หน้าหลักเช็คเมลล์ติดต่อเราสมุดเยี่ยมลิงค์คาทอลิกแผนผังเวบไซด์

ค้นหาข้อมูล :

ลูกสองคน
(มธ 21:28-32)

คำอธิบาย

                     พวกฟาริสีเป็นพวกที่สบประมาทคนบาปและคนเก็บภาษี  ซึ่งพวกเขาถือว่าเป็นคนบาปอย่างเปิดเผย  เพราะพวกเขาเป็นเครื่องมือของพวกโรมัน  รีด นาทาเร้นเพื่อนร่วมชาติยิวด้วยกัน แต่พวกคนบาปนี้แหละเป็นผู้ที่พระเป็นเจ้าทรงเหลียวแล พระเยซูคริสตเจ้าเคยตรัสไว้อย่างเปิดเผยว่าพระองค์เสด็จมาเพื่อ คนบาป  พวกเขาถือบัญญัติของโมเสส  แม้ว่าจะไม่ถือข้อปลีกย่อยเหมือนพวกฟาริสี  พระเป็นเจ้าทรงเรียกพวกคนบาปนี่แหละให้มาทำงานในสวนองุ่นของพระอ งค์  แต่พวกเขาได้ปฏิเสธ  อย่างไรก็ดี เมื่อนักบุญยอห์น บัปติสต์ ได้ประกาศว่าพระเมสสิยาห์ที่พวกเขาได้รอคอยมาเป็นเวลาช้านานนั้นเสด็จมาถึงแล้ว และ ท่านนักบุญก็ได้เทศน์เตือนพวกเขาให้กลับใจใช้โทษบาป  พวกคนเก็บภาษีและพวกโสเภณีได้เชื่อและถือตามคำพูดของนักบุญยอห์น  บัปติสต์  ได้เสียใจเพราะบาปของตน และได้สมัครใจติดตามพระเยซูคริสตเจ้า

                 ตรงกันข้าม  พวกฟาริสีซึ่งเปรียบเหมือนกับบุตรชายคนที่สองในนิทานเปรียบเทียบ เมือถูกสั่งให้ไปทำงานในสวนอ งุ่นก็ตอบทันทีว่าจะไป  แต่ที่สุดก็ไม่ได้ไป พวกเขาปฏิบัติตามกฏหมายของโมเสสตามตัวอักษรอย่างพิถีพิถัน  แต่ว่าขาดจิตตา รมณ์ที่จะปฏิบัติตามกฏหมายนั้น  การถือกฏหมายภายนอกนั้นหาได้เป็นที่พอพระทัยของพระเป็นเจ้าไม่ แต่ว่าเพื่อจะได้เป็นที่ พอใจสำหรับตัวเองหรือเพราะความจองหองมากกว่า กล่าวคือ เพื่อจะให้คนชมเชยสรรเสริญ  พระเยซูคริสตเจ้าเคยตรัสถึงพว กฟาริสีว่า กฏหมายที่สำคัญ ๆ และที่ถือยาก  พวกเขาก็ไม่ได้ถือ เช่น เรื่องความยุติธรรม ความเมตตากรุณา และศาสนกิจ แต่กลับชอบความฉ้อโกง การไม่รู้จักประมาณตน ความเทียมใจบุญ (เทียบ มธ 23:13-31)

                 เพราะเหตุนี้  พระเยซูคริสตเจ้าจึงได้ตรัสกับพวกเขาว่า  แท้จริงเรากล่าวแก่ท่านว่า “คนเก็บภาษีและพวกโสเภณีจ ะเข้าอาณาจักรสวรรค์ก่อนพวกท่าน” พระองค์ไม่ได้ตรัสว่าพระองค์ตัดพวกเขาขาดจากอาณาจักรสวรรค์ แต่เป็นเพราะพวกเขาปิดประตูของพวกเขา อาณาจักรสวรรค์ยังเปิดต้อนรับพวกเขา ถ้าหากเขาจะสุภาพทำการใช้โทษบาป แต่ว่าส่วนใหญ่ยังจะค งดื้อดึงในความจองหอง

             แม้ว่าพระเยซูคริสตเจ้าทรงมีพระประสงค์จะตำหนิความน่าซื่อใจคดของพวกฟาริสีและสภาพอันน่าสังเวชระหว่างพว กเขากับพระเป็นเจ้า ถึงกระนั้นคำสอนของพระองค์ก็มีค่า สำหรับทุกยุคทุกสมัย  การนมัสการพระเป็นเจ้าด้วยปากไม่มีคุณค่า อะไร การเป็นคริสตังแต่ชื่อไม่ใช่เป็นการทำงานจริง ๆ (1) ในสวนองุ่นของพระเป็นเจ้า พระเป็นเจ้าอาจจะเรียกเราไปรายงา นเวลาใดก็ได้ และเราจะตอบพระตุลาการที่เที่ยงธรรมได้อย่างไร เราอาจจะแก้ตัวข้าง ๆ คู ๆ ที่ช่วยอะไรไม่ได้  เช่นเราต้องส าละวนเอาใจใส่ต่อครอบครัว ต้องเอาใจใส่ต่อเรื่องปากเรื่องท้องจนกระทั่งไม่มีเวลาเอาใจใส่เรื่องวิญญาณ เราอยู่ในโลกที่เต็ มไปด้วยอบายมุขรอบด้าน  เราจะเป็นคนดีได้อย่างไร เราไม่ต้องการเป็นคนแปลกกว่าคนอื่น ๆ  ฯลฯ (2)

                 พระเป็นเจ้ายังทรงพระเมตตาต่อทุกคนที่ยังมีชีวิตอยู่ พระองค์เชื้อเชิญทุกคนให้ไปทำงานในสวนองุ่น  ถ้าเราเคยปฏิเสธมาแล้ว  เราก็ยังมีเวลาที่จะกลับตัว  เรายังมีเวลาสร้างคุณงามความดีชดเชยความเหลวแหลกใ นชีวิตที่แล้ว ๆ มา โดยพยายามปฏิบัติศาสนกิจด้วยความศรัทธาตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป  โปรดคิดถึงคนเก็บภาษี  และคนที่เคยดำรงชีพอย่างเหลวแหลกหลายคน  เช่น  มัทธิว  มารีอามักดาเลนา เอากูสตินโน  ฯลฯ ที่พระศาส นจักรเคารพนับถือเป็นนักบุญ และยังมีนักบุญชายหญิงมากมายที่ได้เริ่มชีวิตไม่ดี แต่ว่าได้กลับใจมารักพระเจ้าภายหลัง  ถ้าหากพระเป็นเจ้าได้ทรงพระเมตตาต่อคนเหล่านั้นได้  พระองค์ก็จะบันดาลให้เราเป็นนักบุญได้เช่นกั น

                 ถ้าหากว่าเราได้ต้อนรับการเชื้อเชิญจากพระเป็นเจ้าให้ทำงานในสวนองุ่น  สมัครใจรับศีลล้างบาป  และกลายเป็นส มาชิกของพระศาสนจักร  แต่ในภายหลัง (1) เรารู้สึกใจเย็นใจเฉยไม่มีความร้อนรนเหมือนตอนแรกๆ เพื่อทำงานที่พระเป็นเจ้าได้ทรงมอบให้แก่เรา  เรายังมีเวลาที่จะกลับใจและเริ่มงานอย่างดี

               ขอให้เราพิจารณามโนธรรมต่อหน้าพระเป็นเจ้าว่าในอดีตเราได้ใช้เวลามากน้อยเพียงไรทำงานเพื่อพร ะเป็นเจ้า  และถ้าหากในขณะนี้เราจะต้องให้การต่อหน้าพระเป็นเจ้า  ให้เราพิจารณาดูเสียว่าผลงานของเราเป็น อย่างไร  องุ่นของเราผลิดอกออกผลเท่าที่ควรหรือไม่ หรือว่าสวนองุ่นเต็มไปด้วยกอหนาม องุ่นนั้นก็กำลังเฉาแล ะเหี่ยวลง  ถ้าหากว่าสวนองุ่นของเรายังรกอยู่  ขอให้เราขอบพระคุณพระเป็นเจ้าที่ได้ทรงประทานเวลาให้เราสา มารถจัดการถางหญ้าร้ายและพรวนดินใส่ปุ๋ยให้ต้นองุ่น  และดังนี้ เมื่อพระองค์จะเรียกเราให้ไปรายงานเกี่ยวกับกิจการงานของเราก็จะเข้าไปหาพระองค์ด้วยความไว้วางใจ และด้วยความหวัง  เพราะเราได้ทำหน้าที่ที่พระสง ฆ์ทรงมอบหมายอย่างดีแล้ว

ที่มา : แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ