หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

ความปรีชาสุขุมแบบคริสตชน : ธรรมล้ำลึกเรื่องพระศาสนจักร
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ


23.อาศัยพระคุณของพระจิต คริสตชนได้เข้าในประชาคมฝ่ายจิต คือพระศาสนจักร และผู้ที่เป็ นศูนย์ของพระศาสนจักรก็คือพระเยซูคริสตเจ้า พระผู้ไถ่มนุษยชาติ พระศาสนจักรรวบรวมบรรดาผู้ที่เชื่อถึงพระเยซูคริสตเจ้า ได้รับศีลล้างบาปและเป็นพยานประกาศพระองค์ในโลก โดยร่วมมือในงานความรอดของพระองค์

24.บ่อยครั้งเราเปรียบพระศาสนจักรเป็นร่างกาย ซึ่งมีพระคริสตเจ้าเป็นศรีษะและพระจิตเป็นวิญญาณ นับเป็นร่างกายที่มีชีวิตและกำลังเจริญเติบโต เรายังเรียกพระศาสนจักรว่า “ประชากรข องพระเป็นเจ้า” ที่พระเยซูคริสตเจ้าได้ทรงไถ่และพระจิตเจ้าทำให้ศักดิ์สิทธิ์ เพราะพระเป็นเจ้าไม่มีพระประสงค์ช่วยให้มนุษย์รอดเป็นคนๆโดยไม่เกี่ยวพันถึงกันและกัน แต่มีพระประสงค์รว มมนุษย์ให้เป็นประชากรที่จะเป็นสื่อทำให้เกิดเอกภาพ ความหวัง และความรอดสำหรับมนุษยชาติทั้งมวล ทั้งจะเป็นดังเกลือที่ทำให้อาหารทุกชนิดมีรส กับเป็นความสว่างส่องแสงให้แก่ทุกคน โดยไม่ฝืนความสมัครใจของเขา

มนุษย์ทุกคนได้รับเชิญให้มาเข้าพระศาสนจักร โดยไม่เลือกว่าชาติใด ถือวัฒนธรรมอะไรและเป็นคนชั้นไหน เพราะฉะนั้น พระศาสนจักร จึงภาวนาและทำงาน เพื่อให้มนุษย์ทุกคนมาเป็นประชากรของพระเป็นเจ้า รับพระจิต และพึ่งพระคริสตเจ้าผู้เป็นศูนย์กลา งของทุกสิ่ง จะได้ถวายพระเกียรติยศและพระเกียรติมงคลแด่พระบิดาผู้ทรงเนรมิตจักรวาล

25.ถึงแม้ว่าพระศาสนจักรประกอบด้วยมนุษย์ แต่พระศาสนจักรไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์ตั้งขึ้นเหมือนสังคมอื่นๆ หากเป็นสิ่งที่พระเจ้าตั้ง ขึ้น เพราะผู้ตั้งพระศาสนจักรเป็นพระเยซูคริสตเจ้าซึ่งเป็นพระเจ้า พระเป็นเจ้าเรียกมนุษย์ทั้งหลายให้มาเข้าในพระศาสนจักรอยู่ต ลอดเวลา โดยพระจิตดลใจเขาให้มาถือความเชื่อ ดังนี้การมีชีวิตร่วมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แต่มีหน้าที่และการงานต่างๆกันภายในพระศาสนจักรจึงมิใช่มี่ต้นกำเนิดมาจากมนุษย์ แต่มาจากพระเป็นเจ้า

26.ประมุขของพระศาสนจักรคือพระสันตะปาปา ผู้สืบตำแหน่งต่อจากนักบุญเปโตร เป็นรากฐานและเป็นเครื่องหมายที่แสดงให้เห็นได้ว่า ประชากรของพระเป็นเจ้าร่วมชิดสนิท และมีความเชื่อเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

พระสันตะปาปาประทับอยู่ที่กรุงโรม ไม่มีอำนาจทางการเมืองแต่รับผิดชอบในสิ่งที่เป็นประโยชน์ทั่วไปของมนุษย์ทุกคนอีกด้วย พระศาสนจักรตั้งอยู่ในภูมิภาคส่วนต่างๆของโลก ปกครองโดยบรรดา พระสังฆราช ซึ่งเป็นผู้สืบตำแหน่งต่อจากอัครสาวก และบรรด าพระสังฆราชก็มีพระสงฆ์ และสังฆานุกร เป็นผู้ช่วยอีกชั้นหนึ่ง

บรรดาพระสังฆราชต้องเคารพเชื่อฟังพระสันตะปาปา และร่วมมือกับพระสันตะปาปา รับผิดชอบในการปกครองพระศาสนจักรสากลด้วย พระสันตะปาปาและบรรดาพระสังฆราชกับพระสงฆ์เป็นผู้ประกาศความเชื่อในหมู่ประชากรของพระเป็นเจ้า เมื่อประกอบพิธีศีลศักดิ์สิทธิ์ ท่านเหล่านั้นก็ประสาทพระหรรษทาน เมื่อสอนและทำตนเป็นแบบฉบับ ท่านก็นำทางสัตบุรุษไปด้ว ยอำนาจที่ได้รับจากพระคริสตเจ้าอำนาจที่กล่าวมานี้ไม่ใช่เป็นการกดขี่บังคับ แต่เป็นการรับใช้ประชากรของพระเป็นเจ้า เพื่อให้เจริญเติบโตและแพร่ขยายไปในโลก

27.ฆราวาสเต็มใจร่วมกับนายชุมพาบาลของตน เพื่อแผนการความรอดของพระเป็นเจ้า จะได้ดำเนินไปถึงมนุษย์ทั่วโลกอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น ฆราวาสตอบสนองการที่พระเป็นเจ้าเรียกให้มาร่วมมือในภารกิจทั่วไป ของพระศาสนจักรโดยอุตส่า ห์ทำงานปรกติในครอบครัว ในธุระการงานและในสิ่งที่มีคุณค่าฝ่ายโลกทุกอย่าง เพื่อจัดสิ่งเหล่านี้ให้เป็นระเบียบเรียบร้อยตามแผนการของพระเป็นเจ้า และตามเจตนารมณ์ของพระคริสตเจ้า

28.แต่ผู้ที่อยู่ในพระศาสนจักร มิใช่มีแต่คริสตชนที่มีชีวิตบนแผ่นดินนี้เท่านั้น แต่ยังมีผู้ชอบธรรมและผู้ศักดิ์สิทธิ์อีกเป็นอันมากซึ่ง ล่วงลับไปแล้วและบัดนี้อยู่กับพระเป็นเจ้า ทุกคนร่วมสนิทกันด้วยการมีส่วนช่วยเหลือกันอย่างลึกล้ำและลึกลับ ด้วยการผูกพันกันทา งฝ่ายจิตที่ต้องมีชีวิตและความทุกข์สุขร่วมกัน นี่แหละคือสิ่งที่เราเรียกว่า “สหพันธ์นักบุญ” หมายความว่าผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ ย่อมมีส่ว นร่วมในบุญกุศลของผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ ทุกคนมีส่วนในพระหรรษทานและของพระคริสตเจ้า และได้รับประโยชน์จากคำภาวนาแห่งพระมารดาของพระองค์ด้วย

29.ในบรรดาสมาชิกแห่งพระศาสนจักรนั้น มีท่านผู้หนึ่งที่เด่นเป็นพิเศษ เพราะได้มีส่วนในงานระยะเริ่มแรกแห่งพ ระศาสนจักรในการปฏิบัติตามแผนการของพระเป็นเจ้า ท่านผู้นั้นคือ พระนางมารีอา พระมารดาของพระคริสตเจ้า ตั้งแต่นิรันดรเมื่อพระเป็นเจ้าได้ทรงพระดำริ จะบังเกิดจากสตรีผู้หนึ่งในโลกนั้น พระองค์ได้ทรงเลือกพระนางมารีอาให้รับเกียรติ สูงสุดนี้ พระองค์มิได้ยกเว้นมิให้พระนางอยู่ในสภาพผิดปรกติธรรมดาของชีวิต แต่ประทานพระหรรษทานให้แก่พระนางตั้งแต่เริ่ม ชีวิต และไม่ยอมให้พระนางติดมลทินของบาปกำเนิดเลย พระเป็นเจ้าได้ทรงยกพระนางไว้ให้เป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์และหามลทินมิได้ และพระเยซูคริสตเจ้าพระบุตรของพระนาง “ก็ทรงเหมือนกับมนุษย์ทุกประการ นอกจากในเรื่องบาป” ดังที่นักบุญเปาโลเขียนไว้ (ฮ บ.4.15)

เมื่อถึงกำหนดเวลา พระเป็นเจ้าได้ถามความสมัครใจของพระนางมารีอา ในการที่จะทำให้งานของพระจิตได้สำเร็จเป็นไปอย่างม หัศจรรย์ในพระนาง และในการที่จะเป็นมารดาฝ่ายมนุษย์ของพระผู้ไถ่ ตั้งแต่เริ่มเดิมที คริสตชนยกย่องเคารพพระนาง เรียกเป็น “พระมารดาของพระเจ้า”

ซึ่งไม่หมายความว่าพระนางเป็นพระมารดาของพระเจ้าในฐานะที่เป็นพระเป็นเจ้า แต่หมายความว่าเป็นพระมารดาฝ่ายธรรมชาติมนุษย์ ที่พระเป็นเจ้าได้รับเอาในพระคริสตเจ้า

พระนางได้ร่วมมืออย่างแข็งขันในการไถ่บาปเยี่ยงผู้รับใช้ต่ำต้อยของพระเป็นเจ้า ตั้งแต่พระคริสตเจ้าบังเกิด ตลอดเวลาปฐมวัยแ ละพระชนม์ชีพเปิดเผยจนถึงสิ้นพระชนม์บนกางเขน พระนางได้มีส่วนร่วมกับพระคริสตเจ้าอย่างสนิทใกล้ชิดตลอดเวลาที่มีชีวิตอยู่ในโลก เมื่อสิ้นชีวิตไปแล้ว พระนางยังมีส่วนร่วมกับพระองค์ต่อไป

โดยที่เป็นเอกในหมู่สิ่งสร้างทั้งปวงและเป็นแบบฉบับของมนุษย์ทั้งหลาย พระกายของพระนางมิได้เน่าเปื่อยเมื่อสิ้นชีวิตแล้ว แต่ไ ด้รับพระเกียรติเช่นเดียวกับพระกายของพระคริสตเจ้าเมื่อกลับเป็นขึ้นมา เนื่องจากพระนางร่วมชิดสนิทกับพระเยซูคริสตเจ้า รับ พระจิตอย่างสมบูรณ์และอ่อนน้อมต่อบิดาอย่างครบถ้วน พระนางจึงเป็นแบบฉบับอันดีเยี่ยมสำหรับคริสตชน และเป็นมารดาฝ่ายวิญญาณของพระศาสนจักรทั่วไปด้วย