374การสร้างมนุษย์ชายคนแรกขึ้นมา มิเพียงแต่ให้ "ดี" เท่านั้น แต่ยังได้รับการสถาปนาไว้ให้ดำรงอยู่ในมิตรภาพกับองค์พระผู้สร้าง และมีความประสานสมกลมกลืนกับตนเอง
และกับสิ่งสร้างรอบตัว สิ่งที่เลิศเลอกว่านี้จะมีได้ก็เฉพาะพระสิริมงคลของการสร้างครั้งใหม่ในพระคริสต์เท่านั้น
375ในการตีความสัญลักษณ์นิยมในภาษาของพระคัมภีร์อย่างถูกต้องถ่องแท้ โดยอาศัยอ้างอิงพระธรรมคัมภีร์ใหม่และธรรมประเพณีนั้น พระศาสนจักรสั่งสอนว่า
บิดามารดาคู่แรกของเราคืออาดัมและเอวานั้น ได้รับการปรุงแต่งให้อยู่ในสภาพ "ศักดิ์สิทธิ์และชอบธรรมมาตั้งแต่เดิม" (เทียบ สังคายนาแห่งเตรนท์ (1546) : DS 1511) พระหรรษทานแห่งความศักดิ์สิทธิ์แต่ดั้งเดิมนั้น
คือ "การมีส่วนร่วมในชีวิตของพระเจ้า" (เทียบ พระศาสนจักร ข้อ 2)
376อาศัยการแผ่รัศมีไปโดยรอบของพระหรรษทานดังกล่าวนี้ มิติทั้งหลายทั้งปวงของชีวิตมนุษย์ ก็ได้รับการเสริมพลังให้มั่นคงยิ่งขึ้น ตราบใดที่มนุษย์ยังคงอยู่ในความสนิทชิดชอบกับพระเจ้า
มนุษย์ก็จะไม่ต้องตาย หรือทุกข์ทรมานแต่อย่างใด (เทียบ ปฐก.2:17; 3:16,19) ความกลมกลืนภายในตัวบุคคลผู้เป็นมนุษย์ ความกลมกลืนระหว่างชายและหญิง(เทียบ ปฐก.2:25) สุดท้าย
ความกลมกลืนระหว่างสามีภรรยาคู่แรกและสิ่งสร้างทั้งปวง ประกอบกันขึ้นเป็นสภาพที่เรียกว่า "ความชอบธรรมตั้งแต่ดั้งเดิม"
377"การเป็นเจ้านาย" ครอบครองโลก ซึ่งพระเจ้าได้ประทานแก่มนุษย์มาแต่ต้นนั้น ก่อนอื่นเป็นจริงขึ้นมาในตัวมนุษย์เอง ในรูปของการเป็นนายเหนือตนเอง
(สามารถควบคุมตนเอง) มนุษย์นั้นเดิมอยู่ในสภาพสมบูรณ์ครบถ้วนไม่มีที่ติ และมีระเบียบเรียบร้อยทั้งตัวตน เพราะเป็นอิสระจากตัณหาทั้งสาม (เทียบ 1ยน.2:16) ซึ่งทำให้มนุษย์ตกอยู่ใต้อำนาจของความมัวเมาทางโลกียะ
การมีใจโลภในทรัพย์สินของแผ่นดิน และความหยิ่งเชื่อมั่นในตน ในลักษณะที่ขัดกับข้อบังคับของเหตุผล
378เครื่องหมายของการสนิทสนมคุ้มเคยกับพระเจ้า จะเห็นได้จากการที่พระเจ้าทรงจัดให้มนุษย์อยู่ในสวน (เทียบ ปฐก.2:8) มนุษย์ใช้ชีวิตอยู่ในสวนนั้น
"เพื่อพรวนดินและรักษาสวน" (ปฐก.2:15) งานไม่ใช่ลำบากลำบน แต่เป็นความร่วมมือของมนุษย์ชายหญิงกับพระเจ้า ในการทำให้สิ่งสร้างที่เห็นได้ด้วยตาสมบูรณ์พร้อมยิ่งขึ้น
379ความกลมกลืนทั้งหมดแห่งความชอบธรรมแต่ดั้งเดิม ซึ่งจัดเตรียมไว้ล่วงหน้าตามแผนการของพระเจ้านี้แหละ ที่จะสูญสลายไปเพราะบาปของบิดามารดาคู่แรกของเรา
|