หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

บทที่ 4
ความเฉลียวฉลาดทางโลกและความปรีชาฉลาดฝ่ายสวรรค์

พระเยซูคริสตเจ้าในฐานะที่พระองค์ทรงเป็นพระเป็นเจ้า พระองค์จึงทรงรู้จักธรรมชาติ ของมนุษย์เราได้ดียิ่งกว่าเราอย่างเปรียบเทียบกันไม่ได้เลย พระองค์ทรงทราบดีว่าในจำนวนผู้ติดตามพระองค์มากมายทุกยุคทุกสมัยซึ่งปรารถนาจะเข้าสวรรค์นั้น หลาย ๆ ค นไม่ได้สมตามความปรารถนา  ทั้งนี้ก็เพราะ  โลกได้ดึงดูดหรือหน่วงเขาไว้ คล้าย ๆ กับแรงดึงดูดของโลกที่ดึงดูดมนุษย์ให้ติดอยู่กับโลก  นอกจากว่าจะมีอำนาจใดที่มีอิทธิพล มากกว่ามาทำให้เราเคลื่อนเราจึงเคลื่อนได้ การต่อสู้กับความโน้มเอียงตามธรรมชาติฝ่ายต่ำของเรานั้นเรียกร้องการเสียสละ การพลีกรรม ซึ่งตามปกติขัดกับความรู้สึกตามธรรมชาติของ

ในสงครามทหารที่ต้องสู้รบด้วยความยากลำบากนั้น รู้สึกมีกำลังใจเมื่อเขาคิดถึงชัยชนะ  และรู้สึกว่าจะต้องพยายามเก็บความสามารถเพื่อมิให้แพ้  เพราะการพ่ายแพ้นั้นหมายถึ งชีวิต หรือการจำจองฉันใด  ทหารของพระคริสตเจ้าก็ต้องมีกำลังใจเมื่อคิดถึงรางวัลทั้งชั่วนิรันดร  ซึ่งเป็นผลของความพยายามของเขา และเมื่อคิดว่า ถ้าเขาพ่ายแพ้เขาจะต้องโทษทั้งชั่วนิรันดร์ฉันนั้น ความเสียส ละเพียงไม่กี่เดือนไม่กี่ปีจะมีความหมายอะไรเมื่อเทียบกับชั่วนิรันดรภาพ

เพราะเหตุนี้แหละ พระเยซูคริสตเจ้าจึงได้เน้นบ่อยทีเดียวถึงความจำเป็นที่เราจะต้องตัดใจจากของของโลก  อย่าให้เรามีใจจ ดจ่ออยู่กับของฝ่ายโลก  และให้เราไม่ฝันแต่ของสวรรค์ พระองค์ก็ได้ทรงเล่านิทานเปรียบเทียบ 3 เรื่อง เพื่อจะได้สั่งสอนผู้ที่ฟังพระวาจาของพระองค์อย่างแจ่มแจ้ง

ในนิทานเปรียบเทียบสองเรื่องแรก พระองค์ได้เล่าถึงหายนะอันน่าเศร้าของชายทั้งสองที่มีใจหมกมุ่นอยู่กับของ ของโลก ส่วนในเรื่องที่สามนั้นพระองค์เรียกร้องให้ผู้ที่ติดตามพระองค์ให้ใช้ความพยายามและความสามารถเพื่อให้ได้มาซึ่งอาณาจักรสวรรค์เหมือนกับที่คนชั่วและคนโง่เขลาได้ใช้ความพยายามและความสามารถเพื่อแสวงห าทรัพย์สมบัติฝ่ายโลก