เพื่อจะเน้นถึงความจำเป็นในการเตรียมตัวให้พร้อมและการตื่นเฝ้าอยู่เสมอ พระเยซูเจ้
าจึงได้ทรงเล่านิทานเปรียบเทียบอีกเรื่องหนึ่ง เพื่อจะได้สอนสานุศิษย์ที่จะรับบทบาทพิเศษในการอภิเษกสมรสระหว่างพระเยซูคริสตเจ้าและพระศาสนจักร แม้เขาไม่ได้ทำผิด
อะไรออกมาให้เห็น แต่เพราะเขาเลินเล่อต่อหน้าที่ที่เขาควรจะทำ เขาก็เป็นผู้ไม่เหมาะสมจะเข้าในงานวิวาห์มงคลในสวรรค์
การเปรียบเทียบการมงคลสมรสกับความสัมพันธ์ระหว่างพระคริสตเจ้าและพระศาสนจัก
ร เป็นเรื่องที่ผู้ฟังทุกคนเข้าใจดีไม่ยากอะไร ในพระธรรมเก่าผู้เขียนพระคัมภีร์มักจะเปรียบเทียบความสัมพันธ์ระหว่างพระเป็นเจ้าและประชากรชาวยิวทั้งการมงคลสมรส พ
ระเป็นเจ้าทรงเป็นเจ้าบ่าวและอิสราเอลเป็นเจ้าสาว (เทียบ เพลงรักซาโลมอน อิสยาห์ 54, 2 โครินทร์ 11:2, เอเฟซัส 5:25-32)
พระอาณาจักรสวรรค์เปรียบเทียบหญิงพรหมจารีย์ 10 คน ในการเสด็จมาครั้งที่สองของพระเยซูคริสตเจ้านั้นจะเป็นการเริ่มอา
ณาจักรสวรรค์อย่างสมบูรณ์ และอาณาจักรสวรรค์บนโลกนี้ หรือพระศาสจักรแห่งการต่อสู้ในโลกชั่วคราวนี้จนถึงที่สิ้นสุดลง
พระองค์ต้องการจะอธิบายว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับผู้ที่พระองค์ได้ทรงเรียกและได้ทรงประทานทุกวิถึทางเพื่อให้เขาเอาตัวรอดอย่างง่ายได้
หญิงพรหมจารีย์ 10 คน ในสมัยพระเยซูคริสตเจ้า เจ้าสาวยิวจะเลือกเพื่อนหญิงสาวไว้เป็นเพื่อนเจ้าสาว เพื่อจะได้ช่วยเหลือเ
ขาในการเตรียมตัวและจัดทำสิ่งต่าง ๆ ที่จำเป็นเพื่อเตรียมงานสมรส โดยปกติเขาจัดงานพิธีสมรสที่บ้านเจ้าบ่าว เจ้าบ่าวก็จะ
มีเพื่อนเจ้าบ่าวด้วย เขาจะแห่ไปบ้านเจ้าสาวราว ๆ พระอาทิตย์ตก เมื่อรับเจ้าสาวจากบิดามารดาของเธอแล้ว เขาก็จัดขบว
นแห่ไปยังบ้านเจ้าบ่าวพร้อมด้วยเสียงดนตรีและการร้องรำทำเพลงแสดงความชื่นชมยินดีการวิวาห์มงคลนั้นอาจจะยืดเยื้อตลอ
ดคืนหรือบางทีอาจจะยืดไปหลายวัน ตามปกติแขกที่ได้รับเชิญมามีจำนวนมาก ซึ่งเป็นญาติพี่น้องเพื่อนฝูงของทั้งสองฝ่าย แ
ละคนที่สำคัญ ๆ ในบริเวณใกล้เคียงด้วย ค่าใช้จ่ายไม่สูงเท่าไร เพราะแขกผู้ที่ได้รับเชิญจะนำเอาแป้ง เหล้าองุ่น เนยแข็ง และทุกอย่างที่จะใช้ในพิธีมงคลสมรส มามอบให้แทนของขวัญที่มีค่าสูง ๆ
ในนิทานเปรียบเทียบนี้ พระเยซูคริสตเจ้าต้องการจะพูดถึงชะตากรรมของแขกที่ได้รับเชิญเป็นพิเศษนี้ เพื่อนสนิทของเจ้าสา
วซึ่งได้รับเชิญด้วยความปีติยินดีและเตรียมงานวิวาห์มงคลมากมายแล้ว ถึงกระนั้นก็ดี เพราะความเลินเล่อพวกเขาก็ไม่เป็นผู้ที่เหมาะสมจะเข้าร่วมในขบวนแห่ซึ่ง
เอาตะเกียงของพวกเขาไป เพื่อนเจ้าวสาวต้องจุดตะเกียงเพื่อเข้าร่วมในขบวนแห่ซึ่งมักจะเป็นเวลากลางคืน ทั้ง 10 คน ได้
มาถึงบ้านเจ้าสาวก่อนเวลา แต่งตัวเตรียมพร้อมแล้วและถือตะเกียงซึ่งปกติเป็นตะเกียงเล็ก ๆ ที่ทำด้วยดินเผาหรือทองเหลืองและใช้จุดได้เพียง 2-3 ชั่วโมง น้ำมันก็หมด
5 คน เป็นคนโง่ อีก 5 คน เป็นคนฉลาด เลข 10 เป็นเลขที่ชาวยิวถือว่าเป็นเลขมีเกียรติ ฉะนั้น ตามปกติเขามักจะเลือกเพื่อนเจ้าสาว 10 คน เพื่อเข้าร่วมขบวนแห่
หญิงพรหมจารีย์ที่โง่นั้นได้เอาตะเกียงไป แต่ไม่ได้เอาน้ำมันไปด้วย เนื่องจากตะเกียงจุน้ำมันได้น้อย พวกเขาจะต้องหาภาชนะอื่นสำหรับใส่น้ำมันไว้เติมด้วย
และเจ้าบ่าวก็ได้มาช้า เมื่อพวกเขามาพร้อมกันที่บ้านเจ้าสาว ตอนแรก ๆ ก็คุยกันสนุกสนาน ต่างคนต่างรอเจ้าบ่าวด้วยความตื่นเต้น แต่พอยิ่งทียิ่งดึก ทุกคนก็เหนื่อยและม่อยหลับไป
นั่นแน่ะ เจ้าบ่าวมาแล้ว ประมาณเที่ยงคืน คนที่คอยเฝ้าดูอยู่นอกบ้านว่าเจ้าบ่าวจะมาถึงเมื่อไร ก็เห็นขบวนแห่งเจ้าบ่าวเข้าม
าใกล้ก็ร้องตะโกนว่า นั่นแน่ะ เจ้าบ่าวมาแล้ว ให้เราเตรียมไปต้อนรับเขาเถอะ
เพื่อนเจ้าสาวทั้งหมดก็ลุกขึ้น และแต่งตะเกียงของตน เพื่อนเจ้าสาวที่ฉลาดได้เติมน้ำมันในตะเกียง และได้จุดตะเกียง ส่ว
นเพื่อนเจ้าสาวที่ไม่รอบคอบได้จุดตะเกียงด้วย แต่เมื่อสังเกตเห็นว่าตะเกียงดับจึงได้รู้ว่าน้ำมันหมดแล้ว และรู้ด้วยว่าตัวไม่ได้เตรียมน้ำมันมาเพราะความเลินเล่อของตน
ขอน้ำมันให้เราบ้าง เขาขอยืมน้ำมันจากผู้อื่น ซึ่งก็มีจำกัดเหมือนกัน เขาน่าจะเตรียมตนเอง
เพื่อนเจ้าสาวที่ฉลาดได้ตอบว่า บางทีน้ำมันคงจะไม่พอทั้งสำหรับเราและสำหรับท่าน ขอให้ท่านไปซื้อเอาเองเถิด คำตอบนี้บ
างทีหลายคนอาจจะคิดว่าพวกเพื่อนเจ้าสาวอาจจะขาดเมตตาจิต แต่ถ้าเราดูอีกมุมหนึ่งเราจะเห็นว่า เป็นความฉลาดรอบคอบของเขา เพราะเขากลัวน้ำมันหมด
ขณะที่พวกเขาไปซื้อ เป็นวิธีเดียวที่เขาอาจจะหาน้ำมันได้ แต่ขณะที่เขาไปซื้อนั้น ทางนี้ก็เริ่มขบวนแห่เจ้าสาวไปยังบ้านเจ้าบ่าว หลังจากนั้นเขาก็ปิดประตูและเริ่มฉลองงานวิวาห์มงคล
ที่สุดพวกเขาก็กลับมา หลังจากที่ไปเที่ยวหาซื้อน้ำมัน บางทีอาจจะหาไม่ได้ด้วย เพราะดึกมารแล้ว เขาก็ไปยังบ้านเจ้าบ่าว เ
พราะคิดว่าอย่างไรเสียเขาก็เป็นเพื่อนเจ้าสาว เขาจึงอ้อนวอนขอให้เจ้าบ่าวเปิดประตูรับพวกเขา
แต่เจ้าบ่าวได้ตอบว่า เราขอตอบท่านอย่างสัตย์จริงว่า เราไม่รู้จักพวกท่าน เจ้าบ่าวไม่ได้เปิดประตูต้อนรับเขา ทั้งนี้ก็เพราะว่
าแม้เจ้าสาวจะได้เลือกเขาให้เป็นเพื่อน แต่พวกเขาก็ทำตัวไม่เหมาะสมกับเกียรติยศอันนั้น เพราะพวกเขาไม่ได้เตรียมตัวอย่างดี และไม่รอบคอบ
จงเฝ้าระวัง เพราะว่าท่านไม่รู้ว่าวันและโมงจะมาถึงเมื่อไร วันที่พระตุลาการจะเสด็จมาพิพากษาโลก วันวิวาห์มงคลระหว่างพระเยซูเจ้าและผู้ที่พระองค์ทรงเลือกสรรนั้นไม่มีใครทราบได้
คล้าย ๆ กับเราไม่ทราบว่าเวลาใด เจ้าบ่าวในนิทานเปรียบเทียบจะมาถึง มีวิธีแน่นอนอยู่วิธีเดียวเท่านั้น ที่เรามีโอกาสจะพบพระตุลาการอย่างสงบราบคาบและปลอดภัย คือ เตรียมพร้อมอยู่เสมอ
|