นิทานเปรียบเทียบเรื่องนี้ พระองค์ทรงพระประสงค์จะสอนบรรดาอัครสาวกและสานุศิษย์
เนื่องจากพวกเขาได้รับอำนาจและพระคุณเหนือธรรมชาติมากมายในการเผยแผ่พระศาสนจักรเมื่อตอนเริ่มแรก พวกเขาอาจจะคิดว่านั่นเป็นผลงานของพวกเขาเอง แทนที่จะคิดว่าเป็นของพระเป็นเจ้า
และพวกเขาก็จดจำคำของพระอาจารย์เจ้า พวกเขายอมรับว่า พวกเขาเป็นแต่ความเปล่า และดังนี้ พระเป็นเจ้าจึงยกพวกเขาขึ้นในอาณาจักรสวรรค์
แต่นิทานเปรียบเทียบเรื่องนี้ก็สอนเราด้วยพระคุณทั้งกายในต่างก็เป็นพระคุณที่พระเป็นเจ้าได้ทรงประทานให้แก่เรา
ในนิทานเปรียบเทียบ นายก็คิดว่าเขาเป็นเจ้าของของทาสทั้งครบ ทั้งกายใจ เพราะฉะนั้น เขาก็หวังว่าทาสนั้นจะต้องใช้ความสามารถทั้งกายใจเพื่อรับใช้เขา นี่เป็นความคิดของเจ้านายในสมัยนั้น แม้ว่าจะเป็นความคิดที่ผิดก็ตาม แต่ทุกคนก็มีความคิดแบบนี้ พระเป็นเจ้าได้ทรงสร้างเรามา พระองค์ทรงเป็นเจ้านายเด็ดขาดของเรา เพระว่าพระองค์ได้ทรงประทานทุกสิ่งให้แก่เราทั้งกายใจ เรายอมรับความจริงข้อนี้หรือเปล่า??หรือว่าเราคิดว่าเรามีความสามารถเอง คิดเอง ทำเอง โดยที่พระเป็นเจ้าไม่มีส่วนร่วมเกี่ยวข้องในกิจการของเรา??หรือว่าบางทีเราอาจจะดูถูกและประมาทพี่น้องร่วมโลกซึ่งไม่มีความสามารถเหมือนกับเรา เราได้ใช้พระคุณเพื่อพระเป็นเจ้าอย่างดีหรือเปล่า เราแสวงหาคำชมเชยจากเพื่อนมนุษย์ในเมื่อเราใช้พระคุณของพระองค์อย่างดีหรือเปล่า
มีมนุษย์ชายหญิงมากมายในโลกซึ่งเรียกร้องอาณาจักรสวรรค์เป็นบำเหน็จอย่างไม่มียางอาย
และไม่เคยคิดเลยว่าพระเป็นเจ้าเป็นผู้มีพระคุณต่อเขา มีคริสตชนจำนวนมากที่บ่นว่าพระเป็นเจ้าเมื่อพระองค์เรียกร้องให้ใช้เวลา หรือสละบางสิ่งบางอย่างเพื่อพระองค์บ้าง แทนที่เขาจะขอบพระคุณพระเป็นเจ้าที่ได้ทรงโปรดให้เขามีโอกาสแสดงความกตัญญูรู้คุณต่อพระองค์บ้าง บางคนใช้พระคุณของพระเป็นเจ้าอย่างดี แต่เขาก็หวังคำชมเชยจากพระเป็นเจ้าและจากเพื่อนมนุษย์ ความจองหองนี้เองได้ทำให้การงานที่ดีงามทั้งหลายของพวกฟาริสีกลายเป็นการหาชื่อเสียงให้ตัวเอง ไม่ใช่เพื่อเกียรติมงคลของพระเป็นเจ้า พระอาจารย์เจ้าได้ทรงเตือนเราอย่าให้เราทำอะไรโดยเห็นแก่หน้าตามนุษย์ (มธ 6:1-8)นิทานเปรียบเทียบเรื่องนี้ก็สอนเราทำนองนี้ สมมุติว่า เราถวายกายใจแด่พระโดยยอมพลีชีพเพื่อพระองค์ เราก็ได้ได้ทำอะไรมากไปกว่าคืนชีวิตของเราให้แก่พระเป็นเจ้า การที่พระเป็นเจ้าให้เราทกงาน เราจะต้องถือเป็นสิทธิพิเศษ บรรดาอัครธรรมทูต และนักบุญปอล นักบูฟรังซิส อัสซีซี นักบุญดอมินิก และนักบุญฟรังซิส เซเวียร์ ถึงกระนั้นก็ดี พระเป็นเจ้าก็สามารถจะบันดาลให้วิญญาณมากมายกลับใจในทันที โดยไม่ต้องอาศัยการเทศนาของบรรดานักบุญเหล่านี้ ท่านนักบุญทั้งหลายทราบเรื่องนี้ดี
ถ้าหากว่าบรรดานักบุญของพระเป็นเจ้ามีความรู้สึกว่าการเสียสละการงานบนแผ่นดินนี้เล็กน้อยเหลือเกินและไม่มีความหมายอะไรเลย
ทำไมเราจึงรู้สึกว่าเราทำงานมากมาย ให้เราหันไปสำรวจชีวิตที่ผ่านมา ในจำนวน 20, 30-50 ปี ที่ผ่านมา เราได้ทำงานเพื่อพระเป็นเจ้าอาทิตย์ละกี่ชั่วโมง?และเขาใช้เวลากี่ชั่วโมงเพื่อความสุขและความเห็นแก่ตัว ยิ่งกว่านั้นใช้ในการทำบาปผิดต่อพระเป็นเจ้า
พระอาจารย์เจ้าไม่ได้ตรัสว่า กิจกรรมที่ดีงานของเราเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์หรือไม่ เป็นที่พอพระทัยพระองค์ แต่ว่าเราอย่าคิดว่า
กิจกรรมดีของเรานั้นเป็นสิ่งที่เราทำทั้งหมด โดยที่พระเป็นเจ้าไม่มีส่วนร่วมด้วย และเราไม่มีสิทธิ์ที่จะทวงเอารางวัล และรางวัลนั้นก็เป็นพระเป็นเจ้าเองได้ทรงประทานให้เรา เพราะพระทัยเมตตาของพระองค์ ในเราขอบพระคุณด้วยความจริงใจที่ได้ประทานพระคุณเพื่อว่าเราจะได้สามารถร่วมงานกับพระองค์ในการช่วยเหลือมนุษย์ชาติให้รอด และเพื่อความรอดของเราเอง
|