หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

ความฉลาดของผู้จัดการ
ลก 16:1-8

คำอธิบาย

       จุดประสงค์ของนิทานเปรียบเทียบเรื่องนี้ พระเยซูคริสตเจ้าต้องการเน้นว่า ในการเอาตัวรอดไปสวรรค์นั้น เราจะต้องพยายามใช้ ความฉลาด ความรอบคอบ  เต็มความสามารถ  ถ้าหากว่าคนเรายังรู้จักสะสม ข้าวของเงินทองเพื่อการดำรงชีพในชีวิตนี้  เราก็ควรจะสะสมบุญกุศลเพื่อชีวิตหน้าด้วย

     เศรษฐีผู้หนึ่งมีผู้จัดการคนหนึ่ง  ในสมัยนั้นการที่เศรษฐีจัดหาผู้จัดการทรัพ ย์สินของตนเป็นเรื่องธรรมดา และผู้จัดการนี้มีเสรีภาพและอำนาจที่จะจัดการกับทรัพย์สินอย่างไรก็ได้ ขอแต่ให้เงินทองของนายเพิ่มพูนขึ้นก็แล้วกัน ที่จริงต ำแหน่งหน้าที่ของเขาสูงกว่าคนใช้ธรรมดา  และเป็นหน้าที่ที่มีเกียรติ  เขาทำหน้าที่แทนทายทุกอย่าง เช่น มอบที่ดินให้คนอื่นเช่า ซึ่งอาจจะเป็นเรือกสวน  ไ ร่นา นอกจากนั้น สวนผลไม้ หรือไร่องุ่น หรือสวนมะกอก และเขามีหน้าที่เก็บค่าเช่าประจำปี  ซึ่งปกติมักจะเป็นพืชผล  จา กนั้นเขาก็นำไปขายที่ตลาด หลังจากหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว  เขาก็จะมอบผลประโยชน์ให้แก่นายของตน

ผู้จัดการได้ล้างผลาญทรัพย์สมบัติของนาย นายได้ทราบข่าวว่า  ผู้จัดการไม่สัตย์ซื่อตามที่ได้คาดหมายไว้  เพราะเขาได้ใ ช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย และอาจจะมีการคดโกงอื่นๆ อีก  เช่น  อาจจะขายข้าวของให้แก่ญาติพี่น้องหรือเพื่อนฝูงในราคาต่ำกว่า ราคาท้องตลาด แต่เขาคงไม่ได้ยักยอกเงินเอาไว้ใช้เพราะปรากฏว่าเมื่อนายไล่ออกจากงาน เขาไม่มีเงินเหลือ

ดูเหมือนเราได้ยินเรื่องอย่างไรชอบกลเกี่ยวกับเจ้า จงรายงานมาซิ นายได้ถามหาเหตุผลและขอให้อธิบาย แต่ว่าเขาไม่ส ามารถให้คำตอบได้ เพราะเขาทราบดีว่าเขาได้ทำผิดจริง
ผู้จัดการจึงคิดในใจ  เขาคิดถึงผลกรรมชั่วของเขา และพยายามหาทางออกอย่างดีที่สุด จะขุดดินก็ไม่ไหว  จะขอทานรึก็อา ยเขา (1) เขาทราบดีว่าเขาไม่สามรถจะหางานทำในฐานะเป็นผู้จัดการได้อีก เพราะความคดโกงของเขา ในฐานะเป็นผู้จัด การ  เขาเคยทำแต่งานเบา ๆ ฉะนั้น เขาไม่มีแรงที่จะขุดดินซึ่งเป็นงานหนัก  ส่วนเรื่องขอทานไม่ต้องพูดถึง  เพราะเขายังแข็งแรง สุขภาพดี และเป็นสิ่งที่น่าอับอายด้วย

ฉันรู้วิธีละ เขาได้หาทางออกที่คดโกง แต่เป็นทางออกที่ฉลาด

ลูกหนี้ของนาย  นายหรือเจ้าของนั้นอาจจะมีลูกหนี้ที่ยังจะต้องชำระเป็นพืชผลอยู่อีก  เพราะในบางปี  พืชผลอาจจะไม่ได้ผ ลเต็มที่ เนื่องจากดินฟ้าอากาศไม่อำนวย พวกชาวไร่ชาวนาก็ไม่สามารถจะชำระค่าเช่าตาที่ได้ตกลงกันไว้ ผู้จัดการมีบัญชี อยู่ในมือ  จึงรู้ว่าใครเป็นหนี้นายบ้าง และเป็นหนี้มากน้อยเท่าไร ฉะนั้น เขาจึงคิดการณ์ไกล  อยากได้ความดีความชอบจากพวกลูกหนี้  เมื่อเขาต้องตกงาน

เอาบัญชีมา-เขียน 50  ผู้จัดการลดจำนวนหนี้สินให้ตั้งครึ่ง เพราะฉะนั้น  ลูกหนี้ของนายทั้งหลายก็ย่อมจะกตัญญูรู้คุณต่อเ ขา และคงเห็นใจเขาและช่วยเหลือเขา  เพราะความคดโกงที่นำผลประโยชน์มาให้แก่เขา  และเพราะกลัวว่าเขาอาจจะกลับใจหักหลังเอาก็เป็นได้

นายได้ชมเชยผู้จัดการทุจริตที่ได้เป็นคนฉลาด นายนั้นแม้จะถูกโกงก็อดที่จะชมเชยผู้จัดการที่ฉลาดแกมโกงไม่ได้ เข าได้ตกงานเพราะความไม่ซื่อสัตย์ของเขา เขาก็ได้แก้ปัญหาเพื่ออนาคตโดยอาศัยความไม่สัตย์ซื่อเช่นกัน

บางคนไม่สบายใจที่คิดว่าพระเยซูคริสตเจ้าเองชมเชยผู้จัดการทุจริตนั้น และคิดว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องเลย  แต่ในนิทานเป รียบเทียบเราเห็นว่าไม่ใช่พระเยซูคริสตเจ้าที่ชม แต่เป็นนายที่ชมและแน่นอนที่สุด นายก็ไม่เห็นดีเห็นชอบกับการคดโกงของผู้จัดการในการกระทำเช่นนั้น  เพียงแต่ชมความฉลาดแกมโกงของเขา (2)

พระบุตรแห่งโลกนี้  พระเยซูคริสตเจ้าต้องการประยุกต์นิทานเปรียบเทียบเรื่องนี้  บุตรแห่งโลกนี้  คืดคนที่สาละวนแต่โภค ทรัพย์และของของแต่อย่างเดียว บุตรแห่งความสว่างคือคนที่สนใจแต่คุณธรรม  ซึ่งจะมีผลให้เขาได้รับความสุขตลอดนิรันด ร์ คำสอนที่พระองค์ต้องการสอนผู้ฟังทุกคนรวมทั้งพวกเราด้วยก็คือ ให้เอาอย่างความฉลาดรอบคอบของผู้จัดการในการแสวงหาอาณาจักรสวรรค์ของพระเป็นเจ้าหรือชีวิตนิรันดร

บางคนอาจจะถามว่า ทำไมพระเยซูคริสตเจ้าเลือกเอาความฉลาดรอบคอบของคนใช้ที่ไม่สัตย์ซื่อนี้มาเป็นตัวอย่าง ขอตอ บว่า เพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นเสมอในสมัยของพระองค์ในประเทศปาเลสไตน์  การใช้ตัวอย่างแบบนี้ผู้ฟังเข้าใจได้ง่ายกว่ามาก  เพราะได้เคยเห็นมาแล้ว  ไม่มีใครเห็นด้วยกับความอสัตย์ธรรมของเขา เพราะเขาเองได้รับชื่อว่า ผู้จัดการ  หรือคนใช้ที่อสัตย์ธรรมอยู่แล้ว

คำสอน 

                   เราเป็นคริสตังผู้ติดตามพระเยซูคริสตเจ้า เพราะเราทราบดีว่า  พระองค์ทรงเป็น หนทาง  ความจริง  และชีวิต  พระองค์ทรงเป็นหนทางที่นำเราไปสวรรค์ พระองค์ทรงเป็นความจริงชั่วนิรันดร  เพื่อสอนเราให้เอาตัวรอดไปสวรรค์  พระองค์เป็นท่อธารแห่งชีวิตในโลกนี้  และชีวิตหน้า  เรารู้เรื่องทั้งหมดนี้อย่างดี และเราก็อยากจะไปสวรรค์จริง ๆ แต่ครั้งเวลาจะปฏิบัติ  เวลาจะลงมือลงไม้จริง ๆ เพื่อเอตัวรอดไปสวรรค์  เราทำได้มากน้อยเพียงไร

                     นี่เป็นคำถามที่เราต้องถามตัวเราเองด้วยความจริงใจ  เป็นคำถามที่พระเยซูคริสตเจ้าได้ทรงถามเราในนิทานเปรียบเทียบเรื่องนี้  และเพื่อช่วยให้เราตอบคำถามของเรา  พระองค์ก็ได้ทรงแนะนำเราให้เปรียบเทียบความกระตือรือร้น และความจริงใจของเราในการทำงานเพื่อเอาตัวรอดกับความสาละวนกับคนชาวโลกที่มีต่อการกอบโกยเงินทองและโภคทรัพย์ของเขา

                   ให้เราพิจารณาดูว่า ในวันหนึ่ง ๆ เราได้ใช้เวลามากน้อยเท่าไร  เพื่อวิญญาณของเราเป็นการเพียงพอหรือเปล่าที่เราจะใช้เวลาไปวัดร่วมบูชามิสซาในวันอาทิตย์เพียงหนึ่งชั่วโมง และภาวนาค่ำอีกเพียงวันละไม่กี่นาที เราสามารถที่จะใช้เวลาเอาใจใส่ต่อวิญญาณของเรามากกว่านี้ได้หรือเปล่า  เช่น  การไปร่วมมิสซาทุกวัน  หรือทุกครั้งที่มีโอกาส  การรำพึงหรือการสวดสายประคำเมื่อเวลาอำนวย  การจะร่วมทำงานกับสมาคมคาทอลิกในคณะต่าง ๆ บางคณะที่เรามีความสันทัด เพื่อจรรโลงพระศาสนจักร  หรือเรามักจะแก้ตัวบ่อย ๆ ว่าเราไม่มีเวลา  แปลกที่นักธุรกิจเขามักจะหาเวลาได้เสมอ เพื่อแสวงหาความรู้เพิ่มเติมในการประกอบอาชีพของเขา  ไม่ว่าจะโดยอ่านหนังสือหรือโดยกาประสบการณ์ทางด้านอื่น ๆ  ส่วนเรา เราได้ขวนขวายหาความรู้ความก้าวหน้าทางด้านวิญญาณอย่างไรบ้าง

                     คริสตังส่วนใหญ่ยังคงมีความคิดว่า  เรื่องศาสนา เรื่องความศักดิ์สิทธิ์ เรื่องการเอาวิญญาณรอด  เป็นเรืองของนักบวช เป็นเรื่องของพระสงฆ์ ภราดา  และภคินี  โปรดจำไว้ว่า  พระเป็นเจ้าทรงมีพระประสงค์ให้ทุกคนดำรงชีพอย่างศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานะนักบวชหรือฆราวาส และพระองค์จะทรงตัดสินทุกคนด้วยความเคร่งครัดในเรื่องการใช้เวลาที่ไร้ประโยชน์ และเป็นต้นในการใช้เวลาทำผิดต่อน้ำพระทัยของพระองค์

                   เราเป็นผู้จัดการของพระเป็นเจ้า พระองค์ได้มอบหน้าที่ให้เรา เพื่อเราจะได้ใช้ทั้งกายและใจตามพระประสงค์ของพระองค์  เราอาจจะผลาญพระคุณทั้งนี้ หรือเราอาจจะใช้พระคุณนี้อย่างดีเพื่อความรอดของเราเอง เวลาคิดบัญชีจะมาถึงในไม่ช้า  บางทีเร็วกว่าที่เราคิดเสียอีก พระเป็นเจ้าจะทรงเรียกเรามาให้การต่อทุกสิ่งทุกอย่างที่เราควรจะทำแต่เราไม่ได้ทำ  ขณะนี้เรายังมีเวลาก็ขอให้เราจัดบัญชีของเราให้เรียบร้อย เราอาจจะลบความผิดพลาดต่าง ๆ ที่เราได้เคยทำมาโดยอาศัยศีลอภัยบาป  และเขาสามารถที่จะเริ่มชีวิตใหม่ ชีวิตที่ศักดิ์สิทธิ์และบริสุทธิ์ เพื่อว่าเราจะไม่ต้องตกใจกลัวในวันพิพากษา ขอให้เรารำพึงถึงนิทานเปรียบเทียบเรื่องนี้บางครั้งบางคราวในชีวิตของเรา

ที่มา : แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ