หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

 เรื่องผู้จัดการที่ซื่อสัตย์
ลก 12:42-46, มธ 24:45-51

คำอธิบาย

ในนิทานเปรียบเทียบสองเรื่องที่แล้ว พระเยซูคริสตเจ้าได้ทรงเตือนผู้ที่ติดตามพระอง ค์ให้เตรียมพร้อมเสมอสำหรับอัครสาวกและเป็นต้นนักบุญเปโตร  ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก  และความสัตย์ซื่อต่อพระองค์มีความสงสัยว่าที่พระองค์ตรัสนั้น  พระองค์ต้องการเ ตือนอัครสาวกหรือคนอื่น ๆ พระเยซูคริสตเจ้าได้ทรงตอบนักบุญเปโตรโดยเล่านิทานเปรียบเทียบเรื่องนี้ให้ฟัง เพื่อเน้นว่า พวกอัครสาวกด้วยจะต้องเตรียมพร้อมเช่นเดียวกัน

ใครเป็นผู้รับใช้ที่รับผิดชอบและฉลาด  ตามปกติในครอบครัวที่ร่ำรวยในสมัยนั้น  คนใช้แต่ละคนได้รับส่วนแบ่งซึ่งอาจจะเป็นข้าวสาลีหรือพืชอื่น ๆ  และพวกเขาอาจจะใช้พืชผลที่ได้รับนั้นทำให้เกิดประโยชน์

นายได้ตั้งเขาไว้เป็นหัวหน้าคอยปันส่วนข้าวสาลีแก่คนใช้อื่น ๆ  นายตั้งใจจะเดินทางไปที่อื่น จึงได้ตั้งผู้รับใช้ที่รับผิดชอบผลประโยชน์ไว้ ผู้รับใช้ผู้นี้มีหน้าที่ที่จะดูแลผลประโยช น์ให้แก่นายและคอยควบคุมคนใช้อื่น ๆ เหมือนกับนาย  เป็นบุญของผู้รับใช้ที่รับผิดชอบ ถ้าหากผู้รับใช้ปฏิบัติหน้าที่อย่างสัตย์ซื่อจนกว่านายกลับมาเขาก็จะได้รับคำชมเชย และนายจะแต่งตั้งเขาให้เป็นหัวหน้าดูแลท รัพย์สมบัติทั้งหมดซึ่งเป็นตำแหน่งที่สูงสุดที่คนใช้อาจจะได้รับ

แต่ถ้าผู้รับใช้คิดในใจว่าอีกนานกว่านายจะกลับมา เป็นไปได้ที่นายยังไม่กลับเนื่องจากติดธุระอย่างใดก็ตาม  ผู้รับใช้อาจจะใช้ อำนาจจนนอกลู่นอกทางเพื่อทำตามทำตามความพอใจของตัวเอง  ในประวัติศาสตร์ เราเห็นว่าอำนาจทำให้คนดี ๆ กลายเป็น คนชั่ว อำนาจทำให้คนกลายเป็นทรราช  พระเยซูคริสตเจ้าทรงเตือนสานุศิษย์และเราทุกคน  เพราะอำนาจนี้เองที่ทำให้ผู้รับใช้ต้องประสบหายนะ

แล้วเขาก็ข่มเหงบ่าวไพร่ชายหญิง เอาแต่กินเอาแต่ดื่มจนเมามาย  เพื่อที่จะแสดงอำนาจข่มเหงคนใช้หรือลูกน้องของเขา เขาใช้อำนาจจนนอกลู่นอกทาง

ถ้านายกลับมาในวันที่เขามิได้รอคอย  คนใช้หรือผู้จัดการที่มัวเมาอยู่ในอยู่ในอบายมุขไม่รู้ตัวว่านายจะกลับมาเมื่อไร  ครั้นนายกลับมาโดยกะทันหัน  เขาก็ไม่พร้อม

นายจะฟันเขาออกเป็นสองท่อนและส่งเขาไปรับโทษกับพวกที่ไม่มีความเชื่อ  ผู้รับใช้ที่รับผิดชอบจะได้ตำแหน่งอันสูงส่ง  เพราะนายมอบความไว้วางใจให้แก่เขา ส่วนผู้รับใช้ที่ไม่รับผิดชอบจะต้องโทษมหันต์

ในนิทานเปรียบเทียบเรื่องนี้  พระเยซูคริสตเจ้าทรงมีพระประสงค์จะสอนว่า ผู้รับใช้ที่ไม่รับผิดชอบ จะถูกขจัดออกจากอาณาจักรสวรรค์ เพราะเขาไม่ได้ปฏิบัติตามที่เขาเชื่อ

คำสอน


คำตอบที่พระเยซูคริสตเจ้าให้กับนักบุญเปโตรนั้นแจ้งมาก ผู้รับใช้ของพระเป็นเจ้าได้รับแต่ได้รับศีลบวช เพื่อจะได้แจกจ่ายข้าวสาลี กล่าวคือ พระหรรษทาน การอบรมสั่งสอน การโปรดศีลศักดิ์สิทธิ์แก่สมาชิกทุกคนในพระศาสนจักร  วิบากกรรมแก่เขา  ถ้าหากเขาเลินเล่อไม่เอาใจใส่ต่อหน้าที่การงาน  เพราะเขาจะนำหายนะ ไม่ใช้มาสู่ตัวเองเท่านั้น  แต่มาสู้ผู้คนจำนวนมากที่พระเป็นเจ้าได้ทรงมอบให้ เพื่อดูแลเอาใจใส่  แม้พระเยซูคริสตเจ้าจะตรัสกับผู้ดูแลวิญญาณ หรือผู้อภิบาลสัตบุรุษ  โดยมีนักบุญเปโตรเป็นผู้แทน  สิ่งที่พระองค์ตรัสนี้เป็นสิ่งที่น่าคิดมากสำหรับผู้ที่มีอำนาจและได้รับมอบหมายจากพระเป็นเจ้าให้ทำหน้าที่ประการใดประการหนึ่ง

บิดา-มารดา มีหน้าที่จะต้องอบรมดูแลลูกหลานซึ่งพระเป็นเจ้าได้ทรงมอบไว้  เพื่อว่าบุตรหลานนั้นจะได้สัตย์ซื่อต่อพระเป็นเจ้าและบรรลุถึงสวรรค์  ถ้าหากเขาจะละเลงต่อหน้าที่นี้ เขาก็มีข้อบกพร่อง  นี่เป็นหน้าที่โดยเฉพาะของเขา  ซึ่งจะมอบให้คนอื่นทำได้ยากที่สุด  เพราะว่าโรงเรียนหรือวัดก็ไม่สามารถทำแทนได้อย่างครบครัน  บิดารมารดาจะต้องอบรมบุตรหลานให้รักพระเป็นเจ้าตั้งแต่อยู่ในครอบครัว ต้องพร่ำสอนให้เด็กรักและถือพระบัญญัติของพระเป็นเจ้า ผู้ที่เป็นพ่อแม่จะต้องพิจารณาถึงความรับผิดชอบประการนี้เสมอ เราได้ปฏิบัติแบบผู้รับใช้ที่รับผิดชอบที่นายได้มอบความไว้วางใจให้แก่เราหรือเปล่า เราได้ตัวอย่างที่ดีแก่บุตร เราได้อบรมบ่มนิสัย และเราได้ให้คำสอนแบบคริสตังแก่บุตรหลานเป็นต้นในด้าน ศีลธรรม  เพราะตัวอย่างไม่ดีของเรา  โปรดระลึกไว้เสมอว่า  เด็ก ๆ มักจะเอาอย่างผู้ใหญ่เสมอ เป็นต้น  บิดามารดา เพื่อประโยชน์ของเราเองและของลูกหลานของเขาในอนาคตด้วย ขอให้เราได้เป็นผู้จัดการที่สัตย์ซื่อเสมอ

ครู  เป็นผู้จัดการที่พระเป็นเจ้าได้แต่งตั้งให้เป็นนายในครอบครัว  ครูบาอาจารย์ได้รับหน้าที่ที่จะอบรมเด็กให้มีความประพฤติดีงาม  ไม่ใช่แต่ว่าเขาจะต้องสอนคำสอนให้เด็กเท่านั้น  แต่ว่าเขาจะต้องปลูกฝังให้เด็กมีความเคารพรักต่อพระเป็นเจ้าและพระบัญญัติของพระองค์  โดยอาศัยตัวและติดตามผู้มีชื่อเสียงและอำนาจของครู  ฉะนั้น  เมื่อครูประพฤติตนไม่เหมาะสม ความผิดจึงหนักและมีผลร้ายกาจมาก และอาจจะยังฝังอยู่ในความทรงจำของเด็กเป็นเวลาช้านาน ตรงกันข้าม ถ้าหากครูบาอาจารย์ประพฤติดีประพฤติชอบ เด็ก ๆ ก็จะเอาอย่าง  และจะเป็นดังประทีปที่ส่องสว่างในจิตใจของเด็ก  และเขาเองจะสุกใสเหมือนดาราบนท้องฟ้า  เพราะว่าเขาได้นำศิษย์ไปสู่ทางแห่งความรอด (ดาเนียล 12:3)

ผู้หลักผู้ใหญ่ทางบ้านเมืองซึ่งมีอำนาจในการปกครองจะต้องเอาใจใส่ต่อประชาชนและจะต้องรับผิดชอบต่อพระเป็นเจ้าด้วย

ที่มา : แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ