เชื่อในพระเจ้าหนึ่งเดียว
150ก่อนอื่น ความเชื่อคือการยึดมั่นเป็นส่วนตัวของมนุษย์กับพระเจ้า ในเวลาเดียวกัน และอย่างแยกกันไม่ได้ ก็เป็นการยอมรับอย่างอิสระ
ซึ่งความจริงทุกประการที่พระเจ้าได้ทรงเผยแสดงในฐานะที่เป็นการยึดมั่นเป็นส่วนตัวกับพระเจ้า และการยอมรับความจริงที่พระองค์ได้ทรงเผยแสดง ความเชื่อในคริสตศาสนาย่อมแตกต่างจากความเชื่อในตัวบุคคลผู้เป็นมนุษย์ เป็นการถูกต้องและดีที่จะมอบตนเองโดยสิ้นเชิงไว้ในพระเจ้า และเชื่ออย่างเด็ดขาดในทุกสิ่งที่พระองค์ตรัสไว้ คงจะเป็นการเปล่าประโยชน์และไม่ถูกต้องที่จะมอบความเชื่อเช่นนี้ไว้ในสิ่งสร้างเช่นมนุษย์ (เทียบ ยรม.17:5-6; สดด.40:5; 146:3-4)
เชื่อในพระเยซูคริสต์ พระบุตรของพระเจ้า
151สำหรับคริสตชน การเชื่อในพระเจ้าก็คือการเชื่อ - อย่างแยกกันไม่ได้ - ในองค์พระที่พระองค์ทรงส่งมา คือ "พระบุตรสุดรัก" ซึ่งพระองค์ทรงโปรดปรานและพอพระทัยยิ่งนัก
พระเจ้าทรงสั่งเราให้เชื่อฟังพระองค์ (มก.1:11; เทียบ 9:7) พระเยซูเจ้าพระองค์เองตรัสแก่สานุศิษย์ของพระองค์ว่า "จงวางใจในพระเจ้า และวางใจในเราเถิด" (ยน.14:1)
เราสามารถเชื่อในพระเยซูคริสตเจ้าได้เพราะพระองค์เองทรงเป็นพระเจ้า พระวจนาตถ์ผู้ทรงรับเอากายมาบังเกิดเป็นมนุษย์ "องค์พระเป็นเจ้านั้นไม่มีใครเคยเห็นได้ แต่พระเอกบุตรผู้สถิตในพระอุระของพระบิดา"
(ยน.1:18) เพราะพระองค์ "ได้แลเห็นพระบิดาแล้ว" (ยน.6:46) พระองค์ผู้เดียวที่รู้จักพระบิดา และสามารถเผยแสดงพระบิดาได้ (ยน.6:46; เทียบ มธ.11:27)
เชื่อในพระจิต
152เราจะเชื่อในพระเยซูคริสตเจ้า โดยไม่มีส่วนในพระจิตของพระองค์ย่อมไม่ได้
พระจิตศักดิ์สิทธิ์นี้เองที่เผยแสดงให้มนุษย์ได้ทราบว่าพระเยซูคือใคร เนื่องจากว่า "หากพระจิตเจ้ามิได้ทรงดลใจ ก็ไม่มีผู้ใดสามารถกล่าวได้ว่า พระเยซูคือองค์พระผู้เป็นเจ้า" (1คร.12:3) "พระจิตเจ้าทรงหยั่งรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง แม้กระทั่งสิ่งที่ล้ำลึกของพระเจ้า... ไม่มีผู้ล่วงรู้ถึงความคิดของพระเจ้า นอกจากพระจิตของพระเจ้า" (1คร.2:10-11) พระเจ้าเท่านั้นจะทรงรู้จักพระเจ้าได้โดยตลอด เราเชื่อในพระจิตเพราะพระองค์เป็นพระเจ้า
พระศาสนจักรมิได้หยุดยั้งที่จะประกาศยืนยันความเชื่อในพระเจ้าผู้หนึ่งผู้เดียว พระบิดา พระบุตร และพระจิต
|