648การคืนชีพของพระคริสต์เป็นหลักความเชื่อ
ในฐานะที่เป็นการเข้ามามีส่วนข้องเกี่ยวอย่างสูงส่งโพ้นธรรมชาติของพระเจ้าพระองค์เอง ในสิ่งสร้างและในประวัติศาสตร์ ในการคืนพระชนมชีพของพระคริสต์ พระเจ้าทั้งสามพระบุคคลทรงปฏิบัติงานร่วมกันพร้อมๆ กัน และทรงสำแดงลักษณะพิเศษเฉพาะของแต่ละบุคคล การฟื้นคืนพระชนมชีพของพระคริสต์เกิดขึ้นด้วยพระฤทธานุภาพของพระบิดา ผู้ "ได้ทรงบันดาลให้พระคริสต์พระบุตรของพระองค์กลับมีชีวิตขึ้นมา" และโดยวิธีนี้ ก็ได้ทรงนำสภาวะมนุษย์ของพระบุตรอย่างสมบูรณ์ครบถ้วน -พร้อมด้วยพระกาย- เข้าสู่พระตรีเอกภาพ พระเยซูได้รับการเผยแสดงอย่างเด็ดขาดว่าเป็น "พระบุตรของพระเจ้า... โดยทางพระจิตเจ้า ทรงได้รับการสถาปนาให้เป็นพระบุตรผู้ทรงอำนาจของพระเจ้า โดยการกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย" (รม.1:3-4 เทียบ กจ.2:24) นักบุญเปาโลเน้นเรื่องการสำแดงอานุภาพของพระเจ้า (เทียบ รม.6:4; 2คร.13:4; ฟป.3:10; อฟ.1:19-22; ฮบ.7:16) โดยการทำงานของพระจิต ผู้ได้ทรงฟื้นชีวิตในสภาวะมนุษย์ที่ตายแล้วของพระเยซูขึ้นมา และได้เรียกสภาวะมนุษย์นั้นเข้าสู่สภาพสิริโรจนาขององค์พระผู้เป็นเจ้า
649ในส่วนพระบุตรนั้น พระองค์ทรงปฏิบัติการฟื้นคืนชีพของพระองค์เองโดยอาศัยพระอานุภาพในฐานะพระเจ้า พระเยซูได้ทรงประกาศว่าบุตรของมนุษย์จะต้องทนทรมานอย่างมาก
สิ้นพระชนม์และกลับเป็นขึ้นมาในที่สุด (เทียบ มก.8:31; 9:9-31; 10:34) (ในความหมายว่าเป็น "ผู้กระทำ" ของคำนี้) ที่อื่น พระองค์ทรงยืนยันอย่างชัดแจ้งว่า "เรายอมพลีชีวิตของเรา
และจะได้รับชีวิตนั้นคืนเสียใหม่... เรามีสิทธิ์จะพลีชีวิต และมีสิทธิ์จะเอาชีวิตนั้นคืนมา" (ยน.10:17-18) "เราเชื่อว่าพระเยซูเจ้าสิ้นพระชนม์และทรงกลับคืนพระชนมชีพ" (1ธส.4:14)
650บรรดาปิตาจารย์พิศเพ่งพิจารณาการคืนชีพของพระคริสต์ จากแง่ของพระบุคคลผู้เป็นพระเจ้าของพระคริสต์ ซึ่งยังคงสนิทเป็นหนึ่งเดียวอยู่กับพระวิญญาณและพระกาย
ซึ่งถูกแยกออกจากกันโดยความตาย "อาศัยเอกภาพของธรรมชาติพระเจ้า ซึ่งยังคงปรากฏอยู่ในแต่ละส่วนของมนุษย์ที่แบ่งออกเป็นสองส่วน สองส่วนนี้ก็กลับรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียวกันใหม่ ดังนี้
ความตายเกิดขึ้นจากการแตกแยกขององค์ประกอบในกายมนุษย์ และการคืนชีพเกิดจากการรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียวของสองส่วนที่ถูกแยกจากกัน" (น.เกรโกรี แห่งนิชา In Christi re. orat. 1:PG 46,617B; cf. also DS 325;359;369)
|