988บทข้าพเจ้าเชื่อ ของชาวคริสต์ -ซึ่งเป็นการประกาศยืนยันความเชื่อของเราในพระเจ้า
พระบิดา พระบุตร และพระจิต ในกิจการสร้างสรรค์ ช่วยให้รอด และบันดาลให้ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ มีจุดสุดยอดอยู่ที่การประกาศยืนยันถึงการกลับคืนชีพของผู้ตายในอันตวาร และในชีวิตนิรันดร
989เราเชื่ออย่างมั่นคง และตั้งความหวังไว้เช่นกันว่า ในทำนองเดียวกับที่พระคริสต์ได้ทรงกลับคืนชีพอย่างแท้จริงจากบรรดาผู้ตาย และยังทรงดำรงชีพอยู่ในนิจกาลฉันใด
ฉันนั้น หลังจากที่ได้ตายไปแล้ว ผู้ชอบธรรมก็จะยังคงมีชีวิตอยู่ตลอดกาลร่วมกับพระคริสต์ผู้ฟื้น-คืนชีพ และพระคริสต์ก็จะทรงโปรดให้พวกเขากลับเป็นขึ้นในวันสุดท้าย (เทียบ ยน.6:39-40)
เช่นเดียวกับการกลับคืนชีพของพระคริสต์ การฟื้นคืนชีพของเราก็จะเป็นผลงานของพระตรีเอกภาพ
ถ้าพระจิตของพระผู้ทรงบันดาลให้พระเยซูเจ้ากลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตายนั้นทรงสถิตอยู่ในท่าน
พระผู้ทรงบันดาลให้พระเยซูกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตายก็จะทรงบันดาลให้ร่างกายที่ตายได้ของท่านกลับมีชีวิต เดชะพระจิตของพระองค์ ซึ่งทรงสถิตอยู่ในท่านด้วย (รม.8:11)
990คำว่า "เนื้อหนัง" ในที่นี้ หมายถึงมนุษย์ในสภาพที่อ่อนแอและต้องตาย (เทียบ ปฐก.6:3; สดด.56:5; อสย.40:6) "การคืนชีพของเนื้อหนัง" หมายความว่า
หลังจากตายไปแล้ว มิใช่ว่าจะมีเพียงชีวิตวิญญาณอันอมตะเท่านั้น แต่แม้กระทั่ง "ร่างกายที่ตายได้" ของเรา (รม.8:11) ก็จะกลับมีชีวิตขึ้นมาอีก
991การเชื่อในการคืนชีพของผู้ตายนั้น นับได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญในความเชื่อของคริสตศาสนามาแต่แรกเริ่มเดิมทีแล้ว "ความเชื่อมั่นของคริสตชน
คือการกลับคืนชีพของบรรดาผู้ตาย ความเชื่อดังกล่าวทำให้เรามีชีวิตชีวา" (Tertullian, De res.I,I: PL 2,841)
"เพราะเหตุใดท่านบางคนจึงกล่าวว่าบรรดาผู้ตายจะไม่กลับคืนชีพเล่า? ถ้าผู้ตายไม่กลับคืนชีพ พระคริสตเจ้าก็มิได้ทรงกลับพระชนมชีพด้วยเช่นกัน
ถ้าพระคริสตเจ้ามิได้ทรงกลับคืนพระชนมชีพ การเทศน์สอนของเราก็ไร้ประโยชน์ และความเชื่อของท่านก็ไร้ประโยชน์เช่นกัน แท้จริงแล้ว พระคริสตเจ้าได้ทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย เป็นผลแรกของบรรดาผู้ล่วงลับไปแล้ว"
(1คร.15:12-14,20)
|