51"เป็นที่พอพระทัยพระเป็นเจ้า - ด้วยพระปรีชาญาณและพระมหากรุณาของพระองค์ - ที่จะเผยแสดงพระองค์ในฐานะพระบุคคล และทรงโปรดให้ธรรมล้ำลึกแห่งน้ำพระทัยได้เป็นที่รู้จัก
ซึ่งอาศัยธรรมล้ำลึกอันนี้ มนุษย์ทั้งหลาย - เดชะพระคริสต์ พระวจนาตถ์ผู้ทรงรับเอาเนื้อหนัง - ก็ได้เข้าเฝ้าพระบิดาในพระจิตเจ้า และได้รับการโปรดให้เป็นผู้มีส่วนร่วมในพระธรรมชาติของพระเป็นเจ้า"
(การเผยของพระเป็นเจ้า ข้อ 2, เทียบ อฟ.1:9;2:18; 2ปต.1:4)
52พระเจ้าผู้ "ประทับอยู่ในแสงสว่างที่ไม่อาจเข้าถึงได้" (1ทธ.6:16) ทรงปรารถนาจะสื่อชีวิตพระของพระองค์แก่มนุษย์ที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นมาอย่างอิสระ
เพื่อให้มนุษย์ได้เข้ามาเป็นบุตร-บุญธรรมของพระองค์ ในพระเอกบุตร ในการเผยแสดงพระองค์เองดังนี้ พระเจ้าทรงปรารถนาให้มนุษย์สามารถตอบสนองพระองค์ รู้จักพระองค์ และรักพระองค์ โพ้นทุกสิ่งที่มนุษย์จะสามารถทำได้ด้วยตัวเอง
53แผนการของพระเจ้าในการเผยแสดงพระองค์สำเร็จเป็นจริง
ทั้ง "โดยกิจการและโดยถ้อยคำซึ่งผูกพันระหว่างกันอย่างใกล้ชิดและเป็นความสว่างให้แก่กันและกัน" (การเผยของพระเป็นเจ้า ข้อ 2) แผนการของพระเจ้าประกอบขึ้นเป็น "หลักการสอนของพระเจ้า" โดยเฉพาะ พระเจ้าจะค่อยๆ ติดต่อกับมนุษย์ไปตามขั้นตอน พระองค์ทรงเตรียมมนุษย์ไปทีละขั้น ให้สามารถรับการเผยแสดงแบบเหนือธรรมชาติที่พระองค์ทรงดำเนินการด้วยพระองค์เองและซึ่งจะขึ้นถึงขั้นสุดยอดในพระบุคคล และในพันธกิจของพระวจนาตถ์ผู้ทรงรับธรรมชาติมนุษย์ คือพระเยซูคริสตเจ้า
นักบุญอิเรเน แห่งลีออง (St. Irenaeus of Lyons) พูดหลายครั้งถึงหลักการสอนของพระเจ้า ภายใต้ภาพลักษณ์ของการสร้างความคุ้นเคยต่อกัน ระหว่างพระเจ้าและมนุษย์
"พระวจนาตถ์ของพระเจ้าสถิตอยู่ในมนุษย์ และทรงถ่อมพระองค์ลงมาเป็น "บุตรมนุษย์" เพื่อให้มนุษย์คุ้นเคยกับการพยายามไขว่คว้าหาพระเจ้า และทำให้พระเจ้าคุ้นก้บการสถิตอยู่ในมนุษย์
ตามความพอพระทัยของพระบิดา" (น.อีเรเน)
|