หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

การเจริญชีวิตแบบคริสตชน : สภาพจิตใจที่สำคัญของคริสตชน
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

5.พระคริสตเจ้าทรงสรุปพระบัญญัติสำคัญ เกี่ยวกับการดำรงชีวิตแบบคริสตชนว่า “จงรักพระเป็ นเจ้าด้วยสิ้นสุดจิตใจ…จงรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง” (มธ.22.37-39)

6.รักพระเป็นเจ้า หมายความว่าเชื่อถึงพระองค์ คือปฏิบัติตามพระวาจาและน้ำพระทัยของพระ องค์ ความอ่อนน้อมต่อพระเป็นเจ้านี้ ซึ่งคล้ายกับความอ่อนน้อมแบบดีพร้อมของพระคริสตเจ้านั้น ภาษาคริสตชนเรียกว่า “ความเชื่อ” ต้องตั้งใจแน่วแน่จะปฏิบัติตามพระวาจาของพระเป็นเจ้ า แม้ว่าจะต้องสละละทิ้งน้ำใจของตนเอง พระจิตเป็นผู้ปลุกความเชื่อให้เกิดขึ้นในใจของคริสตชนทำให้มีกำลังที่จะปฏิบัติงานเหมือนอย่างท่านอับราฮัม “บิดาของผู้มีความเชื่อ” ที่ได้เอาชีวิตและอนาคตของท่าน ผูกพันไว้กับความเชื่ออย่างหมดสิ้น

7.พระเยซูคริสตเจ้าทรงประกาศความรักต่อมนุษย์ โดยเน้นอย่างหนักแน่นว่า “ท่านอยากให้ผู้อื่นปฏิบัติ่ต่อท่านอย่างไรก็จงปฏิบัติต่อเขาอย่างนั้นเถิด” (มธ. 7.12) พระคริสตเจ้าเรีย กร้องให้คริสตชนรักมนุษย์ทุกคนเป็นพี่น้อง โดยไม่คำนึงถึงเรื่องเชื้อชาติความสามารถหรือฐานะของเขา ก็เพราะพระบิดารักมนุษย์อย่างบุตรและพระคริสตเจ้าก็เป็นคนหนึ่งในมวลมนุษย์นั้น ลำพังหัวใจของมนุษย์เองไม่สา มารถจะรักเช่นนี้ได้ “เราจงรักกันและกัน เพราะความรักมาจากพระเป็นเจ้า…พระเป็นเจ้าเป็นองค์ความรัก” (1 ยน.4.7-8) พระจิตเป็นผู้ทำให้ความรักนี้เกิดขึ้นในใจของคริสตชนพร้อมกับความเชื่อ และไม่ยอมให้ยกเว้นใคร และถ้าจะต้องรักใครให้มากกว่ า คนที่ต้องรักให้มากกว่านั้นก็ควรเป็นคนยากจนและต่ำต้อย

8.แต่ความรักแบบคริสตชนนั้นไม่หมายความต้องรักมนุษย์ทุกคนเท่าเสมอกัน แต่หมายความว่า ต้องรักตามส่วนความสัมพันธ์ร ะหว่างมนุษย์ โดยคำนึงว่าเป็นความสัมพันธ์ในครอบครัวหหรือไม่ระหว่างเพื่อนฝูง เป็นความสัมพันธ์ทั่วไปหรือในระหว่างชาติต่างๆ

9.ธรรมประเพณีคริสตชนสอนว่า คุณธรรมทุกอย่างสรุปได้และแสดงออกมาในความรักต่อเพื่อนมนุษย์นี้เอง นักบุ ญเปาโลบรรยายเรื่องนี้ได้อย่างไพเราะจับใจว่า “ความรักย่อมอดทน มีเมตตาจิต ความรักย่อมไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่จองหอง ไม่หยาบคาย ไม่เห็นแก่ตัว ไม่ฉุนเฉียว ไม่ผูกใจเจ็บ ไม่ชื่นชมในความประพฤติผิด แต่ยินดีในควา มจริง ความรักพร้อมที่จะให้อภัย พร้อมที่จะเชื่อ พร้อมที่จะไว้ใจ และพร้อมจะอดทน” (1 คร.13.4-7)

10.เมื่อรักพระเป็นเจ้าและเพื่อนมนุษย์ดังนี้ คริสตชนย่อมไม่หวังจะได้รางวัลหรือผลประโยชน์ทางโลก ตรงกันข้าม เขารู้ว่าตนอาจต้องทนทุกข์ทรมาน เพราะเป็นศิษย์ของพระอาจารย์ผู้ถูกตรึงกางเขน และยังคงเป็นเครื่องหมายแห่งความขัดแย้งในโลก คริ สตชนเป็นผู้ถ่อมตน เพราะรู้ว่าตนอ่อนแอ ตราบเท่าที่ยังมีชีวิตอยู่ในโลก แต่มีความเชื่อและรู้ว่าตนหวังพึ่งความช่วยเหลือของพระบิดาในการสู้รบบนแผ่นดินนี้ได้เสมอ และหวังจะได้ความสุขที่ไม่รู้จักสิ้นสุดเมื่อปลายทางชีวิต


11.ความเชื่ออย่างแน่นแฟ้นว่าชีวิตมีความหมายดังนี้ ย่อมทำให้คริสตชนมีความหวังและความเห็นในแง่ดีที่ไม่มีอะไรจะทำลายได้ พระคริสตเจ้าเตือนผู้ติดตามพระองค์ไว้แล้วว่า “ท่านจะทนทุกข์ทรมานในโลก แต่จงไว้ใจเถิด เราได้ชนะโลกแล้ว (ย น.16.33) คริสตชนร่วมกับพระคริสตเจ้ารบสู้กับความชั่ว เพื่อให้โลกดีขึ้นกว่านี้ ความหวังของคริสตชน เนื่องจากอิงอยู่กับพระเ ป็นเจ้าอย่างสิ้นเชิงจึงไม่คลอนแคลน แต่ทำให้เกิดบรรยากาศความไว้ใจอันเหมาะที่จะทำให้มนุษย์เจริญก้าวหน้า นักบุญเปาโลเขียนว่า “ถ้าพระเป็นเจ้าอยู่ข้างเรา ใครจะสู้เราได้” (รม.8.31)