คริสตังจีนที่วัดหนองรีได้ย้ายมาหาที่ทำกินแถวบ้านนาเป็นจำนวนมาก เนื่องจากการเดินทางที่ยากลำบาก การคมนาคมในสมัยนั้นยังไม่มี พวกที่มีอาชีพทำสวน ปลูกผัก และเลี้ยงสัตว์ จะส่งผลผลิตไปขายที่ตลาดทีก็ยากลำบาก พวกเขาจึงไปเช่าสวน ปลูกผัก และเลี้ยงสัตว์ที่บริเวณบ้านนาซึ่งการเดินทางสะดวกกว่า ส่วนพวกที่ทำการค้าขายนั้น การที่จะไปซื้อสินค้าจากตลาดบ้านนามา
ขายที่หนองรีก็ทำได้ยาก ลำบาก และที่หนองรีเองก็ไม่ค่อยมีคนผ่านไป มาเท่าไหร่ การค้าจึงไม่ได้ผลดี พวกเขาจึงไปเช่าร้านในตลาดบ้านนาค้าขาย ด้วยเหตุนี้เอง กลุ่มคริสตชนที่บ้านนาจึงมีจำนวนมากพอสมควร เมื่อคุณพ่อลารเกย้ายไปเป็นเจ้าอาวาสที่วัดหนองรี ในเดือนเมษายน 1945 ที่มีบ้านนามีคริสตังถึง 750 คนแล้วซึ่งมากกว่าที่หนองรี (600 คน) คุณพ่อลารเกได้มาเยี่
ยมคริสตังเหล่านี้เป็นประจำทุกอาทิตย์หลังจากเสร็จพิธีมิสซาที่หนองรีแล้ว โดยใช้บ้านและร้านของพวกเขาเป็นที่ทำมิสซา จะมีก็แต่พวกคริสตังที่อยู่ใกล้เคียงเท่านั้นที่สามารถไปร่วมพิธีมิสซาได้ เพราะสถานที่คับแคบ เนื่องจากยังไม่มีวัดและจำนวนคริสตังก็มีมากจึงทำให้ประสบปัญหาค่อนข้างยุ่งยากมาก และการที่พวกเขาจะไปเข้าวัดที่หนองรีนั้นก็ต้องพบกับความลำบากใช่ไม่น้อย
คุณพ่อลารเกเห็นความจำเป็นที่จะต้องซื้อที่ดินสักแปลงหนึ่งเพื่อสร้างวัดแต่ท่านไม่มีทุน พอดีเวลานั้นสงครามโลกสงบลง พวกเช
ลยศึกในค่ายเขาชะโงกจะต้องเดินทางกลับประเทศของเขาแต่ยังมีศพเพื่อนทหารด้วยกันอีก 2ศพ พวกเขาจึงเรี่ยรายเงินกันแล้วนำมาบริจาคให้คุณพ่อลารเกเพื่อใช้ซื้อที่ดินแปลงหนึ่งสำหรับสร้างวัดและให้ย้ายศพเพื่อนของเขามาไว้ในที่ดินผืนนั้นด้วย คุณพ่อลารเกได้นำเงินจำนวนนั้นมาซื้อที่นาแปลงหนึ่งใกล้กับตลาดบ้านนา และได้บอกบุญไปยังคริสตังตามที่ต่างๆ ในเขตมิสซัง ให้ช่วยสมทบทุนเพื่อสร้างวัดด้วย ที่สุดในวันที่ 8 มีนาคม 1946 ก็ได้ลงมือก่อสร้างวัด ต่อมาวันที่ 3 มิถุนายน 1946 คุณพ่อลารเกต้องเดินทางไปพักผ่อนที่ประเทศฝรั่งเศส เนื่องจากการที่ท่านต้องเป็นธุระจัดการเรื่องการสร้างวัดบ้านนา ทั้งวิ่งเต้นหาทุน และคุมการก่อสร้างเอง ทำให้ร่างกายเจ็บป่วย และอ่อนกำลังลง และได้มอบให้คุณพ่อเลโอนารด์ ผลสุวรรณ ปลัดวัดหนองรีเป็นผู้รับผิดชอบการสร้างวัดบ้านนาต่อจนเสร็จ ในเดือนตุลาคม 1946 ทำพิธีเ
สกวันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 1946 ในวันเสกวัดนี้เองคุณพ่อเลโอนารด์ได้ทำพิธีโปรดศีลล้างบาป เป็นครั้งแรกในวัดนี้ และบัญชีศีลล้างบาปของวัดบ้านนาก็เปิดในวันนี้เช่นเดียวกัน ในปี 1947พระสังฆราชแต่งตั้งให้คุณพ่อเลโอนารด์ เป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านนาด้วย คุณพ่อเลโอนาร์ดได้สร้างพักซิสเตอร์และขอซิสเตอร์คณะพระหฤทัยฯ มาช่วยงานที่วัดบ้านนา ในปี 1952 คุณพ่
อเปแร็ง เจ้าอาวาสและคุณพ่อโกเชต์พ่อปลัด ได้รื้อวัดและนำไม้มาสร้างเป็นโรงเรียน ใช้ชื่อว่า โรงเรียนมาลาสวรรค์พิทยา และใช้ห้องหนึ่งเป็นวัด ปี 1954 คุณพ่อโกเชต์ได้ซื้อที่ดินเพิ่มเพื่อขยายโรงเรียน และ เตรียมสร้างวัด
- ปี 1955 คุณพ่อโกเชต์ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสแทนคุณพ่อเปแร็งซึ่งประสบอุบัติเหตุต้องกลับไปรักษาตัวที่ประเทศฝรั่งเศส คุณพ่อโกเชต์ได้สร้างหอพักนักเรียนประจำ เนื่องจากจำนวนนักเรียนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อาคารเรียนหลังใหม่ที่ใช้เป็นทั้งโรงเรียนและวัดและที่พักของพระสงฆ์ด้วยนั้น เล็กเกินไปในเวลานี้ ท่านจึงคิดที่จะสร้างวัดต่างหาก จึงได้ไปบอกบุญหาทุนช่วยสร้างวัด จนคริสตังที่กรุงเทพฯและวัดใหญ่ๆรู้จักท่านดีทุกคน ท่านต้องการสร้างวัดให้มีลักษณะแบบวัดไทย
สมัยใหม่จึงต้องใช้ทุนมาก วันที่ 3 เมษายน 1960 พระสังฆราชโชแรงได้มาทำพิธีเสกศิลาฤกษ์ และเสกระฆังใบแรกของวัดซึ่งมีผู้ไม่ประสงค์ออกนามถวายให้ ในเดือนพฤศจิกายน 1962 ได้มีพิธีเสกวัดบ้านนาหลังใหม่อย่างสง่า นอกจากนี้คุณพ่อโกเชต์ยังได้ซื้อที่ดินเพิ่มอีกหลายแปลงที่บ้านนา
- คุณพ่อวิศิษฏ์ หริพงศ์
(1969-1974) ไ ด้รับแต่งตั้งให้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านนาท่านได้สร้างอาคารเรียนหลังใหม่เป็นตึกใหญ่ 2 ชั้น เสร็จในปี 1969 ส่วนโรงเรียนหลังเก่าได้รื้อทิ้งและใช้ไม้มาสร้างบ้านพักพระสงฆ์ชั่วคราวและต่อมาได้สร้างใหม่อย่างถาวร ท่านได้ขุดบ่อบาดาลเพื่อให้โรงเรียนมีน้ำใช้อย่างเพียงพอ
- คุณพ่อลารเก
กลับมาเป็นเจ้าอาวาสอีกครั้งในปี 1975 ท่านได้ก่อตั้งคณะเยาวชนของวัดขึ้นสร้างรั้วล้อมรอบที่ดินของวัด สร้างศาลาประชาคม ซึ่งอำนวยความสะดวกให้แก่บรรดาคริสตังวัดบ้านนาเป็นอย่างมาก ปี 1982 ท่านได้รายงานต่อกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอจดทะเบียนที่ดินของวัดบ้านนาจำนวน 25 ไร่เศษ ให้เป็นของมิสซังได้สำเร็จ เนื่องจากอาคารเรียนหลังเก่าที่ใช้เป็นอาคารเรียนสำหรับอนุบาลนั้น ชำรุดมากมายและเป็นอันตรายแก่เด็ก ปี 1983 ปลัดของคุณพ่อลารเก
ซึ่งรักษาการณ์แทนในขณะที่ท่านกลับไปพักผ่อนที่ฝรั่งเศส คือคุณพ่อไพริน เกิดสมุทร ได้สร้างอาคารอนุบาลใหม่เป็นไม้แข็งแรง หลังคาเป็นคอนกรีต ต่อมา ในปี 1984 อาคารหลังนี้ได้ถูกรื้อไป
- สมัยคุณพ่อไพริน(1984-1985) เป็นเจ้าอาวาส พระคาร์ดินัลมีชัย กิจบุญชู ได้จัดบูรณะวัดบ้านนาโดยการก่อสร้างโรงเรีย
นอนุบาลเป็นตึก 2 ชั้นสวยงาม สร้างหอพักสำหรับนักเรียนประจำเป็นตึก 2 ชั้นเช่นกัน สร้างห้องประชุม บ้านพักพระสงฆ์ บ้านพักซิสเตอร์ ฯลฯ และจัดสร้างทางให้รถยนต์เข้าออกได้สะดวกสบาย นอกจากนี้คุณพ่อไพรินยังจัดสร้างอนุสาวรีย์นักบุญเปาโล ซึ่งทำการเสกพร้อมกับอาคารต่างๆในวันที่ 25 มกราคม1986 อันเป็นวันฉลองหิรัญสมโภชวัดหลังปัจจุบัน
- คุณพ่อบรรจบ โสภณ
(1986-1987) รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสได้เพียงปีเดียว ก็ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
- คุณพ่อธวัช พันธุมจินดา(1987) จึงได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสแทนในปี 1987 แต่ก็เป็นระยะเวลาเพียงปีเดียว
- คุณพ่อบัณฑิตย์ ประจงกิจ(1988) ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสได้เข้าบริหารงานด้านโรงเรียน ส่งเสริมกิจกรรมต่างๆของวัดอย่างมีประสิทธิภาพ
- คุณพ่อพจนารถ นิรมลทินวงศ์ (1994-1998) เป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ 12 ขณะนั้นจำนวนนักเรียนยังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ คุณพ่อจึงได้สร้างอาคารเรียนชั่วคราวต่อจากอาคารชั่วคราวเดิมออกมาอีก 5 ห้อง เพื่อรองรับจำนวนนักเรียนพร้อมทั้งซื้อที่ดินเพิ่มอีก 6 ไร่ 20 ตารางวา และยังได้ติดตั้งพัดลมเพิ่มจาก 1 เป็น 2 ตัว ในแต่ละห้องเรียนอีกด้วย นอกจาก
นั้นคุณพ่อยังได้ออกเยี่ยมสัตบุรุษ จัดทะเบียนวัดใหม่ นำแม่พระออกไปสวดตามบ้านทุก ๆ วันเสาร์ พร้อมกับบรรดาสัตบุรุษ และยังนำสัตบุรุษเตรียมจิตใจ สำหรับการฉลองครบรอบ 50 ปีของวัดนักบุญเปาโล นำรูปนักบุญไปสวดตามบ้านเพื่อเตรียมจิตใจสัตบุรษ สร้างสวนหย่อมรอบบริเวณวัด ปรับขยายถนนและรั้วบ้านพระสงฆ์ ซิสเตอร์และเป็นแบบอย่างความศรัทธษต่อพระอีกด้วย
- คุณพ่อสุรชัย กิจสวัสดิ์ (1999-2004 )
- คุณพ่อศุภศิลป์ สุขสุศิลป์ ( 10 พฤษภาคม 2004 - 12 พฤษภาคม 2009 ) ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส และได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดแม่พระประจักษ์ เมืองลูร์ด หัวตะเข้
- คุณพ่อประยุทธ ชลหาญ ( 13 พฤษภาคม 2009 - 30 เมษายน 2013 ) คุณพ่อทำหน้าที่เจ้าอาวาสวัดพระมารดานิจจานุเค
ราะห์ จากนั้น ปี 2009 ได้รับแต่งตั้งให้มาเป็นเจ้าอาาส และ ปี 2013 เข้าพักรักษาตัว
- คุณพ่อธนากร เลาหบุตร ( 1 พฤษภาคม 2013 - ปัจจุบัน ) เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน
|