 | |
 |
| | |
 | ||
( จากหนังสือทำวัตรเล่ม 2 เทศกาลมหาพรต และเทศกาลปัสกา ) ความศรัทธาแท้จริงต่อพระทรมานของพระเยซูคริสตเจ้า คือเพ่งสายตาแห่งดวงใจไปยังพระเยซูผู้ถูกตรึงกางเขน และยอมรับว่าพระองค์ทรงมีพระธรรมชาติอย่างเดียวกับเรา แผ่นดิน-คือธรรมชาติมนุษย์ของเรา ต้องสั่นสะท้านในพระทรมานของพระผู้ไถ่ หินผา คือหัวใจของผู้ที่ไม่เชื่อ ระเบิดไปคนละทิศคนละทาง ผู้ตายซึ่งถูกขังอยู่ในคูหาแห่งความรู้ตายของเขา จะออกจากคูหา ก้อนหินจะแตกแยกเครื่องหมายบอกการกลับคืนชีพในอนาคตจะปรากฏในนครศักดิ์สิทธิ์ พระศาสนจักรของพระเป็นเจ้า สิ่งที่จะต้องอุบัติขึ้นกับร่างกายของเรา เวลานี้มีอยู่ในใจของเราแล้ว ไม่มีสักคน แม้คนอ่อนแอ จะถูกกำจัดไม่ให้มีส่วนในชัยชนะของกางเขน ไม่มีสักคนอยู่นอก หรือไม่ได้รับผลของคำภาวนาของพระคริสตเจ้า ถ้าฝูงชนที่บ้าคลั่งต่อพระองค์ ยังได้รับผลประโยชน์พิเศษจากคำภาวนาของพระองค์แล้ว สำหรับผู้ที่กลับใจมาหาพระองค์เล่า จะได้ผลประโยชน์มากมายสักเพียงใด ความโง่เขลาถูกทำลายไป ความดื้อกระด่างพ่ายแพ้ไป พระโลหิตศักดิ์สิทธิ์ของพระคริสตเจ้า ได้ดับดาบไปที่ห้ามเข้าใกล้ต้นไม้แห่งชีวิต ค่ำคืนของบาปในปางก่อนมีแสงสว่างแท้จริงเข้าแทนที่ คริสตชนได้รับเชิญให้มีส่วนในทรัพย์สมบัติสวรรค์ ทุกคนที่เกิดใหม่มีหนทางใหม่เปิดอยู่ต่อหน้าเขา นำไปสู่ปิตุภูมิซึ่งเขาถูกเนรเทศจากมา เว้นแต่เขาจะปิดหนทางสำหรับตัวเอง หนทางนั้นซึ่งเปิดอยู่แม้สำหรับโจรผู้มีความเชื่อ ขออย่าให้กิจการงานในชีวิตนี้ทำให้เราถูกครอบงำด้วยความว้าวุ่นและความจองหอง จนเราไม่พยายามสุดกำลังที่จะเป็นเหมือนพระผู้ไถ่ของเรา และติดตามแบบฉบับของพระองค์ ทุกสิ่งทุกอย่างที่พระองค์ทรงกระทำและทรงรับทรมานก็เพื่อความรอดของเรา พระองค์ทรงต้องการให้ร่างกายมีส่วนแบ่งความดีของศีรษะ ก่อนอื่นทั้งหมด เมื่อทรงรับธรรมชาติมนุษย์ของเรา พระองค์ก็ยังคงเป็นพระเจ้า ดังนั้น พระวจนาตถ์ได้ทรงกลับเป็นมนุษย์ พระองค์ได้ทรงให้มนุษย์ทุกคนเว้นแต่ผู้ที่ไม่เชื่อ มีส่วนในพระเมตตาของพระองค์ มีใครบ้างหรือไม่มีส่วนในธรรมชาติเดียวกับพระคริสตเจ้า หากเขาต้อนรับพระองค์ซึ่งได้ทรงรับธรรมชาติของเรา และเกิดใหม่ในพระจิต ซึ่งโดยทางพระองค์นี้เองพระคริสตเจ้าได้ทรงรับการปฏิสนธิ์ อนึ่ง ในพระคริสตเจ้า ใครเล่าจะไม่ทราบถึงความอ่อนเชิงของตน ใครบ้างจะไม่ตระหนักว่า การกิน การนอนของพระคริสตเจ้า ความเศร้าและการหลั่งน้ำตาด้วยความรักของพระองค์เป็นลักษณะธรรมชาติของทาสแต่องค์เดียวของพระเป็นเจ้า ได้ทรงกลับเป็นบุตรมนุษย์ พระองค์ทรงมีสองธรรมชาติ คือ ธรรมชาติมนุษย์และเทวภาพอันครบบริบูรณ์ ร่ายกายปราศจากชีวิต นอนอยู่ในคูหา เป็นของเรา ร่างกายที่กลับคืนพระชนม์ชีพในวันที่สามเป็นของเรา ร่างกายที่เสด็จขึ้นสู่สวรรค์ประทับเบื้องขวาพระบิดาเจ้าในพระสิริรุ่งโรจน์เป็นของเรา หากว่าเราเดินหนทางของพระบัญญัติ และไม่อายที่จะรับรู้ค่าไถ่ความรอดของเรา
ในร่างกายที่ต่ำต้อยของพระองค์ เราเองก็จะกลับคืนชีพเพื่อร่วมส่วนในพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ พระสัญญาของพระองค์จำสำเร็จต่อหน้าคนทั้งหลาย ใครที่รับรู้เราต่อหน้ามนุษย์ เราก็จะรับรู้เขาเฉพาะพระพักตร์พระบิดาเจ้าสวรรค์ด้วย | ||
