หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

3. พระศาสนจักร - พระวิหารของพระจิตเจ้า

797"สิ่งที่จิตเรา เข้ากับร่างกายของมนุษย์ พระจิตก็ทรงเป็นเช่นนั้นต่อพระกายของพระคริสต์ ซึ่งหมายถึงพระศาสนจักร" (น.ออกัสติน Sermo 267,4:PL 38,1231D) "ก็พระจิตของพระคริสต์นั้นเองที่จะต้องยกให้ ประดุจเป็นบ่อเกิดที่ซ่อนเร้นอยู่ ว่าเป็นผู้ทำให้ทุกส่วนของพระกายเชื่อม-โยงกัน ทั้งระหว่างส่วนต่างๆ เหล่านั้นเอง และกับศีรษะอันสูงสุดของส่วนต่างๆ เหล่านั้น ในเมื่อพระจิตสถิตอยู่อย่างบริบูรณ์ในศีรษะ ในกาย และในสมาชิกแต่ละคน" (พระสันตะปาปา ปีโอ ที่ 12 Enc. Mystici Corporis: DS 3808) พระจิตทรงทำให้พระศาสนจักรเป็น "วิหารของพระเจ้าผู้ทรงชีวิต" (2คร.6:16)

จริงแท้ ของประทานจากพระเจ้านั้นมอบหมายไว้แก่พระศาสนจักรนั้นเอง... ในพระศาสนจักรนั้นเองที่การสนิทเป็นหนึ่งเดียวกับพระคริสต์ได้ถูกฝังไว้ คือพระจิต หลักประกันแห่งความไม่ฟอนเฟะ หลักยืนยันความเชื่อของเรา และบันไดการขึ้นไปสู่พระเจ้าของเรา...   เนื่องจากว่าพระจิตของพระเจ้าสถิตอยู่ที่ใด พระศาสนจักรก็อยู่ที่นั่น พร้อมด้วยพระหรรษทานทั้งปวง (น.อีเรนีอุส Adv. haeres. 3,24,1:PG 7/1, 966)

798พระจิตเจ้าคือ "บ่อเกิดแห่งกิจการสำคัญทั้งหมด ซึ่งช่วยให้รอดอย่างแท้จริง ในแต่ละส่วนต่างๆ ของพระกาย" (พระสันตะปาปา ปีโอ ที่ 12 Enc. Mystici Corporis:DS 3808) พระจิตทรงปฏิบัติงานมากมายหลายแบบ เพื่อเชิดชูพระกายทั้งองค์ในความรัก (เทียบ อฟ.4:16)   โดยอาศัยพระวาจาของพระเจ้า "ซึ่งมีฤทธิ์อำนาจสามารถก่อสร้างท่านขึ้นมาได้" (กจ.20:32)   อาศัยศีลล้างบาป ซึ่งพระองค์ทรงใช้เพื่อก่อรูปพระกายของพระคริสต์ขึ้น (เทียบ 1คร.12:13)  อาศัยศีลศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ซึ่งให้ความเจริญเติบโตและการหายจากโรคภัยแก่บรรดาสมาชิกของพระคริสต์ อาศัย "พระหรรษทานอันประทานมาแก่อัครสาวกทั้งหลาย และมีตำแหน่งเป็นเอกในบรรดาพระคุณต่างๆ ของพระองค์" (พระศาสนจักร ข้อ 7.2) อาศัยคุณธรรมซึ่งทำให้ประพฤติปฏิบัติตามความดี สุดท้าย อาศัยพระหรรษทานพิเศษเป็นจำนวนมาก (ซึ่งเรียกว่า "พระพรพิเศษ") ซึ่งพระองค์ประทานมาเพื่อบันดาลให้บรรดาสัตบุรุษ "มีความสามารถเหมาะสมและพร้อมที่จะเข้ารับภาระและตำแหน่งหน้าที่ต่างๆ หลากหลาย ซึ่งจะใช้ในการฟื้นฟูและเชิดชูพระศาสนจักรให้สูงยิ่งๆ ขึ้นไป" (พระศาสนจักร ข้อ 12.2; เทียบ AA 3)

พระพรพิเศษ

799ไม่ว่าจะประหลาดพิศดารหรือเรียบง่ายและต่ำต้อย พระพรพิเศษก็เป็นพระหรรษทานจากพระจิต ซึ่งมีประโยชน์ใช้สอยสำหรับพระศาสนจักร โดยทางตรงหรือทางอ้อม และจัดระเบียบไว้เพื่อการเชิดชูพระศาสนจักรให้สูงขึ้น เพื่อประโยชน์สุขของมนุษย์ และเพื่อสนองความต้องการของโลก

800พระพรพิเศษเป็นสิ่งที่พึงต้อนรับด้วยความรู้คุณจากผู้ที่ได้รับพระพรพิเศษนั้น รวมทั้งจากสมาชิกทุกคนของพระศาสนจักรด้วย จริงแท้ พระพรพิเศษเหล่านี้เป็นความมั่งคั่งอันน่าพิศวงแห่งพระหรรษทานที่ประทานมาเพื่อความมีชีวิตชีวาในงานแพร่ธรรม และเพื่อความศักดิ์สิทธิ์แห่งพระกายทั้งองค์ของพระคริสต์ ขอเพียงให้เป็นของประทานที่มาจากพระจิต อย่างแท้จริง  และนำมาปฏิบัติในลักษณะที่สอดคล้องกันด้วยการกระตุ้นของพระจิตองค์เดียวกัน กล่าวคือ ให้ดำเนินไปด้วยความรัก (หรือเมตตาธรรม) อันเป็นมาตรการแท้แห่งพระพรพิเศษดังกล่าวนั้น (เทียบ 1คร.13)

801ในความหมายอันนี้เอง ที่ทำให้การพิเคราะห์แยกแยะพระพรพิเศษ ดูเป็นสิ่งที่จำเป็นอยู่เสมอ ไม่มีพระพรพิเศษอันใดเลยที่จะเว้นเสียได้จากการอ้างอิงและนอบน้อมต่อบรรดาสงฆ์ผู้อภิบาลของพระศาสนจักร "เป็นความเหมาะสมอย่างพิเศษสำหรับเขาเหล่านี้ -มิใช่ที่จะดับแสงแห่งพระจิต แต่ที่จะยอมทนรับความยากลำบากทุกประการเพื่อสงวนสิ่งที่ดีเอาไว้"  (พระศาสนจักร ข้อ 12 เทียบ 30; 1ธส.5:12,19-21; ฆราวาสคริสตชน ข้อ 24) เพื่อว่าพระพรพิเศษทั้งหลายจะได้ร่วมกันปฏิบัติงาน ในความหลากหลายและการเสริมแต่งกันและกันให้สมบูรณ์ "เพื่อประโยชน์ร่วมกัน" (1คร.12:7)