หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

การเลือกที่นั่งในงานเลี้ยง
ลก 14:7-11 เทียบ มธ 23:6

คำอธิบาย

พระเยซูคริสตเจ้าได้ทรงเล่านิทานเปรียบเทียบในโอกาสที่พระองค์รับเชิญไปทานอาหารที่บ้า นฟาริสี  และในโอกาสนั้นมีฟาริสีมากมายถูกเชิญไปทานเลี้ยงด้วย  จุดประสงค์ในการเชื้อเชิญพระเยซูคริสตเจ้าก็เพื่อจะคอยจับผิดเวลาที่พระองค์ทรงทำหรือพูดอะไรที่เขาพอจะถือเป็นข้ อมูลเพื่อกล่าวหาพระองค์ได้ วันนั้นเป็นวันสับบาโต  พวกฟาริสีได้จัดให้ผู้ป่วยเป็นโรคท้องมานเข้าไปในห้องอาหาร พวกเขาคิดว่า พวกเขาคงจะทำให้พระเยซูคริสตเจ้าต้องอับอายขายห น้าไม่วิธีใดก็วิธีหนึ่งใน 3 วิธีต่อไปนี้ คือ

1) ถ้าหากว่าพระองค์ทรงรักษาคนป่วย  เขาก็จะกล่าวหาว่าพระองค์ละเมิดวันสับบาโต  ซึ่งเป็นวันศักดิ์สิทธิ์  และห้ามทำงานในวันนั้น

2) ถ้าหากว่าพระองค์ไม่ได้ทรงรักษาเขา พวกเขาก็จะกล่าวหาว่าพระองค์ไร้ความเมตตาปราณีต่อคนป่วย  ซึ่งพระองค์เคยสอนเสมอว่าให้รักษาคนยากจน คนป่วย และคนที่ต้องการความช่วยเหลือจากเรา

3) ถ้าหากว่าพระองค์ไม่ทรงสามารถรักษาคนป่วยซึ่งพวกเขาคงจะคิดในรูปนี้มากกว่า เพราะในสมัยนั้น  โรคท้องมาน  ใคร ๆ ก็ถือว่าเป็นโรคที่ไม่มีใครรักษาให้หายได้ และเขาก็จะกล่าวหาพระองค์ได้ว่า พระองค์เป็นผู้ที่หลอกลวงโลก  แต่ว่าแผนการขอ งพวกเขาล้มเหลวหมด  เพราะว่าพระอาจารย์เจ้าได้ทรงรักษาผู้ป่วยให้หาย  และพระองค์ยังได้แสดงให้พวกเขาเห็นว่าพระองค์ ทรงทราบถึงแผนการชั่วร้ายของพวกเขาด้วย  ทั้งนี้ก็เพื่อจะได้พิสูจน์ว่าพระองค์ทรงเป็นพระเป็นเจ้า  เพราะมีอำนาจเหมือนพระเป็นเจ้า

ความจองหองเป็นพยศชั่วที่เด่นชัดของพวกฟาริสี  ที่จริงเพราะความจองหองนี่แหละที่เขาตั้งตัวเป็นศัตรูกับพระองค์ แม้แต่ใน การทานเลี้ยงธรรมดาแท้ ๆ  แต่ละคนก็อยากนั่งในที่ที่มีเกียรติสูง เช่น นั่งใกล้เจ้าภาพ  เป็นต้น พระองค์จึงถือโอกาสเล่านิทานเปรียบเทียบง่าย ๆ เพื่อสะกิดใจพวกเขา

เมื่อท่านถูกเชิญไปในงานวิวาห์มงคล  จงอย่านั่งในที่ที่มีเกียรติสูง  ถ้าจะพูดในสมัยนี้ก็คือ 
จงอย่านั่งในที่มีเกียรติที่สุด นอกจากว่าเราจะเป็นแขกที่สำคัญที่สุด  และได้รับเชื้อเชิญเป็นพิเศษจากเจ้าภาพ

เพราะบางทีอาจจะมีคนที่มีเกียรติสูงกว่า สมมุติว่า  เราไปนั่งในที่ที่มีเกียรติสูงที่สุด โดยที่เจ้าภาพไม่ได้เชิญ  ถ้าหากแขกที่ม ีเกียรติสูงกว่าเรามา และเราถูกเชิญให้ไปนั่งที่อื่น  เราก็คงจะต้องรู้สึกอับอายขายหน้าเป็นของธรรมดา ยิ่งกว่านั้น บางทีที่อื่น ๆ ก็มีแขกนั่งอยู่แล้ว  บางทีเราจะต้องนั่งในที่ที่มีเกียรติน้อยที่สุด

แต่ว่าจงไปนั่งในที่ที่ต่ำที่สุด  ถ้าหากว่าเจ้าภาพไม่ได้เชิญให้เรานั่งในที่โต๊ะ   ที่ม้านั่ง  แต่ว่าเราจะต้องเลือกเอง ก็ให้เราเลือก ที่ที่มีเกียรติน้อยที่สุด  และถ้าหากเจ้าภาพมาเห็นเราเช่นนั้น เขาอาจจะเชิญเราให้ไปนั่งในที่ที่มีเกียรติมากกว่า และเราก็จะได้รับเกียรติท่ามกลางแขกเหรื่อทั้งหลาย

เพราะว่าใครที่ยกตัวขึ้นจะถูกปราบให้ต่ำลง นี่เป็นข้อสรุปของนิทานเปรียบเทียบ  คนจองหองจะได้รับความอับอ ายขายหน้าทั้งในโลกนี้และในโลกหน้า  พวกฟาริสีผู้จองหองพยายามที่จะทำให้พระเยซูคริสตเจ้าต้องอับอายขายหน้า ต่อหน้าธารกำนัลโดยพาคนเจ็บมาหาพระองค์ในวันสับบาโต แต่พวกฟาริสีเองกลับต้องอับอายขายหน้า ในนิทานเปรียบเทียบ พระองค์ได้แสดงให้เห็นว่า ความจองหองของพวกเขานั้นจะทำให้เขาต้องอับอายขายหน้าต่อหน้าบรรดาแขกผู้มีเกียร ติทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชีวิตหน้า คนที่จองหองจะต้องถูกปราบให้ต่ำลงอย่างแน่นอน  ในโลกเรานี้ เป็นไปได้ที่คนจอ งหองจะได้รับเกียรติ  แต่รางวัลในโลกนี้ไม่มีความหมายอะไร  เมื่อเปรียบกับโทษตลอดชั่วนิรันดร์

คำสอน

ความสุภาพ  น่าจะเป็นฤทธิ์กุศลที่ง่ายที่สุดที่จะปฏิบัติสำหรับคริสตชน  เราทราบว่าพระเป็นเจ้าทรงรักและเมตตาต่อเรา และเราจะต้องสนองตอบความรักของพระองค์อย่างไร  เรามีอะไรบ้างที่เป็นของเราเอง และไม่ได้รับมาจากพระเป็นเจ้า เราเป็นใครกันในสายพระเนตรของพระเป็นเจ้า

ขอให้เราคิดถึงตัวอย่างความสุภาพของพระเยซูคริสตเจ้าซึ่งได้มอบให้แก่เรา  พระบุตรของพระเป็นเจ้า พระผู้สร้าง  และเจ้านายของสากลจักรวาล ได้ทรงบังเกิดในถ้ำเลี้ยงสัตว์  ได้เจริญเติบโตในเมืองนาซาแร็ธ ที่ไม่มีชื่อเสียงอะไร  ทำมาหากินโดยรับจ้างเป็นช่างไม้ สิ้นพระชนม์บนกางเขนประหนึ่งเป็นนักโทษที่โหดร้ายท่ามกลางโจรผู้ร้ายสองคน และได้ถูกฝังในหลุมศพของผู้อื่น

พระองค์จะทรงทำอะไรให้มากกว่านี้ได้อีกไหม ในการเชื้อเชิญเรา  เมื่อพระองค์ตรัสว่า ?จงเอาอย่างเรา  เพราะว่าเราเป็นผู้ที่มีจิตใจสุภาพ

ถึงกระนั้นก็ดี ยังมีคริสตังที่จองหอง  มีบางคนที่บังอาจวิพากษ์ต่อ  เป็นพระดำริของพระองค์ ทำไมพระองค์จึงทำอย่างนี้กับฉันทำไมพระองค์ปล่อยให้เหตุการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้เกิดขึ้นทำไมฉันต้องดิ้นรนต่อสู้กับความยากจน โดยที่เพื่อนบ้านของฉันต่างก็ร่ำรวยอยู่ดีกินดีจนน่าอิจฉา  นี่เป็นคำถามต่าง ๆ ของคนที่จองหอง


โดยปกติคริสตชนที่จองหองมักจะลบหลู่ดูหมิ่นเพื่อนมนุษย์ด้วย  เขาคิดว่าเขาสูงกว่าและมีเกียรติมากกว่าเพื่อนบ้านของเขา  เขาไม่เคยคิดถึงแบบฉบับของพระอาจารย์ของเขาเลย  เขาตั้งตัวเป็นทั้งผู้พิพากษาของพระเป็นเจ้าและของเพื่อนมนุษย์  เขาตัดสินความทุกกรณี  เขาเป็นใครกัน

เพราะความจองหองของพวกฟาริสีจึงไม่ยอมรับพระเยซูคริสตเจ้า  เพราะความจองหองอีกนั้นแหละที่เขาตัดตัวเองออกจากอาณาจักรสวรรค์ของพระเป็นเจ้า ความจริงพวกเขาเป็นผู้ที่มีคุณธรรมสูง หลาย ๆ ประการ และเคยประกอบคุณงามความดีมามาก แต่คุณงามความดีทั้งหมดก็หาได้เป็นความดีที่แท้จริงไม่ เขาทำสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เพราะความจองหอง

ให้เราพยายามหลีกเลี่ยงพยศชั่วอันร้ายกาจประการนี้ ให้เราพยายามพิจารณามโนธรรมของเราเองว่า ในการประกอบกิจกรรมต่าง ๆ เหล่านี้นั้น เรามีความจองหองปนอยู่หรือเปล่า ในการตัดสินเพื่อนบ้าน  ในการติดต่อกับเพื่อนบ้านด้วย  เรามีความสุภาพมากน้อยเพียงไร ขณะนี้เรากำลังเป็นลูกศิษย์ของพวกฟาริสีหรือของพระเยซูคริสตเจ้ากันแน่
 

ที่มา : แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ