ความปรีชาสุขุมแบบคริสตชน : ผู้ที่มิใช่คริสตชน ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
32.แม้ว่าศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆเป็นช่องทางปรกติที่มนุษย์จะได้รับความรอด แต่ถ้าคิดว่าพร
ะเป็นเจ้าทรงจำกัดขอบเขตความรักในการช่วยมนุษย์ให้รอดเพียงเท่านี้ ก็น่าจะเป็นการหมิ่นน้ำพระทัยของพระองค์เป็นแน่ เพราะเหตุนี้ คริสตชนไม่ควรจะพิพากษาและกล่าวโทษคนที่อยู่นอกพระศาสนจักร แต่ควรจะแสดงความรัก และช่วยเหลือเขา
คริสตชนย่อมมีความสุขใจที่ได้พบความรอดในพระศาสนจักรและโดยเห็นแก่พระคริสตเจ้ายังเชื่อตระหนักว่า พระทัยดีของพระเป็นเจ้าจะประทานความรอดแก่มนุษย์ผู้มีน้ำใจด
ีและกว้างขวางทุกคน ซึ่งแม้ดูภายนอกไม่อยู่ในพระศาสนจักร แต่เจริญชีวิตประพฤติถือตามมโนธรรมตามที่สภาสังคายนาวาติกันที่ 2 แถลงว่า พระญาณสอดส่องของพระเป็นเจ้
าไม่ปฏิเสธที่จะประทานความช่วยเหลือที่จำเป็นสำหรับความรอดแก่ผู้ซึ่งไม่รู้จักพระเป็นเจ้าอย่างแจ่มแจ้ง โดยไม่ใช่ความผิดของเขา แต่ก็ยังพยายามเจริญชีวิตอย่างเที่ยงตร
ง อาศัยพระหรรษทานของพระองค์ช่วย สิ่งใดพบเห็นเป็นสิ่งดีและเป็นความจริงในตัวเขา พระศาสนจักรก็ถือว่าเป็นการเตรียมทางไปสู่พระวรสาร และเป็นพระคุณของพระผู้ส่องส
ว่างให้มนุษย์ทุกคนบรรลุถึงความรอดในที่สุด (สังฆธรรมนูญว่าด้วยพระศาสนจักรมาตรา 16)
เพราะเหตุนี้ คริสตชนแท้ต้องรำพึงถึงหน้าที่และเอกสิทธิ์ของผู้ที่จะเป็นพยานประกาศให้คนทั้งโลกรู้ถึงพระเป็นเจ้าและควา
มรอดอันเป็นงานที่พระคริสตเจ้ากระทำอยู่ในตัวเขา
|