หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

11. การประกอบพิธีศีลอภัยบาป

1480ศีลอภัยบาปเป็นกิจการทางพิธีกรรมเหมือนศีลศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย องค์ประกอบของการรับศีลเรียงตามลำดับดังนี้ คำทักทายและการอวยพรของพระสงฆ์  การอ่านพระวาจาของพระเจ้าเพื่อส่องสว่างมโนธรรมและกระตุ้นให้เป็นทุกข์ถึงบาป ตักเตือนให้สำนึกผิด การสารภาพซึ่งยอมรับบาปและบอกบาปกับพระสงฆ์ การกำหนดการยอมรับการใช้โทษ-บาป การยกบาปจากพระสงฆ์ การภาวนาสรรเสริญและขอบคุณพระเจ้า และการอำลาพร้อมด้วยการอวยพรจากพระสงฆ์

1481พิธีกรรมแบบบิซันไทน์ใช้สูตรการยกบาปมากขึ้นอีกในลักษณะของการอ้อนวอน ซึ่งแสดงถึงข้อล้ำลึกของการอภัยบาปอย่างน่าพิศวง "ขอพระเจ้าองค์เดียวกันซึ่งได้ทรงอภัยบาปแก่ดาวิดโดยทางผู้เผย-พระวจนะนาธาน เมื่อดาวิดสารภาพบาปของตน พระองค์ผู้ทรงอภัยแก่เปโตรเมื่อร่ำไห้อย่างขมขื่น พระองค์ผู้ทรงอภัยแก่หญิงคนบาปเมื่อหลั่งน้ำตาลงแทบเท้าของพระองค์ พระองค์ผู้ทรงอภัยแก่คนเก็บภาษี และพระองค์ผู้ทรงอภัยแก่ลูกล้างผลาญ ขอพระเจ้าองค์เดียวกันนี้อภัยบาปแก่ท่านอาศัยข้าพเจ้าซึ่งเป็นคนบาปในชีวิตนี้และชีวิตหน้า และไม่ลงโทษท่านเมื่อท่านมาปรากฏที่บัลลังก์น่าสะพึง-กลัวของพระองค์ พระองค์ซึ่งสมควรได้รับการถวายพรตลอดนิรันดร อาแมน"

1482ศีลอภัยบาปยังสามารถทำในรูปแบบของพิธีกรรมส่วนรวม โดยเราเตรียมตัวของเราด้วยกัน พร้อมกับการสารภาพบาปและขอบพระคุณที่ได้รับการอภัยบาปพร้อมกัน ในกรณีนี้การสารภาพบาปส่วนตัวและการรับอภัยเป็นส่วนตัวได้รับการเพิ่มลงในภาควจนพิธีกรรมที่มีทั้งบทอ่านและการเทศน์ การพิจารณามโนธรรมร่วมกัน การขออภัยบาปพร้อมกัน     การสวดบท "ข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย" และการขอบคุณร่วมกัน การรับศีลอภัยบาปเป็นคณะเป็นกลุ่มเช่นนั้นแสดงถึงลักษณะการใช้โทษบาปในฐานะเป็นพระศาสนจักรได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะรับศีลแบบไหน ศีลอภัยบาปเป็นกิจการทางพิธีกรรมเสมอโดยความเป็นศีลนี้ดังนั้นจึงมีลักษณะเป็นส่วนรวมและเป็นระดับพระศาสนจักร (เทียบ พิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ ข้อ 26-27)

1483ในกรณีมีความจำเป็น สามารถเข้าไปรับศีลอภัยบาปแบบเป็นคณะได้ ด้วยการสารภาพบาปรวมและการยกบาปรวม ความจำเป็นเช่นนั้นสามารถใช้ได้เมื่อมีภัยถึงตาย ซึ่งพระสงฆ์ไม่มีเวลาเพียงพอเพื่อฟังการสารภาพบาปของผู้แก้บาปแต่ละคน ความจำเป็นอย่างยิ่งนั้นสามารถเกิดขึ้นกรณีที่เมื่อพิจารณาจำนวนผู้แก้บาปแล้ว และผู้ฟังแก้บาปมีจำนวนไม่เพียงพอเพื่อฟังคำสารภาพบาปของแต่ละคนภายในเวลาพอสมควร ดังนั้น จึงมิใช่ความผิดของผู้แก้บาป แต่ยังคงอยู่ในพระหรรษทานแห่งศีล-ศักดิ์สิทธิ์หรือศีลมหาสนิท ในกรณีนี้เพื่อให้การยกบาปนั้นถูกต้อง คริสตชนต้องมีความตั้งใจที่จะสารภาพบาปหนักของตนเป็นรายบุคคลตามเวลาที่กำหนด (เทียบ กฎหมายพระศาสนจักร ม.962 ข้อ 1) เป็นหน้าที่ของพระสังฆราชของสังฆมณฑลที่จะตัดสินในเรื่องนี้ว่ามีเงื่อนไขใดที่สามารถให้มีการยกบาปรวม (เทียบ กฎหมายฯ ม.961 ข้อ 2) การที่มีคริสตชนจำนวนมากในโอกาสฉลองใหญ่หรือการจาริกแสวงบุญ ไม่ถือเป็นกรณีที่มีความจำเป็นยิ่ง (เทียบ กฎหมายฯ ม.961 ข้อ 1)ถ

1484"การสารภาพเป็นส่วนตัวอย่างสมบูรณ์และรับการยกบาปยังคงเป็นวิธีปกติวิธีเดียว ซึ่งสัตบุรุษคืนดีกับพระเจ้าและกับพระศาสนจักร นอกจากมีเหตุผลที่ไม่สามารถทางกายภาพหรือศีลธรรมจึงได้รับการยกเว้นจากการสารภาพบาปวิธีนี้" (หนังสือพิธีกรรมโรมัน พิธีการใช้โทษบาป ข้อ 31) เรื่องเช่นนี้มีเหตุผลที่ลึกซึ้ง พระคริสตเจ้าได้ทรงปฏิบัติการในทุกศีลศักดิ์สิทธิ์ พระองค์ทรงหันมาหาคนบาปแต่ละคนเป็นรายบุคคล กล่าวว่า  "ลูกเอ๋ย บาปของเจ้าได้รับการอภัยแล้ว" (มก.2:5) พระองค์ทรงเป็นนายแพทย์ซึ่งเข้าหาคนป่วยเป็นรายบุคคล ซึ่งมีความต้องการพระองค์ เพื่อรักษาเยียวยาเขา พระองค์ทรงให้เขาลุกขึ้นและทรงทำให้เขาเข้าอยู่ในชีวิตร่วมกันแบบพี่น้อง    การสารภาพเป็นรายบุคคลจึงเป็นรูปแบบที่มีความหมายที่สุดของการคืนดีกับพระเจ้าและกับพระศาสนจักร