ในนิทานเปรียบเทียบเรื่องเมล็ดมัสตาร์ด พระอาจารย์เจ้าอธิบายการเจริญเติบโตของอาณ
าจักรสวรรค์ที่มองเห็นได้จากภายนอก แต่ในนิทานเปรียบเทียบเรื่องเชื้อแป้ง พระองค์มีพระประสงค์จะอธิบายพลังภายในที่ลึกลับและเงียบๆ ของพระอาณาจักรสวรรค์ของพระเป็นเ
จ้า และพลังนี้เองสามารถเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างที่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของมัน
นิทานเปรียบเทียบนี้เป็นของพื้นๆ และง่ายๆ ที่ผู้ฟังทุกคนเข้าใจอย่างดี เพราะยังเป็นอาหา
รหลักของสาวกยิว และเป็นหน้าที่ของแม่บ้านที่จะต้องเตรียมทำขนมปัง ก่อนอื่นเขาคลุกแป้งกับน้ำหรือนม และใส่เชื้อลงไปเล็กน้อย และเขาก็บดและคลุกมันจนกระทั่งเป็นก้อน แ
ล้วก็จนกระทั่งใช้การได้ บางครั้งในกรณีด่วนๆ แม่บ้านอาจจะทำขนมปังโดยไม่ใส่เชื้อก็มี แต่รสชาติไม่อร่อย แข็งแห้ง โมเสสได้บัญญัติให้พวกยิวกินขนมปังไม่มีเชื้อระหว่างฉลองเ
ทศกาลปาสกาตลอดหนึ่งอาทิตย์ เพื่อเตือนพวกเขาให้ระลึกถึงความยากลำบากและการเป็นทาส เมื่อครั้งที่พวกเขาอยู่ในประเทศอียิปต์
ทุกคนรู้ว่าเชื้อแป้งเพียงเล็กน้อยสามารถบันดาลให้แป้งฟูขึ้นและใหญ่ขึ้น และยังทำให้ขนมปังมีรสชาติดียิ่งขึ้น อร่อย นิ่ม ฉะนั้น เ
มื่อพระเยซูเจ้าตรัสว่า อาณาจักรของพระเป็นเจ้าเปรียบเหมือนเชื้อแป้ง พวกเขาเข้าใจการเปรียบเทียบทันที กล่าวคือ เชื้อแป้งเริ่
มทำงานและเปลี่ยนก้อนแป้งฉันใด พระวรสารของพระคริสตเจ้าและอำนาจแห่งอาณาจักรของพระองค์ก็ให้ชีวิตใหม่ และพลังให
ม่ให้แก่ผู้ที่ยินดีรับฟังพระวาจานั้น เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขา นี่เป็นแก่นแท้และเป็นจุดศูนย์กลาง เป็นคำสอนของนิทานเปรียบเทียบเรื่องนี้
เพียงแต่เหลียวดูประวัติศาสตร์ตอนเริ่มแรกของพระศาสนจักร เราก็จะเห็นว่านิทานเปรียบเทียบนี้เป็นไปตามความจริงทุกประการ
อาณาจักรของพระเป็นเจ้า พระศาสนจักรพร้อมกับศีลศักดิ์สิทธิ์ 7 ประการ ที่บันดาลชีวิตเหนือธรรมชาติ ได้ถูกปลูกไว้ท่ามกลางโ
ลกในสมัยนั้น แต่โลกไม่รู้จัก คล้ายๆ กับแม่บ้านซ่อนเชื้อแป้งเข้าไปในแป้ง เพราะว่าชาวยิวส่วนใหญ่ที่เคยมีชีวิตร่วมกับพระองค์
ก็ไม่รู้จักพระองค์ นักบุญยอห์น บัปติสต์ ได้กล่าวกับพวกฟาริสีว่า แต่ว่ามีคนหนึ่งที่ยืนอยู่ท่ามกลางพวกท่าน ซึ่งท่านไม่รู้จัก (ยน
1:20) พระองค์ก็ได้เสด็จลงมาหาประชาชนของพระองค์ แต่พวกเขาไม่รับพระองค์ อย่างไรก็ดี เชื้อแป้งกำลังทำงานอยู่อย่างเงียบ ๆ และกำลังแพร่อิทธิพลไปสู่โลกอันกว้างใหญ่
|