ความปรีชาสุขุมแบบคริสตชน : ธรรมล้ำลึกเรื่องพระเป็นเจ้า ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ที่มา : แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
5.คริสตศาสนิกรู้ว่ามีพระเป็นเจ้าเดียวทรงชีวิตและเที่ยงแท้ เป็นปฐมเหตุของสรรพสิ่งที่มีอยู่ พ
ระองค์นั้นทรงฤทธิ์ทุกประการดำรงอยู่ในนิรันดรภาพ มีพระทัยเมตตา เป็นผู้ดีพร้อมทุกประการ โดยมีพระสติปัญญา น้ำพระทัยและพระคุณลักษณะทุกประการ พระองค์อยู่แยกจากโลก เราแ
ลเห็นพระองค์ไม่ได้และไม่สามารถจะเข้าใจว่าพระองค์เป็นอย่างไร แต่พระองค์ก็อยู่ใกล้ชิดมนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งปวง พระองค์ประทานชีวิต ลมปราณและทุกสิ่งให้แก่ทุกคน (กจ.17.25)
เพราะเหตุนี้มนุษย์จึงสามารถรู้จักพระองค์ โดยอาศัยสรรพสัตว์ที่ฉายให้เห็นพระองค์ในฐานะเป็นปฐมเหตุของชีวิตและเป็นความดีพร้อมของสรรพสัตว์เหล่านั้น ตามที่นักบุญเปาโลกล่าวว่า เ
พราะทุกสิ่งที่มนุษย์สามารถรู้ได้เกี่ยวกับพระเป็นเจ้านั้นเป็นที่ประจักษ์แก่ตาของมนุษย์แล้ว ด้วยพระเป็นเจ้าได้ไขแสดงให้เขารู้พระคุณลักษณะที่แลไม่เห็นของพระองค์ คือ พระฤทธานุภาพ
นิรันดรและพระเทวภาพนั้น ตั้งแต่สร้างโลกมาแล้วสติปัญญาก็เข้าใจได้ เมื่อเห็นสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างขึ้น (รม.1.19-20)
6.เมื่อรู้ว่ามนุษย์สามารถรู้จักพระเป็นเจ้า และพระเป็นเจ้าก็สถิตอยู่ใกล้มนุษย์เช่นนี้ คริสตชนก็ยกย่องถือคารวะกิ
จและศาสนกิจทุกแบบได้อย่างมั่นใจ โดยเห็นเป็นเครื่องหมายแสดงว่าพระเป็นเจ้าเอาพระทัยใส่สอดส่องมนุษยชาติทั้งสิ้นบังเกิดจากคนๆเดียวและทวีแพร่ไปทั่วพื้นแผ่นดิน หลังจากที่พระองค์ได้กำหนดอายุสมัยและเขตแดนที่อยู่ให้แก่ช
นชาติต่างๆนั้น ก็เพื่อให้มนุษย์ได้แสวงหาพระเป็นเจ้าและพยายามที่จะพบพระองค์ เหมือนกับคลำเอาก็ว่าได้ แท้ที่จริง พระองค์ก็
มิได้อยู่ห่างไกลจากเราแต่ละคนเลย เพราะที่เรามีชีวิต มีการเคลื่อนไหวและมีความเป็นอยู่นี้ เราก็มีในพระองค์นั่นเอง (กจ.17.26-28)
7.ชีวิตของพระเป็นเจ้าก็คือความรู้แจ้งและความรักอย่างสุดล้นพ้นประมาณ พระเยซูเจ้าได้เผยความไพบูลย์แห่งชีวิตภายในของพระเป็นเจ้านี้ โดยตรัสเป็นภาพเปรียบและคำพูดที่ยืมมาจากชีวิตมนุษย์ เพราะความรัก พระบิดาทรงใช้พระบุตรแต่องค์เดียวมาใ
นโลก เพื่อนำมนุษย์ไปหาพระองค์ พระบิดากับพระบุตรทรงใช้พระจิตมาเพื่อให้มนุษย์ศักดิ์สิทธิ์และเป็นลูกของพระเป็นเจ้า เพรา
ะเหตุนี้คริสตชนจึงเชื่อถึงพระบิดา พระบุตรและพระจิต ซึ่งเป็นพระเป็นเจ้าหนึ่งเดียวดำรงอยู่ในสามพระบุคคล ซึ่งมีธรรมชาติพพ
ระเป็นเจ้าอย่างเดียวกัน เป็นเรื่องที่เหลือวิสัยที่มนุษย์จะอธิบายชี้แจงให้เข้าใจลึกซึ้งได้ เมื่ออยากจะขบคิดธรรมล้ำลึกข้อนี้ แต่ชีวิตของคริสตชนจะเข้มแข็งก็ด้วยธรรมล้ำลึกข้อนี้เอง เพราะสามพระบุคคลแต่ละองค์เป็นผู้ช่วยให้มนุษย์รอด
8.อัตถ์ลึกซึ้งเรื่องมีสามพระบุคคลในพระเป็นเจ้านั้น เป็นเรื่องที่ไม่สามารถอธิบาย เพราะเกินสติปัญญามนุษย์ที่จะเข้าใจได้
แต่เทววิทยาของคริสตชนได้คิดหาตัวอย่าง ที่มนุษย์ค้นและพอจะเอาชีวิตของพระเป็นเจ้ามาเปรียบได้ เช่น เอามาเปรียบเทียบกับกำลังในตัวมนุษย์ระหว่างดวงจิตที่ คิด กับดวงความคิดที่ เกิด ขึ้น เพราะเหตุนี้พระบุคคลที่สองในพระตรีเอกภา
พจึงเรียกเป็น พระบุตร(1) ของพระบิดา หรือ พระวจนาตถ์ ส่วนพระบุคคลที่สามถือว่าเป็นความรักระหว่างพระบุคคลทั้งสอง เราจึงมักเรียกพระจิตว่าเป็นองค์ความรัก
จินตกวีคริสตังโบราณผู้หนึ่งประพันธ์ไว้ว่า ท่านอาจจะนึกเห็นพระอาทิตย์เป็นรูปหมายถึงพระบิดา นึกถึงความสว่างเจิดจ้าของดว
งอาทิตย์เป็นรูปหมายถึงพระบุตร และนึกเข้าใจความร้อนแรงของดวงอาทิตย์เป็นรูปหมายถึงพระจิต แต่ถึงเช่นนี้ ก็เป็นของอันเดียวกัน ใครเลยจะสามารถอธิบายสิ่งที่เข้าใจไม่ได้ (นักบุญเอเฟรม)
|