หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

4. กิจการของพระเจ้า และพระพันธกิจของพระตรีเอกภาพ

257"โอ้พระตรีเอกภาพ แสงสว่างอันทรงบุญ โอ้พระเอกภาพแต่แรกเริ่มเดิมที" (บทสดุดีทำวัตรเย็น) พระเจ้าคือความบรมสุขอันนิรันดร ชีวิตอมตะ ความสว่างอันไม่มีวันเสื่อมสลาย พระเจ้าคือความรัก พระบิดา พระบุตร และพระจิต  อย่างอิสระ พระเจ้าทรงปรารถนาจะสื่อพระสิริรุ่งโรจน์แห่งชีวิตอันบรมสุขของพระองค์ออกไป นี่คือ "พระประสงค์อันเร้นลับของพระองค์" (อฟ.1:9) ที่พระองค์ได้ทรงดำริไว้ก่อนสร้างโลกในองค์พระบุตรสุดรัก "โดยทรงกำหนดไว้ล่วงหน้าแล้วที่จะให้เราเป็นบุตรบุญธรรมเดชะพระเยซูคริสตเจ้า" (อฟ.1:4-5) คือ "ให้เป็นภาพลักษณ์ของพระบุตรของพระองค์ด้วย" (รม.8:29) "ใครๆ ที่มีพระจิตของพระเจ้าเป็นผู้นำ ก็เป็นบุตรของพระเจ้า" (รม.8:15) แผนการนี้เป็น "พระหรรษทานที่ประทานให้แก่เราแล้วในพระคริสตเยซูก่อนกาลเวลา" (2ทธ.1:9-10) และถือกำเนิดโดยตรงมาจากความรักของพระตรีเอกภาพ แผนการนี้คลี่คลายให้เห็นอยู่ในกิจการสร้างสรรค์ของพระองค์ ตลอดประวัติศาสตร์แห่งความรอดหลังการทำบาปของมนุษย์  ในพระพันธกิจของพระบุตรและพระจิต ซึ่งพระศาสนจักรรับช่วงสืบต่อมา (เทียบ งานธรรมทูตแห่งพระศาสนจักร ข้อ 2-9)

258ระบบทั้งหมดของพระเจ้า เป็นกิจการร่วมกันของทั้งสามพระบุคคล เนื่องจากว่า ในทำนองเดียวกับที่พระตรีเอกภาพทรงมีพระธรรมชาติเพียงหนึ่งเดียวและอย่างเดียวกันพระตรี-เอกภาพก็มีการปฏิบัติงานเพียงหนึ่งเดียวและอย่างเดียวกัน "พระบิดา พระบุตรและพระจิต มิใช่หลักสามประการของสิ่งสร้าง แต่เป็นหลักเดียวกัน" (สังคายนาฟลอเรนซ์ DS 1331)  อย่างไรก็ตาม แต่ละพระบุคคลผู้เป็นพระเจ้าก็ทรงปฏิบัติกิจร่วมกันตามลักษณะคุณสมบัติส่วนพระองค์ของแต่ละพระองค์ ดังนี้ พระศาสนจักรจึงยืนยัน - ตามพันธสัญญาใหม่ - ว่า "มีพระเจ้าองค์เดียว คือพระบิดา และสิ่งสารพัดทั้งปวงเกิดขึ้นจากพระองค์    มีพระเยซูคริสตเจ้าองค์เดียว ซึ่งสรรพสิ่งทั้งปวงเกิดขึ้นเพื่อพระองค์ และมีพระจิตองค์เดียว  ซึ่งสรรพสิ่งทั้งปวงเกิดขึ้นในพระองค์" (สังคายนาคอนสแตนติโนเปิล ที่ 2 DS 421) พระพันธกิจของพระเจ้าในการให้พระบุตรทรงรับเอากายมาบังเกิดเป็นมนุษย์ และการประทานพระจิตลงมานี้เอง ที่เป็นการแสดงให้ประจักษ์ถึงลักษณะคุณสมบัติของพระบุคคลผู้เป็นพระเจ้าทั้งสามพระบุคคล

259ระบบทั้งหมดของพระเจ้า อันเป็นกิจการที่ทรงกระทำร่วมกัน  และเป็นส่วนพระองค์ด้วยในเวลาเดียวกันนั้น    ช่วยให้ได้รู้ถึงลักษณะคุณสมบัติของพระบุคคลผู้เป็นพระเจ้า และพระธรรมชาติหนึ่งเดียวที่ไม่มีผู้ใดเทียบเทียม ด้วยเหตุนี้ ชีวิตคริสตชนทั้งชีวิตจึงเป็นการร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้าแต่ละบุคคล โดยมิได้แยกพระบุคคลออกจากกันแต่อย่างใด ผู้ที่ถวายพระเกียรติมงคลแด่พระบิดา ก็กระทำดังนั้นโดยผ่านทางพระคริสตเจ้าในพระจิตเจ้า  ผู้ที่ติดตามพระคริสตเจ้า ก็กระทำดังนั้นเพราะพระบิดาทรงดึงดูดเขาเข้ามา และพระจิตก็ทรงกระตุ้นรุนเร้า (เทียบ ยน.6:44; รม.8:14)

260จุดหมายสุดท้ายแห่งระบบทั้งหมดของพระเจ้า ก็คือให้สิ่งสร้างทั้งมวลได้เข้าอยู่ในเอกภาพอันสมบูรณ์พร้อมแห่งพระตรีเอกภาพ (เทียบ ยน.17:21-23) แต่เราก็ได้รับเรียกให้มาเป็นที่ประทับของพระตรีเอกภาพแล้วตั้งแต่บัดนี้ พระเยซูเจ้าตรัสว่า "ถ้าผู้ใดรักเรา ผู้นั้นจะรักษาวาจาของเราไว้ และพระบิดาของเราจะรักเขา และพระบิดากับเราจะมาหาเขาและจะทำให้เขาเป็นที่พำนักของเรา" (ยน.14:23)

ข้าแต่พระเจ้าของข้าพเจ้า พระตรีเอกภาพที่ข้าพเจ้านมัสการบูชา  โปรดช่วยข้าพเจ้าให้ลืมความเป็นตัวของตัวเองโดยสิ้นเชิง เพื่อมาพำนักอยู่ในพระองค์ อย่างนิ่งแน่วและสงบ ประหนึ่งว่าวิญญาณของข้าพเจ้าได้อยู่ในนิรันดรกาลแล้ว ขออย่าให้มีสิ่งใดมารบกวนสันติของข้าพเจ้าหรือทำให้ข้าพเจ้าออกไปเสียจากพระองค์ ข้าแต่องค์พระผู้ไม่มีวันผันแปร แต่ขอให้ทุกๆ นาทีจงนำข้าพเจ้าไกลออกไปในความลึกซึ้งแห่งธรรมล้ำลึกของพระองค์ ขอพระองค์โปรดให้วิญญาณของข้าพเจ้าสงบราบเรียบ ขอพระองค์ทรงทำให้วิญญาณข้าพเจ้าเป็นสวรรค์ของพระองค์ เป็นที่พำนักที่พระองค์ทรงรัก และเป็นสถานที่พักผ่อนสำหรับพระองค์ ขอให้ข้าพเจ้าอย่าได้มีวันละทิ้งพระองค์ไว้เพียงลำพังพระองค์เดียว  แต่ให้ข้าพเจ้าได้อยู่ที่นั่นอย่างครบถ้วนทั้งตัวตน  ตื่นตัวโดยตลอดอยู่ในความเชื่อ ในสภาพนมัสการบูชา และมอบตนโดยสิ้นเชิง แล้วแต่พระกรณียกิจสร้างสรรค์ของพระองค์จะบันดาลให้เป็นไป (บทภาวนาของบุญราศีเอลีซาเบธ แห่งพระตรีเอกภาพ)