หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

3. พระเยซูคริสตเจ้า "องค์สื่อกลางและบูรณภาพแห่งการเผยแสดง

ทั้งหมด"พระเจ้าได้ตรัสทุกสิ่งในพระวจนาตถ์ของพระองค์

65"ในอดีต พระเจ้าได้ตรัสแก่บรรพบุรุษของเราโดยทางประกาศกหลายวาระและหลายวิธี ครั้นมาถึงสมัยนี้อันเป็นวาระสุดท้าย พระองค์ได้ตรัสแก่เราโดยทางพระบุตร" (ฮบ.1:1-2)  พระคริสตเจ้า พระบุตรพระเจ้าผู้มาบังเกิดเป็นมนุษย์ คือพระวาจาหนึ่งเดียว สมบูรณ์พร้อม และสุดที่ใครจะเหนือกว่าไปได้ของพระบิดา ในพระบุตร พระบิดาตรัสทุกสิ่งทุกอย่าง และจะไม่มีถ้อยคำอื่นใดอีกนอกจากที่ตรัสไว้แล้วนั้น นักบุญยอห์นแห่งไม้กางเขน -หลังจากท่านผู้อื่นอีกหลายต่อหลายคน- ได้พูดถึงเรื่องนี้ไว้อย่างกระจ่างแจ้ง โดยอธิบายขยายความใน ฮบ.1:1-2 ไว้ว่า

"นับแต่พระเจ้าได้ประทานพระบุตรแต่องค์เดียวแก่เรา พระบุตรผู้ทรงเป็นพระวาจาของพระองค์ พระเจ้าก็ไม่ทรงมีถ้อยคำอื่นใดอีกเลยที่จะประทานแก่เรา พระองค์ได้ตรัสแก่เราทุกสิ่งทุกอย่างพร้อมกันเป็นครั้งเดียวในพระวาจาหนึ่งเดียวนั้น เนื่องจากว่าสิ่งที่พระองค์ตรัสเป็นตอนๆ แก่ประกาศกนั้น พระองค์ได้ตรัสมาทั้งหมดในองค์พระบุตร โดยทรงมอบ   "ทั้งหมด" นั้น  ซึ่งคือองค์พระบุตรให้แก่เรา ด้วยเหตุนี้ ผู้ใดก็ตามที่ปรารถนาจะซักถามพระองค์ ณ บัดนี้หรือปรารถนาจะได้เห็นภาพนิมิตหรือการเผยแสดงก็ตาม มิเพียงแต่จะกำลังทำอะไรที่ไม่ฉลาด แต่ยังเป็นการสบประมาทพระเจ้า โดยการไม่ทอดสายตาไปยังพระคริสตเจ้าแต่พระองค์เดียว โดยดำเนินชีวิตแสวงหาสิ่งใหม่ (นอกจากพระคริสต์) (น.ยอห์น แห่งไม้กางเขน)

จะไม่มีการเผยแสดงอื่นอีกแล้ว

66"ระบบของพระคริสตศาสนานั้น เมื่อเป็นพันธสัญญาใหม่อันเด็ดขาดแน่นอน ก็จะไม่มีวันผ่านพ้นไป และนับแต่นี้ ก็ย่อมไม่มีการเผยแสดงครั้งใหม่ต่อสาธารณชนให้รอคอยอีก ก่อนจะถึงการสำแดงพระองค์อย่างรุ่งโรจน์ของพระเยซูคริสตเจ้า พระเจ้าของเรา" (การเผยของพระเป็นเจ้า ข้อ 4 เทียบ 1ทธ.6:14; ทต.2:13) อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการเผยแสดงจะสิ้นสุดลงแล้ว แต่ก็มิได้มีการอธิบายอย่างกระจ่างแจ้งโดยสมบูรณ์ ยังคงเหลือไว้สำหรับความเชื่อของคริสตัง ให้ค่อยๆ ไขว่คว้าไปตามขั้นตอนจนเกิดความเข้าใจในการเผยแสดงนั้นจนถึงที่สุด ตลอดเวลาหลายศตวรรษที่จะมาถึง

67ตามกระแสแห่งกาลเวลาหลายศตวรรษมานี้ มีการเผยแสดงที่เรียกว่า "ส่วนตัว" ซึ่งในบางครั้งก็เป็นที่ยอมรับจากผู้มีอำนาจในพระศาสนจักร อย่างไรก็ดี การเผยแสดงดังกล่าวนี้ไม่ถือว่าขึ้นอยู่กับคลังแห่งความเชื่อ "ดีขึ้น" หรือ "บริบูรณ์ยิ่งขึ้น" แต่เพื่อช่วยให้ดำเนินชีวิตตามสิ่งที่เผยแสดงนั้นอย่างสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ในบางยุคสมัยแห่งประวัติศาสตร์ อาศัยการชี้นำจากอำนาจคำสั่งสอนของพระศาสนจักร สำนึกของบรรดาสัตบุรุษจะรู้จักที่จะพิเคราะห์แยกแยะความควรไม่ควร และรับเอาสิ่งซึ่ง - ในการเผยแสดงนั้น - เป็นเสียงเรียกอย่างถ่องแท้ของพระคริสตเจ้า หรือบรรดานักบุญของพระองค์มายังพระศาสนจักร

ความเชื่อในพระคริสตศาสนาไม่อาจยอมรับ "การเผยแสดง"  ซึ่งอ้างว่าอยู่เหนือหรืออ้างว่าเป็นการแก้ไข การเผยแสดงซึ่งพระคริสตเจ้าเป็นผู้ทรงทำให้สำเร็จบริบูรณ์ นี่คือกรณีของบางศาสนาซึ่งมิใช่คริสตศาสนา และของบางนิกายซึ่งเพิ่งตั้งขึ้นมา และมีรากฐานอยู่ที่ "การเผยแสดง" ดังกล่าวนั้น