293นี่คือความจริงระดับมูลฐาน ซึ่งพระคัมภีร์และธรรมประเพณีมิได้หยุดยั้งที่จะสั่งสอนและเฉลิมฉลอง "โลกถูกสร้างขึ้นมาเพื่อพระสิริมงคลของพระเจ้า" (DS 3025)
พระเจ้าได้ทรงสร้างสรรพสิ่งทั้งปวง นักบุญบอนาแวนตูรา อธิบาย "มิใช่เพื่อเพิ่มพูนพระสิริมงคลแต่เพื่อแสดงให้เป็นที่ประจักษ์และสื่อพระสิริมงคลนั้นมายังเรา"
เนื่องจากว่าพระเจ้าไม่ทรงมีเหตุผลอื่นในการทรงสร้างสรรค์ นอกจากเพื่อแสดงความรักและความมีพระทัยดีของพระองค์ "กุญแจแห่งความรักนี้เองที่ได้เผยพระหัตถ์ออกมาเพื่อทรงผลิตสิ่งสร้างทั้งปวง" (น.โทมัส อไควนัส) และสภาพระสังคายนาวาติกันที่ 1 ได้อธิบายไว้ว่า
ด้วยความมีพระทัยดีและโดยอาศัยพระพลังอันทรงสรรพานุภาพ มิใช่เพื่อเพิ่มความบรมสุขของพระองค์ หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งความสมบูรณ์พร้อม
แต่เพื่อสำแดงความสมบูรณ์พร้อมนั้นให้เป็นที่ประจักษ์ โดยอาศัยสิ่งดีทั้งหลายที่พระองค์ประทานแก่สิ่งสร้างของพระองค์ พระเจ้าแท้พระองค์เดียวพระองค์นี้ ในแผนการอันอิสระเป็นที่สุด ร่วมกัน นับแต่ปฐมกาล
ก็ได้ทรงสร้างสิ่งนั้นสิ่งนี้ขึ้นด้วยความเปล่า ทั้งสิ่งที่เป็นฝ่ายจิต และสิ่งที่เป็นฝ่ายกาย (DS 3002)
294พระสิริมงคลของพระเจ้า คือให้การสำแดงและการสื่อความมีพระทัยดีของพระองค์สำเร็จไป การสร้างโลกขึ้นมาก็เพื่อจุดหมายอันนี้ ทำเราให้เป็น "บุตรบุญธรรม
เดชะพระเยซูคริสตเจ้า ตามพระประสงค์ที่ทรงพอพระทัย เพื่อสรรเสริญพระสิริรุ่งโรจน์แห่งพระหรรษทานของพระองค์" (อฟ.1:5-6) "เนื่องจากว่า พระสิริมงคลของพระเจ้า ก็คือมนุษย์ที่มีชีวิต และชีวิตของมนุษย์
ก็คือภาพนิมิตของพระเจ้า
หากว่า เพียงการเผยแสดงของพระเจ้าโดยอาศัยสิ่งสร้าง ยังบันดาลชีวิตให้แก่สรรพสัตว์ที่ดำรงชีพอยู่บนแผ่นดินถึงปานนี้แล้ว การสำแดงพระองค์ของพระบิดาโดยอาศัยพระวจนาตถ์ จะมิยิ่งประทานชีวิตให้แก่ผู้ที่มองเห็นพระเจ้าหนักยิ่งขึ้นอีกสักปานไหน" (น.อีเรเน) จุดหมายสุดท้ายของการสร้างก็คือให้พระเจ้า "ผู้ทรงเป็นพระผู้สร้างสรรพสัตว์ทั้งปวง ได้ทรงเป็น "ทุกสิ่งในทุกคน" (1คร.15:28) ในที่สุด โดยประทานทั้งพระสิริมงคลและความบรมสุขมายังเรา" (งานธรรมทูตแห่งพระศาสนจักร ข้อ 2 เทียบ 1คร.15:28)
|