องให้ต้องทำงานวันอาทิตย์ อย่างไรก็ตามก็ให้ชีวิตในวันนี้เสมือนเป็นวันปลดปล่อยให้เป็นอิสระของเรา ซึ่งทำให้เรามีส่วนร่วมกับ "การชุมนุมฉลอง" กับ "ที่ที่มีบุตรของพระเจ้ามารวมกันอยู่แล้ว
มีนามของพวกเขาจารึกไว้ในสวรรค์" (ฮบ.12:2-23)
|