หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

ผู้รับใช้สิบคนที่รับเงินไปทำทุน
(ลก 19:11-27 เทียบ มธ 25:14-30)

คำอธิบาย


นิทานเปรียบเทียบเรื่องนี้  พระเยซูคริสตเจ้าได้ทรงเล่าให้สานุศิษย์และผู้ที่เดินตามพระองค์ อย่างสัตย์ซื่อฟัง  ขณะที่พระองค์เสด็จไปกรุงเยรูซาเลมเป็นครั้งสุดท้าย พระองค์ได้เสด็จลงมาจากแคว้นกาลิลีไปยังลุ่มแม่น้ำจอร์แดนและได้กระทำมหัศจรรย์ตามทา  ที่เมืองเยรีโค  พระองค์ได้ทรงรักษาคนตาบอด  และได้เข้าไปเยี่ยมบ้านของศักเคียสคนเก็บภาษีที่ใคร ๆ ต่างก็สบประมาท และได้ประกาศว่าศักเคียสเป็นบุตรของอับราฮัมด้วย เพราะฉะนั้น  พระอง ค์ควรจะสนพระทัยต่อเขาด้วย  การทำเช่นนี้  ทำให้พวกที่ติดตามพระองค์รู้สึกแปลกใจ  เพราะเขาเข้าใจว่า อาณาจักรสวรรค์ของพระเมสสิยาห์นั่นไม่มีที่สำหรับคนบาปและคนเก็บภาษี พระองค์ทรงเล่านิทานเปรียบเทียบเรื่องนี้  เพื่อจะได้แก้ความผิดระหว่างผู้ที่ติดตามพระองค์ที่ปรารถนาให้พระองค์ปกครองพวกเขา แต่ความนึกคิดของพวกเขา และในเวลาเดียวกันก็ ทรงมีพระประสงค์ที่จะแก้ความผิดของพวกศัตรูของพระองค์ซึ่งไม่มีความประสงค์จะให้พระองค์ปกครองพวกเขาเลย

ขุนนางผู้หนึ่งได้เดินทางไปต่างประเทศที่ห่างไกล เพื่อไปรับบัลลังก์ เรื่องที่พระเยซูคริสตเจ้าได้ทรงเล่านี้ก็คุ้นหูผู้ฟังมากในสมัยนั้ น  เพราะว่าประเทศปาเลสไตน์และประเทศตะวันออกกลางในสมัยนั้นเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโรมัน  อำนาจตามเมืองขึ้นมักจะเ ปลี่ยนแปลงอยู่เสมอเมื่อพระราชาสิ้นพระชนม์  มงกุฎราชกุมารจะต้องเดินทางไปกรุงโรมเพื่อขอให้ทางโรมแต่งตั้งตนเป็นกษัตริย์ป กครองสืบต่อจากพระราชบิดา และบางครั้งในเรือลำเดียวกันนั่นแหละ  ผู้โดยสารมักจะเป็นผู้ที่อ้างว่าตัวเองมีสิทธิ์จะขึ้นครองราชย์  ในนิทานเปรียบเทียบ ผู้ที่อ้างสิทธิ์เป็นเชื้อพระวงศ์ซึ่งหมายถึงพระเยซูคริสตเจ้าเอง

พระองค์ก็เสด็จเดินทางไปไกล หมายความว่ากว่าพระองค์จะได้ครองราชย์ต้องใช้เวลานานมาก  เท่ากับบอกว่า อาณาจักรสวรรค์ข องพระเมสสิยาห์ไม่ใช่จะมาถึงในอนาคตอันใกล้ตามที่พวกยิวหลายคนเคยฝันเอาไว้

และเมื่อเขาได้เรียกคนใช้มา 10 คน เขาก็ได้ให้เงินปอนด์ และสั่งพวกเขาว่าจงค้าขายจนกว่าเราจะกลับ  เลข 10 มักจะหมายถึง จำนวนทั้งหมด ในที่นี้หมายถึงคนใช้หรือผู้ติดตาม  ซึ่งเป็นพวกที่ตรงกันข้ามกับพวกศัตรูที่กล่าวถึงในข้อต่อไป  ขุนนางผู้นั้นได้แจก จ่ายทรัพย์สมบัติให้พวกเขา  เพื่อให้พวกเขานำไปใช้ประโยชน์ในเวลาที่เขาไม่อยู่  จำนวน 1 ปอนด์ มีค่าแรงงานกรรมกร 100 วัน  เพราะฉะนั้น  คนใช้ทุกคนจะต้องรับผิดชอบในการใช้เงินนั้น

แต่ว่าประชาชนได้เกลียดเขา  ในประวัติศาสตร์ เรามักจะพบตัวอย่างเสมอว่า  เมื่อคนใดคนหนึ่งต้องการบัลลังก์ก็มักจะมีคนบางพ วกที่สนับสนุน  และบางพวกก็ไม่เห็นด้วย  เทียบ ปฏิปักษ์ของพระเยซูคริสตเจ้า  คือ พวกฟาริสีและบรรดาผู้นำของชาวยิว  เพราะพ วกเขาได้เลือกจักรพรรดิโรมันเป็นกษัตริย์ แทนที่จะเลือกพระเมสสิยาห์  พระเยซูคริสตเจ้าซึ่งพระเป็นเจ้าได้ส่งมาในโลกนี้

ชั่วระยะเวลาต่อมาเขาก็ได้เดินทางกลับพรอมกับตำแหน่งกษัตริย์ กว่าจะได้ตำแหน่งนี้  เวลาก็ผ่านไปนานเพราะว่าเขาเดินทางไกล  และทางด้านคนใช้ก็ได้ใช้เงินให้เป็นประโยชน์เมื่อเขาได้เป็นกษัตริย์แล้ว  เขาก็จะปูนบำเหน็จรางวัลให้แก่ผู้ที่สนับสนุนเขาและจะลงโทษพวกกบฏ

เขาก็ได้สั่งให้ไปตามคนใช้ทั้งหมดเข้ามาเฝ้า เขาเรียกพวกที่สัตย์ซื่อเข้ามาก่อน  แต่ละคนจะต้องรายงานในกิจการของตน  พระอ งค์ประทานเงินให้ก็เพื่อจุดประสงค์  ดังนั้น พระองค์ก็ต้องการทราบว่าทุกคนได้ทำตามจุดประสงค์หรือไม่

นายครับ  เงินปอนด์ของพระองค์ 1 ปอนด์ ได้กำไร 10 ปอนด์ คนใช้ได้คืนเงินทั้ง 10 ปอนด์ ให้แก่นายของตนทั้งหมดโดยไม่ได้เ รียกร้องอะไรไว้สำหรับตนเองเลย  แต่นายก็เห็นน้ำใจและความสามารถของเขา  และได้ประทานรางวัลแก่เขา

ดีมาก  เจ้าเป็นคนใช้ที่ดี  เพราะว่าเจ้าได้สัตย์ซื่อในเรื่องเล็กน้อย  เจ้าจะได้ครอง 10 หัวเมือง พระเจ้าแผ่นดินองค์ใหม่นี้ต้องการผู้ ปกครองสำหรับเมืองต่าง ๆ ในราชอาณาจักรของพระองค์  พระองค์ได้ทรงเลือกจากคนที่ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นผู้สัตย์ซื่อและมีความส ามารถในการทำงานระหว่างที่พระองค์ไม่อยู่  และพระองค์จะทรงปูนบำเหน็จรางวัลให้แก่เขาตามความสัตย์ซื่อต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย  แต่ว่ารางวัลนั้นเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่จริงๆ

คนที่สองได้เข้ามา  กล่าวว่า  นายครับ เงินปอนด์ของพระองค์ได้กำไร 5 ปอนด์ กำไรที่คนที่สองทำให้แก่นายนั้นเป็นเพียงครึ่งหนึ่ง ของคนแรก อย่างไรก็ดี  กำไรนั้นก็เป็นผลของความพยายามของเขา และเขาก็ได้รับรางวัลตามอัตรส่วน

คนที่สามได้เข้ามา  กล่าวว่า  นายครับ นี่เป็นเงินปอนด์ของพระองค์ ซึ่งผมได้เก็บห่อผ้าเอาไว้  คนใช้ที่สามนี้ไม่ได้ทำตามคำสั่งที่ นายได้สั่งไว้  เขาได้เก็บไว้เฉย ๆ ไม่ได้ใช้มันให้เกิดประโยชน์แต่อย่างไรเลย ระหว่างที่พระราชาไม่อยู่ เขาติดธุระกับเรื่องของเข า  และไม่มีเวลาทำงานให้พระราชาเลย  ข้อแก้ตัวของเขาก็ฟังไม่ขึ้น ผมกลัวว่าพระองค์เคร่งครัด  แต่พระราชาได้ตรัสตอบว่า ถ้าเ จ้ากลัวเราจริง ๆ เจ้าก็คงจะทำงานเต็มกำลังความสามารถ  ยิ่งกว่านั้น  ดูเหมือนเขาจะกล่าวหาพระราชาด้วยว่า  พระองค์ไม่สู้จะยุติ ธรรมเท่าไร เพราะ  ?พระองค์ทวงแม้ไม่ได้ฝาก และเก็บเกี่ยวแม้ไม่ได้หว่าน? แน่นอนเป็นคำพูดข้ออ้างที่ไม่ตรงกับความจริง เพ ราะตามความจริง พระองค์ทรงยุติธรรม และทรงพระทัยดีด้วย เพราะคนใช้ที่รับผิดชอบนั้น พระองค์ได้ปูนบำเหน็จรางวัลให้มาก มาย  การที่เขาไม่ใช้เงินที่ได้รับมอบหมายให้เป็นประโยชน์  อาจจะเป็นเพราะว่าเขาเกียจคร้าน  หรือเพราะคิดว่านายคงจะไม่ได้เ ป็นพระเจ้าแผ่นดินก็ได้ เพราะเหตุนี้เอง  พระราชาจึงได้เอาเงินคืน และไม้ได้ให้ตำแหน่งอะไรแก่เขา  เนื่องจากเขาไม่สัตย์ซื่อและไม่รู้จักรับผิดชอบต่อสิ่งที่เขาได้รับมอบหมาย

นายครับ  เขามี 10 ปอนด์  แล้วครับ  คนที่อยู่ใกล้เคียงรู้สึกประหลาดใจที่พระราชาทรงพระทัยดีเพิ่มเงินอีก 1 ปอนด์  ให้แก่ผู้ที่มี 10 ปอนด์ อยู่แล้ว แต่พระราชาก็ทรงพอพระทัยทำเช่นนั้น  เพราะทรงตะหนักดีว่าคนใช้คนแรกนั้นรู้จักรับผิดชอบ  และได้พิสูจน์แ ล้วว่าเขาได้เสียสละและได้ทำงานเพื่อนายของตนอย่างเต็มกำลังความสามารถ  เขาเป็นคนใจกว้างต่อนาย  เพราะฉะนั้น นายก็ย่อมจะใจกว้างต่อเขาด้วย

สำหรับศัตรูของเรานั้น  จงฆ่าเขาต่อหน้าเรา  เมื่อได้ตัดสินผู้ที่ติดตามหรือคนใช้ของพระองค์แล้ว พระองค์ก็หันมาคิดบัญชีกับพวก ที่ตั้งตัวเป็นศัตรูของพระองค์อย่างเปิดเผย  ในฐานะที่พวกเขาเป็นกบฏ  ตามธรรมเนียมในสมัยนั้นพวกเขาจะต้องถูกประหารต่อหน้ าพระราชา ในนิทานเปรียบเทียบ พวกกบฏก็คือพวกฟาริสีและพวกหัวหน้าชาวยิวซึ่งละทิ้งพระเยซูคริสตเจ้า  ไม่ยอมรับว่าพระองค์ ก็คือพระเมสสิยาห์  การที่กรุงเยรูซาเลมถูกทำลายใน ค?ศ. 70  นั้น  เป็นการเริ่มต้นแห่งหายนะที่ชาวยิวได้รับเท่านั้น ในฐานะที่พ วกเขาจะละทิ้งพระเยซูคริสตเจ้า  ภัยพิบัติที่น่ากลัวมากกว่านั้นมากมายนักกำลังรอคอยเขาอยู่ในวันพิพากษาประมวลพร้อม

คำสอน


พระเยซูคริสตเจ้าได้ทรงเล่านิทานเปรียบเทียบเรื่องนี้เพื่อจะสอนทั้งผู้ติดตามพระองค์และศัตรูของพระองค์ด้วย  สำหรับผู้ติดตามพระองค์นั้น พวกเขาต้องเข้าใจด้วยว่าอาณาจักรสวรรค์ที่พระองค์ทรงสถาปนาขึ้นนั้น ไม่ใช่เป็นอาณาจักรสวรรค์ชั่วคราวในโลกนี้ และที่ว่าสำเร็จไปในอนาคตอันใกล้ ซึ่งในอาณาจักรสวรรค์นั้นจะมีสันติสุขและไม่ต้องการความพยายามจากพวกเขา ตรงข้ามอาณาจักรสวรรค์นั้นจะสำเร็จครบครันในอนาคตอันไกลและคนที่บรรลุถึงอาณาจักรสวรรค์นั้นจะต้องพร้อมที่จะเสียสละ  และจะต้องพยายามเต็มความสามารถเพื่อจะได้มาซึ่งอาณาจักรสวรรค์นั้น 

สำหรับพวกศัตรู พระองค์ทรงพระประสงค์ที่จะสอนเขาว่า แม้ว่าพวกเขาจะสบประมาทและละทิ้งพระองค์ พระองค์ก็จะทรงครองราชย์และเป็นพระราชาปกครองพวกเขาอยู่นั่นเอง  และถ้าหากว่าพวกเขายังขืนดื้อและเป็นกบฏต่อพระองค์สืบไป พวกเขาก็จะถูกขจัดออกจากอาณาจักรสวรรค์และจะต้องโทษตลอดทั่วชั่วนิรันดร คำสอนของพระเยซูคริสตเจ้าเหมาะสำหรับพวกเราในสมัยนี้ด้วย ในขณะนี้มนุษย์เรามีทั้งต้อนรับพระเยซูคริสตเจ้าและสมัครเป็นศิษย์ของพระองค์ และมีทั้งศัตรูที่คอยต่อสู้กับพระองค์ และในท่ามกลางพวกที่ติดตามพระองค์ก็มีบางพวกที่มีใจร้อนรน  และบางพวกก็เป็นคริสตชนแต่ชื่อเท่านั้น พวกเขาต้องการทำอะไรตามใจโดยไม่คำนึงว่าจะเป็นบาปหรือไม่ พวกเขามีความภาคภูมิในฐานะที่เป็นมนุษย์ คิดว่ามนุษย์เรามีความสามารถทำได้สารพัด ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากพระเป็นเจ้า พวกเขามีความจองหองมากเกินไป  และไม่สามารถจะแสดงคารวะต่อพระเป็นเจ้าได้  พวกเขาไม่เชื่อในพระองค์ และไม่เชื่อว่าพระองค์ทรงเป็นผู้พิพากษาสักวันหนึ่ง  พวกเขากล้าที่จะขัดเสียงตักเตือนของมโนธรรมที่พระเป็นเจ้าได้ทรงมอบให้

สำหรับผู้ที่สมัครเป็นศิษย์ของพระเยซูคริสตเจ้า  นิทานเปรียบเทียบเรื่องนี้ก็ให้ความบรรเทาและกำลังใจ  ทางสวรรค์นั้นดูเหมือนจะยากและเต็มไปด้วยอุปสรรคต่าง ๆ การต่อสู้กับปีศาจกับคนใจโลกและตัวเอง ดูเหมือนจะไม่จบสิ้นกันได้ง่าย ๆ ถึงกระนั้นก็ดี  พระเป็นเจ้าก็ได้ทรงโปรดประทานพระหรรษทานที่พอเพียงสำหรับสานุศิษย์ของพระองค์  พระองค์สัญญาว่า  เราจะได้ชัยชนะถ้าหากเรายอมตายพร้อมกับพระองค์  ขอให้เราคิดถึงวันพิพากษา  และเราจะมีกำลังใจที่จะปรนนิบัติพระองค์อย่างสัตย์ซื่อเพราะพระองค์กำลังเตรียมรางวัลมหาศาลรอคอยเราอยู่แล้ว

สำหรับผู้ที่เป็นคริสตชนแต่ชื่อ นิทานเปรียบเทียบเรื่องนี้ก็เตือนเขาเช่นเดียวกัน  กล่าวคือ  เพื่อจะเอาตัวรอดไปสวรรค์นั้น  การเป็นคริสตังแต่ชื่อไม่เป็นการเพียงพอเลย เขาจะต้องปฏิบัติตนให้สมกับศิษย์ของพระคริสตเจ้าอย่างแท้จริง ความสุขทั้งชั่วนิรันดรนั้นเป็นรางวัลตอบแทนคุณงามความดีในโลกนี้  การแก้ตัวแบบคนใช้ที่สามก็ยังคงมีอยู่ในขณะนี้  เช่นว่า พระเป็นเจ้าทรงเคร่งครัดเกินไปบ้าง  พระองค์ทรงเรียกร้องจากเรามากเกินไปบ้าง  ฯลฯ ขอให้เราสำนึกเสมอว่า พระเป็นเจ้าทรงเป็นบิดาผู้ทรงพระทัยเมตตาและทรงสนพระทัยต่อความสุขของเรา  พระองค์จะไม่ทรงเรียกร้องให้เราเสียสละมากจนเกินไป  แม้พระองค์จะทรงสอนเราให้เดินทางกางเขนก็ตาม  และให้เราคิดเสมอว่า ขณะที่เรากำลังรับใช้พระเป็นเจ้า  เราก็กำลังเตรียมรางวัลให้กับตัวเราเอง และรางวัลที่พระองค์จะทรงประทานให้นั้น ประเสริฐและคุ้มค่าจริง ๆ ถ้าหากเราจะเปรียบเทียบกับความเสียสละแต่เพียงเล็กน้อยของเราเอง

ที่มา : แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ